ไม่พบผลการค้นหา
​"โรม" ห่วง "ประวิตร" สุขภาพแย่ ควรวางมือ หวั่นใช้งบรัฐต่อรองเก้าอี้ในพรรคแกนนำรัฐบาล ยันต้องชิงพื้นที่ปทุมเขต 3 จากงูเห่่า ส่วน กมธ.กฎหมาย เตรียมเชิญ ผบ.ทบ.เข้าชี้แจง กรณี "หมู่อาร์ม" ถูกขู่ฆ่า หลังเปิดโปงการทุจริตเบี้ยเลี้ยงทหาร

วันที่ 20 พ.ค. 2563 นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน หรือ กมธ.กฎหมาย กล่าวถึงการประชุม กมธ.กฎหมายครั้งแรกหลังยุติไป 2 เดือนว่า มีเรื่องร้องเรียนเข้ามาที่ กมธ.กฎหมาย จำนวนมากตลอด 2 เดือนที่ผ่านมา โดยสัปดาห์หน้าจะเรียกบุคคลมาเข้าให้ข้อมูล กรณี ส.อ.ณรงค์ชัย อินทรกวี หรือ "หมู่อาร์ม" ที่ถูกข่มขู่ คุกคามถึงขั้นจะเอาชีวิต หลังออกมาเปิดเผยการทุจริตเบี้ยเลี้ยงในกองทัพและร้องเรียนต่อหลายหน่วยงาน

ซึ่งหมู่อาร์ม ได้ร้องเรียนเรื่องนี้มาที่ตน และระบุว่า ได้ร้องเรียนไปยังสายด่วน ผบ.ทบ. แล้วหลายครั้งแต่ไม่เป็นผล ดังนั้น กมธ.กฎหมายจึงจะเชิญ ผบ.ทบ. และผู้บังคับบัญชาระดับสูงที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล รวมถึงให้ชี้แจงมาตรการป้องกันต่างๆ เพื่อไม่ให้ทหารชั้นผู้น้อยกดดันจนเกิดเหตุซ้ำรอยกรณี "จ่าคลั่ง โคราช" ด้วย

ส่วนที่หมู่อาร์ม เคยยื่นต่อ กมธ. ป.ป.ช. และ กมธ. ทหารนั้น เป็นเรื่องการทุจริตในกองทัพ แต่ที่ยื่น กมธ.กฎหมายเป็นเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนและถูกขู่ฆ่าจึงแยกกันดำเนินการได้ไม่ซ้ำซ้อน

นายรังสิมันต์ กล่าวถึงการทำหน้าที่ ส.ส. ช่วงปิดสมัยประชุมสภาว่าได้ลงพื้นที่ จังหวัดปทุมธานีเขต 3 เพื่อ ช่วยเหลือช่วงโควิด-​19 ระบาด ด้วยการทำ "ธนาคารอาหาร" ร่วมกับวัดในพื้นที่และรับฟังปัญหาต่างๆ ซึ่งตนดูแลเขตเลือกตั้งนี้ที่อดีตพรรคอนาคตใหม่เคยได้ ส.ส.ก่อนจะย้ายขั้วการเมือง และประชาชนในพื้นที่จำนวนมากยังไม่ทราบสถานะ ส.ส.คนดังกล่าว

ขณะเดียวกันพรรคก้าวไกล ถือเป็นพันธะสัญญาและหน้าที่ที่จะต้องทำตามที่เคยหาเสียงไว้และได้รับความไว้วางใจ ซึ่งพรรคก้าวไกลต้องรกษาพื้นที่ไว้ โดยกลางสัปดาห์หน้า นายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้า จะไปร่วมแจกอาหารในพื้นที่ด้วย

นายรังสิมันต์ ยังกล่าวถึงกระแสข่าวที่จะมีการเปลี่ยนแปลงในพรรคแกนนำรัฐบาล กรณีที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี จะขึ้นเป็นหัวหน้าพรรค ว่า ขอแสดงความยินดีกับ พล.อ.ประวิตร หากจะได้เป็นหัวหน้าพรรค แต่ก็กังวลพร้อมตั้งข้อสังเกตว่า อาจมีการใช้ตำแหน่งและงบประมาณของรัฐ เพื่อต่อรองในเรื่องนี้ด้วย ซึ่งจะทำให้การใช้งบประมาณไม่เหมาะสมและอาจเป็นการทุจริตเชิงนโยบาย เนื่องจาก "กรณีงูเห่่า" จะได้ยินว่ามีการแลกเปลี่ยนลักษณะนี้ตลอด จึงหวังให้ผู้เกี่ยวข้องชี้แจงให้ชัดเจนและรับประกันว่าจะไม่มีการเอาตำแหน่งในรัฐบาลและเงินภาษีประชาชน เข้าไปเกี่ยวข้องกับการจัดการภายในของพรรคแกนนำรัฐบาล

อย่างไรก็ตาม โดยส่วนตัวเห็นว่า พล.อ.ประวิทย์ ควรที่จะยุติบทบาททางการเมืองได้แล้ว เพราะนอกจากเกี่ยวพันกับเรื่องไม่ชอบมาพากลและการทุจริตต่างๆ ทั้ง "ปมนาฬิกาหรู" และ "กรณีป่ารอยต่อ"แล้ว สุขภาพก็ดูจะย่ำแย่ จึงควรวางมือแล้วอยู่บ้านพักผ่อนตามอัตภาพ