ไม่พบผลการค้นหา
'นายกรัฐมนตรี' โล้ชิงช้า 'อาข่า' ลงมาถึงกับเซ พร้อมย้ำ ลงพื้นที่ ครม.สัญจร ไม่ได้มาหาเสียง แต่มาติดตามแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น

ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจที่จังหวัดพะเยา พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เดินทางต่อมายังหมูบ้านเมืองรวง ตำบลแม่กรณ์ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย เพื่อเยี่ยมชมครัวเรือนต้นแบบตามโครงการโอทอป นวัตวิถี โดยทันทีที่มาถึงนายกรัฐมนตรีได้ทักทายชาวเขาเผ่าอาข่าที่มารอต้อนรับและดื่มกาแฟอาข่า ซึ่งถือเป็นกาแฟขึ้นชื่อของหมู่บ้าน ที่นักท่องเที่ยวต้องแวะชิม ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้ดื่มกาแฟ ไปพร้อมๆ กับชมการแสดง 'บ่อชอตุ๊' ซึ่งเป็นการแสดงประจำเผ่าอาข่า

จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เยี่ยมชมการโล้ชิงช้า พร้อมทดลองโล้ชิงช้าด้วยตัวเองอย่างสนุกสนาน แต่หลังลงจากชิงช้าปรากฎว่านายกรัฐมนตรีทรงตัวไม่อยู่ เดินเซ จนทีมงานรักษาความปลอดภัยประจำตัวต้องเข้ามาช่วยประคอง ซึ่งนายกฯระบุว่า ไม่เป็นไร ยังไหว ก่อนจะชูมือให้กล้องและเดินไปขึ้นรถราง เพื่อชมหมู่บ้านต้นแบบ


ประยุทธ์.jpg

ซึ่งนายกรัฐมนตรี เป็นประธานสักขีพยานมอบหนังสืออนุญาตเข้าทำประโยชน์ หรืออยู่อาศัยในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนสอง ประกอบด้วย เชียงราย พะเยา พร้อมทั้งมอบหนังสือแสดงโครงการป่าชุมชนให้กับ 4 จังหวัด คือ เชียงราย น่าน พะเยา แพร่ 

โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าเวลามาต่างจังหวัด ก็ชอบบอกว่ามาหาเสียงซึ่งคงไม่ใช่ และไม่ได้มาปลูกผักชี วันนี้ที่มามีหลายเรื่อง ทั้งความมั่นคง ยาเสพติด ซึ่งตนจะถามรายละเอียดในการทำงาน เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาประชาชนในพื้นที่ ปรับกระบวนการความคิดให้กับตนเอง โครงการไทยนิยมเป็นของประชาชนทั้งสิ้น เงิน 2 แสนบาท แม้ไม่เยอะ แต่จะทำอย่างไรให้ชุมชนดีขึ้น พร้อมบอกที่บ้านเมืองรวงมีความอบอุ่นดี

พร้อมกันนี้ ย้ำว่าโครงการไทยนิยมนั้น ไม่ได้เป็นการหาเสียง แต่มาเพื่อรับฟังปัญหาให้ชาวบ้าน ที่ต้องทำประชาคมหมู่บ้าน ประชาธิปไตยต้องเคารพเสียงส่วนใหญ่ต้องดูแลคนส่วนน้อย ไม่ใช่ใช่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง

นายกรัฐมนตรี ยังแนะนำให้ภาคเหนือทั้งหมดให้มีความเชื่อมโยง การท่องเที่ยวความปลอดภัยสำคัญที่สุด แต่ตนดูบ้านเมืองรวงแล้วดี เพียงยังไม่มีกิจกรรมที่ต้องมีความเชื่อมโยงเส้นทางการท่องเที่ยว ที่ไม่ใช่จะมาเมื่อใดก็ได้ แต่ต้องแบ่งกิจกรรมเป็นรอบๆ ขณะที่การทำเกษตรวันนี้จะรอเพียงรัฐบาลอย่างเดียวไม่ได้ แต่วันนี้เกษตรกรเองต้องมีการปรับตัว รวมกลุ่มกันให้ได้ และพัฒนาสินค้าให้น่าสนใจ 

