ไม่พบผลการค้นหา
‘นพดล’ เชื่อว่า ‘โหวตแคนดิเดทนายกฯ ครั้งต่อไปจะเรียบร้อย น้อมรับฟังทุกเสียง และยึดประโยชน์ชาติและประชาชนมาก่อนพรรค ไม่เห็นด้วยให้รอ สว.หมดอำนาจโหวตนายกฯ

วันที่ 7 ส.ค. 2566 นพดล ปัทมะ สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการลงมติเห็นชอบแคนดิเดตนายกพรรคเพื่อไทยในการประชุมรัฐสภาครั้งต่อไปว่า น่าจะเป็นไปอย่างเรียบร้อย ต้องให้เวลาตัวแทนพรรคที่ไปเจรจาหาเสียงตั้งรัฐบาล การล่าช้าออกไปไม่กี่วันคงไม่กระทบโรดแมปในการตั้งรัฐบาลเข้ามาขับเคลื่อนประเทศและแก้ปัญหาเศรษฐกิจ

นพดล กล่าวต่อไปว่าขณะนี้สื่อและนักวิเคราะห์ถกเถียงกันว่าใครจะเป็นนายกฯ จะพลิกขั้วไหม แต่ที่พรรคเพื่อไทยกังวลคือปัญหาปากท้อง ราคาพลังงานสูงขึ้น รายได้ประชาชนหดหาย หนี้สินครัวเรือน ยาเสพติดระบาด ปัญหาภัยแล้งเอลนิโญ ปัญหาไทยเสียโอกาสในเวทีโลก เด็กหลุดจากระบบการศึกษา การจัดทำงบประมาณประทศ เป็นต้น พรรคคิดตลอดว่าทำอย่างไรจึงจะมีรัฐบาลมาแก้ปัญหาเหล่านี้ให้เร็วที่สุดเพราะเราเอาปัญหาประชาชนเป็นตัวตั้ง ไม่ใช่ง่วนกับการตั้งรัฐบาลเพื่อมีอำนาจอย่างเดียว นอกจากนั้นนักธุรกิจ นักวิชาการหลายคนเห็นว่าควรมีรัฐบาลโดยเร็ว ทางเลือกที่ให้ทอดเวลาไปเกือบปีเพื่อให้ สว. หมดอำนาจโหวตนายกฯแล้วค่อยให้สภาผู้แทนฯโหวตนายกฯ น่าจะมีผลเสียมากกว่าผลดี

เมื่อถูกถามว่ามีคนวิจารณ์ท่าทีเพื่อไทยมากมายในช่วงนี้ นพดล กล่าวว่า เราเคารพความเห็นต่าง สิ่งใดที่เป็นประโยชน์ก็นำมาคิดต่อ น่าเสียดายบางคนด่าล่วงหน้าไปแล้ว แต่ขอให้ความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนว่าพรรคเพื่อไทยจะเลือกแนวทางที่ดีที่สุด สถานการณ์การตั้งรัฐบาลขณะนี้ไม่ใช่งานง่าย เราไม่ได้วิ่งอยู่ในทุ่งลาเวนเดอร์ แต่ต้องทบทวนสิ่งที่พรรคเพื่อไทยทำมา สส. ของพรรคเห็นชอบโหวตให้ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ครบ 141 เสียง และโหวตไม่เห็นด้วยกับญัตติที่ไม่ให้เสนอชื่อ พิธาเป็นครั้งที่ 2 ครบ 141 เสียง พรรคไม่ได้บิดพลิ้วเลย หลังจากที่พรรคก้าวไกลตั้งรัฐบาลไม่ได้ ก็ส่งไม้ต่อให้พรรคเพื่อไทย ซึ่งเราก็ต้องพยายามหาเสียงให้ครบ 375 เสียง ขณะนี้ก็ต้องดำเนินการขอเสียงสนับสนุน

"ผมขอความเป็นธรรมให้พรรคเพื่อไทยด้วยว่าพรรคไม่ได้มีทางเลือกมากมาย แต่จะพยายามทำให้ดีที่สุด โดยยึดมั่นประโยชน์ของประเทศและประชาชนมาก่อนประโยชน์พรรค"