ไม่พบผลการค้นหา
ราวกับซีรีย์ฮิตเรื่อง ‘Breaking Bad’ เมื่อศาสตราจารย์ด้านเภสัชวิทยาจากมหาวิทยาลัยในประเทศญี่ปุ่นยอมรับว่า ให้นักศึกษาปรุงยาอี และดีไซเนอร์ ดรัก ที่ออกฤทธิ์คล้ายกัญชาจริง โดยอ้างว่าทำเพื่อการศึกษา แม้จะรู้ว่าผิดกฎหมาย

ทัตสึโนรี อิวามุระ (Tatsunori Iwamura) อายุ 61 ปี ศาสตราจารย์จากวิทยาลัยเภสัชศาสตร์ แห่งมหาวิทยาลัยมัตสึยามะ จังหวัดเอฮิเมะ ประเทศญี่ปุ่น ยอมรับกับเจ้าหน้าที่สอบสวนว่า เมื่อปี 2013 เขาให้ลูกศิษย์ปรุงเมทิลลีนไดออกซีเมทแอมเฟตามีน (Methylenedioxymethamphetamine : MDMA) หรือเรียกกันโดยทั่วไปว่า ‘ยาอี’ และเมื่อปีที่แล้ว ยังให้ปรุงยาอีกชนิกหนึ่งเรียกว่า ‘ดีไซเนอร์ ดรัก’ (Designer Drug) ชนิด 5F-QUPIC ทั้งๆ ที่ตัวเองไม่ได้รับใบอนุญาต พร้อมกับยอมรับว่า ตระหนักดีว่าสิ่งที่ทำอยู่นั้นผิดกฎหมาย

ศาสตราจารย์คนดังกล่าว กล่าวกับพนักงานสอบสวนว่า มีจุดประสงค์จะส่งเสริมการศึกษาของนักศึกษาเภสัชศาสตร์ อย่างไรก็ตาม ไม่มีการตรวจพบยาอีที่ถูกผลิต เนื่องจากอาจถูกกำจัดไปแล้ว เจ้าหน้าที่สาธารณสุขท้องถิ่นผู้ไม่ประสงค์ออกนามเปิดเผยกับสำนักข่าวเอเอฟพี

กฎหมายของประเทศญี่ปุ่นระบุว่า นักวิจัยจำเป็นต้องมีใบอนุญาต ซึ่งออกโดยหน่วยงานในภูมิภาค จึงจะสามารถผลิตยาเสพติดเพื่อการศึกษาได้ และทราบจากแหล่งข่าวว่า อิวามุระเคยได้รับใบรับรองจากจังหวัดอื่นที่ไม่ใช่เอฮิเมะมาก่อน แต่หมดอายุไปแล้ว หากศาลตัดสินว่า มีความผิดจริง และมีการลงโทษ ศาสตราจารย์คนนี้มีสิทธิต้องโทษจำคุกเป็นเวลา 10 ปี

ยาอีเป็นยาเสพติดสังเคราะห์ ออกฤทธิ์ทัั้งกระตุ้นประสาทและหลอนประสาท มักใช้งานสังสรรค์เนื่องจากทำให้ผู้เสพรู้สึกมีกำลังวังชา มีอารมณ์ร่วม และเคลิบเคลิ้ม โดยในเร็วๆ นี้มีการนำร่องศึกษาประสิทธิภาพในการใช้ยาอี เพื่อรักษาผู้ป่วยภาวะสะเทือนขวัญหลังเหตุการณ์รุนแรง (PTSD: post-traumatic stress disorder)

แม้จะไม่พบยาอีที่ผลิตขึ้น แต่ก็พบร่องรอยของดีไซเนอร์ ดรัก ชนิด 5F-QUPIC ในห้องทดลอง โดยยาชนิดนี้ รู้จักในอีกชื่อคือ 5F-PB-22 เป็นดีไซเนอร์ ดรัก ชนิดหนึ่ง กล่าวคือเป็นสารที่ดัดแปลงสูตรโครงสร้างทางเคมีจากส่วนประกอบของสารเสพติดเดิม เพื่อใช้ทดแทนและหลีกเลี่ยงปัญหาทางกฎหมาย โดยเลียนแบบการออกฤทธิ์ของยาให้คล้ายคลึง หรือรุนแรงกว่าเดิม

สำหรับ 5F-QUPIC เป็นยาออกฤทธิ์คล้ายสารในกลุ่มกัญชา และถูกห้ามใช้ในประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 2014 หลังมีการสันนิษฐานว่า อาจเป็นสาเหตุของอุบัติเหตุทางจราจรหลายครั้ง

หลังได้รับแจ้งเบาะแสจากบุคคลภายนอก เจ้าหน้าที่ปราบปราบยาเสพติดจากสาธารณสุขภูมิภาคก็ทำการตรวจค้นบ้าน และห้องทดลองของอิวามุระ และสอบปากคำเขามาตั้งแต่เดือนมกราคม

ทัตสึยะ มิโซกามิ อธิการบดีมหาวิทยาลัยมัตสียามะ กล่าวว่า ทางมหาวิทยาลัยจะพิจารณามาตรการ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก และจะดำเนินการลงโทษทางวินัยกับศาสตราจารย์อิวามุระ และผู้ช่วยศาสตราจารย์ตามผลลัพธ์ของการสืบสวน

ที่มา:

On Being
198Article
0Video
0Blog