ไม่พบผลการค้นหา
ฮ่องกงกำลังสูญเสียความเชื่อมั่นจากนักลงทุนและนักธุรกิจในการเป็นศูนย์กลางทางการเงินของโลก หลังนักลงทุนแห่ย้ายทรัพย์สินไปยังสิงคโปร์ เนื่องจากกังวลต่อกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนให้แก่จีน

นับตั้งแต่อยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษในปี ค.ศ. 1898 'ฮ่องกง' ได้พัฒนาตนเองกลายเป็นศูนย์กลางการค้าและการเงินด้วยระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยมซึ่งแตกต่างจากจีนในอดีต ส่งผลให้ฮ่องกงเปลี่ยนตัวเองจากเมืองท่าเสรีกลายเป็นศูนย์กลางการค้าและการเงินระดับโลก

ท่าเรือของฮ่องกงกลายเป็นท่าเรือขนส่งสินค้าที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก นอกจากนี้เศรษฐกิจแบบทุนนิยมที่ถูกส่งต่อจากอังกฤษเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ฮ่องกงกลายเป็นศูนย์กลางธุรกิจที่สำคัญ และยิ่งเมื่อจีนดำเนินนโยบายเปิดประเทศในช่วงทศวรรษ 1970 ฮ่องกงจึงกลายเป็นประตูหน้าด่านทางการค้าและธุรกิจที่สำคัญของเอเชียในการเชื่อมต่อกับจีนแผ่นดินใหญ่

แต่ในวันนี้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนและบริษัทการจัดการทรั��ย์สิน รวมไปถึงบริษัทการเงินต่างๆ ที่มีต่อฮ่องกงนั้นเริ่มสั่นคลอน สืบเนื่องจากกฎหมายการส่งผู้ร้ายข้ามแดนที่รัฐบาลฮ่องกงพยายามผลักดันกฎหมายฉบับนี้เข้าสู่สภาเมื่อต้นปีที่ผ่านมา

รอยเตอร์รายงานว่า บริษัทที่ปรึกษาทางการเงินและการลงทุนต่างชาติ (wealth managers) บางรายมีแผนย้ายบริษัทไปยังสิงคโปร์ บริษัท wealth managers แห่งหนึ่งกล่าวว่า ทางบริษัทกำลังประเมินสถานการณ์ในฮ่องกงที่เกิดขึ้นในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งทางบริษัทเองต้องให้ความสำคัญกับความมั่นคงของลูกค้ามาเป็นอันดับแรก ทางบริษัทไม่ต้องการที่จะปิดบริษัทลง หากวันหนึ่งลูกค้าไม่เชื่อมั่นในความปลอดภัยของการลงทุนและตลาดการเงินในฮ่องกงอีกต่อไป

รอยเตอร์ยังกล่าวว่า เศรษฐีชาวฮ่องกงบางรายนั้นได้ย้ายทรัพย์สินออกจากฮ่องกง เนื่องจากความกังวลถึงร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนที่อาจทำให้ฮ่องกงตกอยู่ภายใต้การตรวจสอบของจีนที่เพิ่มมากขึ้น

ร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนที่เป็นชนวนให้ชาวฮ่องกงนับล้านออกมาประท้วงนับตั้งแต่กลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาจะครอบคลุมถึงชาวฮ่องกง คนต่างชาติ และคนจีนที่อาศัยหรือท่องเที่ยวในฮ่องกง สามารถถูกส่งไปรับโทษที่จีนได้ ซึ่งร่างกฎหมายดังกล่าวชาวฮ่องกงต่างกังวลว่า มันเป็นการคุกคามหลักนิติบัญญัติของฮ่องกงและยังส่งผลต่อสภานะการเป็นศูนย์กลางทางการเงินของฮ่องกงอีกด้วย

ศาสตราจารย์ ไซมอน ยัง จากมหาวิทยาลัยกฎหมายฮ่องกงกล่าวว่า "หากร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนมีการบังคับใช้นั้น ศาลจีนจะสามารถเรียกร้องให้ศาลฮ่องกงระงับหรืออายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับคดีอาชชญากรรมในจีนแผ่นดินใหญ่ได้นอกเหนือไปจากข้อกฎหมายที่มีอยู่ในปัจจุบัน"

ที่ผ่านมาฮ่องกงถูกจัดอันดับให้เป็นศูนย์กลางการเงินและการลงทุนที่มีการค้าอย่างเสรี ซึ่งเป็นผลพวงมาจากการตกอยู่ภายใต้อาณานิคมของอังกฤษ แต่ทั้งนี้เมื่อช่วง 2- 3 ปีที่ผ่านมา ฮ่องกงได้สูญเสียตำแหน่งดังกล่าวให้กับสิงคโปร์ไป

สิงคโปร์.jpg

(บรรดาตึกสูงในสิงคโปร์ต่างเป็นที่ตั้งของสำนักงานการเงินระดับโลก)

แบบสำรวจจาก Trade Publication Asian Private Banker ระบุว่า 58 เปอร์เซ็นต์ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่า สิงคโปร์เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการเป็นศูนย์กลางของการจัดตั้งบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน เนื่องจากกฎระเบียบ ข้อกฎหมายต่างๆ ของสิงคโปร์นั้นเอื้ออำนวยกว่า และยังมีความเกี่ยวโยงกับจีนแผ่นดินใหญ่น้อยกว่าฮ่องกง ทั้งในเรื่องการเมืองและการเงินรวมไปถึงข้อบังคับต่างด้วยเช่นกัน

ทางด้านนักวิเคราะห์บางรายกล่าวว่า หากสถานการณ์ในฮ่องกงยังคงดำเนินเช่นนี้ต่อไป สิงคโปร์จะเป็นหนึ่งในประเทศที่ประโยชน์จากนักลงทุนฮ่องกงและผู้ที่ต้องการย้ายทรัพย์สินออกจากฮ่องกง

'ฮ่องกง' เป็นเอกราชจากอังกฤษเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 1997 และจะยังคงสถานะ '1 ประเทศ 2 ระบบ' ไปอีีก 50 ปี ตามข้อตกลงระหว่างจีนและอังกฤษที่ทำขึ้นในช่วงทศวรรษ 1970 จนถึงปี ค.ศ.2047 เมื่อถึงเวลานั้นฮ่องกงอาจจะกลายเป็นเพียงจังหวัดหนึ่งของจีนเท่าไม่ได้คงสถานะเขตการปกครองพิเศษอย่างเช่นทุกวันนี้ และเมื่อถึงวันนั้นสถานะศูนย์กลางทางการเงินของฮ่องกงจะเป็นเช่นไร รวมถึงสิทธิและเสรีภาพทางการลงทุนที่มีแต่เดิมนับตั้งแต่ยุคอาณานิคมจะเปลี่ยนไปมากน้อยแค่ไหน หากฮ่องกงกลับสู่อ้อมกอดของจีนอย่างถาวรในปีค.ศ.2047

ที่มา Reuters / thestandard / SCMP

ภาพ Pavel Roev on UnsplashR.H. Lee on Unsplash

ข่าวที่เกี่ยวข้อง