เตือนอย่าเชื่อคำบิดเบือน ฝากรณรงค์ห้ามขายเสียง

นายกรัฐมนตรี ยังระบุโครงการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูง อาจมีการเชื่อมโยงกับต่างประเทศในสายที่ 2 ในอนาคต แต่วันนี้ต้องนำงบประมาณมาใช้ในส่วนอื่น มีงบแค่นี้ก็สร้างเท่านี้ไปก่อน พร้อมทั้งการค้าชายแดนในวันนี้จะเพิ่มมากขึ้นกับประเทศเพื่อนบ้าน โดยใช้โอกาสที่ดี ในการประชุมอาเซียน 2562 ร่วมกับประเทศเพื่อนบ้าน 10 ประเทศ


ประยุทธ์.jpg

แม้ว่าตนนั้นจะอยู่หรือไม่อยากฝากให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องช่วยกันประสานความร่วมมือกับกลุ่มอาเซียนให้เกิดการค้าขายที่แน่นแฟ้นมากขึ้น พร้อมทั้งรถไฟทางคู่เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของที่รัฐบาลดำเนินการก่อสร้างจะเป็นการรองรับการขนส่งสินค้า และการเปลี่ยนถ่ายสินค้าจากศูนย์ขนส่งสินค้าเชียงของเข้าสู่ใจกลางประเทศ

อย่างไรก็ตาม การค้าขายต้องดูผ่านออนไลน์ แต่อย่าดู 'ประเทศกูมี' ใครฟังบ้าง ขออย่าไปสนใจ ถ้าสังคมยอมรับได้ก็ว่ากันไป แต่คอยดูลูกหลานในอนาคต ว่าจะใช้คำหยาบคาย อ้างสิทธิ์ต่างๆ หรือไม่ ก็อย่ามาว่าตน เพราะไม่ทำอะไร ต้องรับผิดชอบกันเอง ดังนั้นอย่าไปสนับสนุน ตนทำอะไรก็ไม่เคยละเมิดสิทธิ์ใคร ขออย่าทำผิดกฎหมาย หรือทำผิดกฎหมายแล้วหนีไปต่างประเทศได้หรือไม่ เพราะตนทำอะไรก็ด่าตนโครมโครม ทำได้หรือไม่

ทั้งนี้ รัฐบาลไม่มีนโยบายให้เกิดการทุจริต ที่มีป้ายรณรงค์หมู่บ้านเมืองรวง ไม่ขายเสียง ติดอยู่ในชุมชน ตนขอให้ทำได้จริง ขออย่าให้ใครมาบิดเบือน ให้ร้าย แม้บอกว่าต้องเป็นประชาธิปไตย 100 เปอร์เซ็นต์ ทำอะไรก็ได้ แต่ตนมองว่ากฎหมายถือว่าสำคัญที่สุด พร้อมยืนยันตนเองไม่มาหลอกชาวบ้าน เพราะรัฐบาลนี้มีแผนแม่บท 

ส่วนตอนท้ายนายกรัฐมนตรียังกล่าวคำหวานอีกว่า วันนี้ตนได้ผ้าขาวม้าจากชาวบ้าน โดยระบุอีกว่า อากาศร้อนแต่รัก และจะทำงานต่อไปขอยอมตาย ซึ่งนายกรัฐมนตรีทำท่าผูกผ้าที่คน แล้วพูดติดตลก ว่าคืนนี้ตนจะเอาผ้ามาผูกคอ เพราะอากาศหนาว เรียกเสียงหัวเราะให้ชาวบ้าน

ภายหลังจากที่พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เข้าสักการะพระประธานในวัดท่าตะไคร้และนมัสการเจ้าอาวาสวัดท่าตะไคร้เรียบร้อยแล้วก็ได้ออกมาพูดคุยกับประชาชนที่รออยู่บริเวณวัด โดยได้กล่าวชมว่า วันนี้สวยทุกคนเลย คนเหนือน่ารัก จากนั้นได้รับคำชมว่า หล่อกว่าในทีวีอีก นายกรัฐมนตรีจึงย้อนถามว่า จริงหรือ

