ไม่พบผลการค้นหา
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาของไทย เผยแผนสนับสนุนสนามแข่งรถ-สระว่ายน้ำ-สนามกีฬาทั่วประเทศ ผลักดันการเติบโตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชิงกีฬา ส่วนกัมพูชาเล็งพัฒนาเส้นทางแข่งแรลลี หลังร่วมจัดแข่งรถข้ามประเทศในเอเชีย

นิกเกอิ เอเชี่ยน รีวิว สื่อธุรกิจของญี่ปุ่น รายงานอ้างอิงคำให้สัมภาษณ์ของนายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เมื่อวันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา โดยระบุว่า ทางกระทรวงฯมีเป้าหมายจะพัฒนาและวางระบบการจัดการสนามกีฬา สนามแข่งรถ รวมถึงสระว่ายน้ำ เพื่อขยายการเติบโตของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงกีฬาให้ได้ร้อยละ 10 ต่อปีในช่วงดำเนินการแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ 12 พ.ศ. 2560-2564 โดยตั้งเป้าว่าจะต้องส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนให้คืบหน้า

ทั้งนี้ นายพงษ์ภาณุ ได้เดินทางไปประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการลงทุนด้านการท่องเที่ยวที่กรุงโตเกียวของญี่ปุ่นเมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา โดยหวังว่าจะกระตุ้นความสนใจจากแฟนกีฬาชาวญี่ปุ่น รวมทั้งคาดหวังว่ากิจกรรมท่องเที่ยวเชิงกีฬาต่างๆ จะช่วยให้นักท่องเที่ยวที่มาเยือนประเทศไทยใช้เวลาทำกิจกรรมในด้านต่างๆ เพิ่มขึ้นร้อยละ 50 เมื่อเทียบกับนักท่องเที่ยวทั่วไป

ที่ผ่านมา อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงกีฬาสร้างรายได้ให้ประเทศไทยประมาณปีละ 2.1 แสนล้านบาท ซึ่งรวมถึงการจัดกิจกรรมและการจำหน่ายสินค้าต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง จึงคาดหวังว่าธุรกิจการท่องเที่ยวจะขยายตัวเพิ่มขึ้น และรัฐบาลมีแผนจะส่งเสริมการลงทุน ทั้งลดหย่อนภาษีและยกเว้นภาษีแก่ผู้ลงทุนรายใหญ่ โดยยกตัวอย่างสนามแข่งของใน จ.บุรีรัมย์ ซึ่งจะเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันจักรยานยนต์ชิงแชมป์โลก 'โมโตจีพี' ระหว่างวันที่ 5-7 ต.ค.ที่จะถึง โดยมีบริษัท ปตท จำกัด มหาชน ร่วมเป็นผู้สนับสนุนด้วย

อย่างไรก็ตาม สื่อญี่ปุ่นรายงานว่า การเกิดอุบัติเหตุด้านคมนาคมในไทย ทั้งทางบกและทางน้ำ รวมถึงภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงฤดูร้อนของปีนี้เป็นต้นมา ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวของไทย แต่ไม่ได้ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามายังไทยลดน้อยลงเมื่อเทียบกับสถิติช่วงเดียวกันเมื่อปีที่แล้ว 

ในเวลาไล่เลี่ยกับที่รัฐบาลไทยประกาศว่าจะส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬาก็มีรายงานจากขแมร์ไทม์ส สื่อของกัมพูชา ซึ่งระบุว่า กระทรวงสิ่งแวดล้อมของกัมพูชามีแผนจะพัฒนาเส้นทางแข่งรถยนต์ในประเทศเช่นกัน โดยเสนอให้มีการพิจารณาตัดถนนและเส้นทางเชื่อมต่อพื้นที่ป่าไม้ทั่วประเทศ โดยคาดว่าจะดึงดูดให้มีผู้สนใจใช้เส้นทางดังกล่าวเป็นพื้นที่จัดการแข่งขันเพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ เมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา กัมพูชายังเป็นพื้นที่ร่วมจัดการแข่งขัน 'เอเชีย ครอสคันทรี แรลลี่ 2018' ที่เริ่มต้นจากพัทยาของไทยไปสิ้นสุดที่กรุงพนมเปญของกัมพูชา ถือว่าประสบความสำเร็จ เพราะมีทีมนานาชาติเข้าร่วมแข่งขัน และได้เสริมสร้างความร่วมมือด้านการทำงานระหว่างประเทศ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง: