เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอเนื้อหาที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อใช้วิเคราะห์ข้อมูลทางการตลาด หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไป แสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
สำนักข่าว AFP รายงานอ้างอิงตัวเลขจาก Johns Hopkins University ระบุว่า สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในประเทศสหรัฐอเมริกายังคงความน่ากังวลอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาสหรัฐฯทุบสถิติใหม่ ด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 มากถึง 201,961 คนภายในระยะเวลาเพียงแค่ใน 24 ชม.เท่านั้น ส่งผลให้ตอนนี้มีตัวเลขผู้ติดเชื้อสะสมทั้งหมดในสหรัฐฯอย่างน้อย 10,238,243 คน และเสียชีวิตไปแล้วมากกว่า 239,588 ราย
">#UPDATE US far exceeds its previous daily record of new Covid-19 cases, adding 201,961 cases in 24 hours, according to a Johns Hopkins University tally.
— AFP News Agency (@AFP) November 11, 2020
The high number, partly due to data delayed over the weekend, took total cases in the US to 10,238,243, with 239,588 deaths pic.twitter.com/KNxRyTyZxT
ก่อนหน้านี้ในวันที่ 9 พ.ย. ซึ่งเป็นวันเดียวกันกับที่ทางการสหรัฐฯ รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เกิน 10 ล้านคน ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ออกมาประกาศมาตรการการรับมือกับโควิด-19 โดยระบุว่าได้มีการจัดตั้งทีมผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับมือกับวิกฤตนี้โดยตรง ประกอบไปด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญรวมทั้งสิ้น 13 คน นำโดย ดร.เดวิด เคสสเลอร์ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานอาหารและยาสหรัฐฯ
ไบเดนเชื่อมั่นว่าจะเป็นทีมที่พาชาวอเมริกันผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้บนพื้นฐานของการดำเนินการตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ และจะสามารถวางแผนอย่างละเอียดเพื่อทำให้การตรวจหาเชื้ออย่างเร่งด่วนมีประสิทธิภาพมากขึ้นและทันท่วงที อีกทั้งยังจะสามารถครอบคลุมชาวอเมริกันเป็นวงกว้างมากยิ่งขึ้นด้วย
ทั้งนี้ ในช่วงเวลาเดียวกัน บริษัท ไฟเซอร์ (Pfizer) ผู้ผลิตยาสัญชาติอเมริกัน และไบออนเทค (BioNTech) บริษัทด้านเทคโนโลยีชีวภาพจากเยอรมนี ประกาศข่าวดีหลังทั้ง 2 บริษัท สามารถร่วมมือกันผลิตวัคซีนต้านการติดเชื้อโควิด-19 ด้วยประสิทธิภาพสูงกว่า 90% พร้อมย้ำว่านี่เป็น "วันที่วิเศษของวิทยาศาสตร์และมนุษยชาติ"
ผลที่ออกมา เป็นการประเมินจากค่ากลางของประสิทธิภาพในการป้องกันการติดเชื้อจากผู้ร่วมทดลองทั้งหมด 43,538 ราย ซึ่งพบผู้ติดเชื้อเพียง 94 รายเท่านั้น อย่างไรก็ดีผลสรุปของประสิทธิภาพวัคซีนอาจมีความผันผวนได้ โดยบริษัทไม่ได้เผยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทดลอง ว่าในจำนวนผู้ติดเชื้อนั้นได้รับวัคซีนกี่ราย ซึ่งผู้ทดลองต้องฉีดวัคซีน 2 ครั้ง ทิ้งระยะห่าง 3 สัปดาห์ แต่เบื้องต้นไม่พบปัญหาด้านความปลอดภัยใดๆ จากผู้ทดลอง