"ก็ขอให้ดูรายการของนายกรัฐมนตรีบ้าง จะได้ติดตามความคืบหน้าพัฒนาการของโครงการต่างๆว่าพัฒนาไปถึงไหนแล้ว ถ้าไม่ดูก็จะไม่รู้ว่ารัฐบาลทำอะไรไว้ให้"

บางคนบอกไม่ได้รับแต่แท้จริงคือ ทยอยได้รับในแต่ละพื้นที่ รวมกับไปฟังคนพูดปลุกปั่นอีกก็ไปกันใหญ่ วันนี้ขอให้กะตือรือร้นให้มากขึ้น พร้อมแซวว่า คนเหนืออากาศดีทำอะไรช้า ฟ้อนรำก็ช้า ไม่ทันเขา เพราะวันนี้โลกกำลังเปลี่ยนแปลงไปในทางที่รวดเร็วขึ้น 

ดังนั้นหลายอย่างมันเข้ามาทางโทรทัศน์ โทรศัพท์ เราจึงคิดช้าอย่างเดิมไม่ได้แล้ว ไม่มีอะไรได้เปล่า ไม่มีอะไรได้หรือเสียทั้งหมด มีได้มีเสียบ้าง จึงจะเจริญไปด้วยกันได้ ถ้าจะได้เหมือนกันหมดก็ไม่ใช่ระบอบประชาธิปไตย เพราะทุกคนต้องการประชาธิปไตย แล้ววันนี้นายกรัฐมนตรีเข้มงวดอะไรหรือ เดือดร้อนไหม บังคับอะไรไหม จับใครมาลงโทษไหม ไม่เห็นมีใครเดือดร้อนสักคน ตนก็ไม่รู้เหมือนกันใครเดือดร้อน

ขอฝากว่าวันนี้ไม่ได้ทำเพื่อใครแต่ทำเพื่อลูกหลานในวันหน้า จะได้มีความสุขมากกว่าวันนี้ เราลำบากมาพอแล้ว โดยเฉพาะการทำเกษตร ต้องเป็นเกษตรพันธุ์ใหม่ เพื่อพัฒนาและแข่งขันไปเรื่อยๆ ทุกวันนี้ต้นทุนเรายังสูง เราต้องไปสู่เกษตร GAP ไปเกษตรปลอดภัยแล้วไปเกษตรออนทรีย์ ขอให้อ่านหนังสือกันบ้าง และดูรายการนายกรัฐมนตรีบ้าง เปิดเว็บไซต์กระทรวงต่างๆดูสาระบ้างไม่ใช่ดูแต่หน้านายกรัฐมนตรี

ทั้งนี้ รัฐบาลจึงต้องมียุทธศาสตร์ชาติ โดยตั้งเป้าไว้ 20 ปี เพราะคิดถึงลูกหลานที่เกิดในวันนี้จบปริญญาตรีในอนาคตแบ้วจะมีอะไรให้เขาทำ ตนเองทำให้ประชาขนมา 4 ปีแล้วก็ต้องทำต่อไปข้างหน้า ส่วนเรื่องน้ำไม่ต้องกลัว จะนำงบประมาณมาดูตามความต้องการชาวบ้านและจัดสรรงบประมาณให้เหมาะสม ซึ่งทุกวันนี้จ.เชียงรายได้งบฯไปมากกว่าก่อนหน้านี้ พร้อมแซว่า

“แต่ก่อนไม่ค่อยได้แต่รักเขาจังเลย ที่นายกรัฐมนตรีคนนี้ไม่รักบ้าง ไม่รักก็ไม่เป็นไร แต่เราจะรักคุณ นายกรัฐมนตรีต้องรักทุกคนอยู่แล้ว เกลียดใครไม่ได้”


ข่าวที่เกี่ยวข้อง: