ไม่พบผลการค้นหา
‘ปานปรีย์’ รมว.การต่างประเทศ ยันนายกฯ เยือน ‘มาเลเซีย-บรูไน’ ไม่ส่งผลกระทบสงครามตะวันออกกลาง เชื่อไทยไม่ใช่คู่ขัดแย้ง มั่นใจ 11 ตัวประกันไทยจะถูกปล่อยตัวแน่นอน

วันที่ 10 ต.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล ปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยถึงควาคืบหน้าในการช่วยเหลือคนไทยอพยพจากประเทศอิสราเอลว่า ขณะนี้มีจำนวนประมาณ 3,226 คน แต่ทั้งหมดนี้ไม่ได้อยู่ในบริเวณพื้นที่ฉนวนกาซ่าเพียงที่เดียว แต่ยังรวมถึงพื้นที่อื่นๆ ในประเทศอิสราเอลด้วย 

ปานปรีย์ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็แล้วแต่ รัฐบาลไทยก็ต้องเร่งนำคนไทยกลับมาให้ได้อย่างปลอดภัย หากมีใครประสงค์ที่จะขอเดินทางกลับ รัฐบาลก็พร้อมให้การช่วยเหลือทุกเมื่อ โดยกลุ่มแรกที่จะเดินทางมาถึงประเทศในวันที่ 12 ต.ค. นี้ จำนวน 15 คน เนื่องจากข้อจำกัดเรื่องขนาดของเครื่องบิน และชุดต่อไปจะอพยพมาอีกในวันที่ 18 ต.ค. จำนวน 80 คน ซึ่งทางกองทัพอากาศพร้อมที่จะจัดสรรเครื่องบินไปยังจุดหมาย แต่ทั้งหมดนี้ก็ต้องดูเรื่องของความปลอดภัยเป็นหลัก 

สำหรับกรณีคนไทยไทยผู้เสียชีวิต และผู้บาดเจ็บ ส่วนตัวได้มีการพูดคุยกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอิสราเอลแล้ว ได้มีการสอบถามถึงแนวทางการช่วยเหลือ โดยทางการอิสราเอลได้แสดงความเสียใจเหตุที่มีผู้สูญเสีย แต่ขณะนี้ที่ยังไม่สามารถรายงานจำนวนที่แน่นอนได้ ก็เนื่องด้วยในหลายพื้นที่อาจยังไม่สามารถเข้าไปได้อย่างสะดวก จึงต้องรอคำยืนยันอีกครั้ง 

แม้ว่าจากการรายงานข่าวจะพบว่า กลุ่มฮามาสได้ยื่นเงื่อนไขการปล่อยตัวประกันต่อทางการอิสราเอล จะส่งผลกระทบต่อการปล่อยตัวประกันไทยหรือไม่นั้น ปานปรีย์ ย้ำว่า ประเทศไทยยังไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งใดๆ กับใคร ดังนั้นความรุนแรงที่เกิดขึ้นคงเป็นลักษณะสถานการณ์ที่มีความวุ่นวาย ดังนั้นจึงอาจไม่มีการแยกแยะว่า ใครเป็นกลุ่มไหน แต่เชื่อว่า เขาน่าจะปล่อยตัวมา 

ปานปรีย์ กล่าวอีกว่า นายกรัฐมนตรีได้มีความเป็นห่วงกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยตนก็ได้รายงานให้ทราบเป็นระยะๆ อยู่แล้ว รวมถึงรัฐบาลก็เต็มที่ยิ่งกว่าเต็มที่ แทบจะไม่ได้หลับไม่ได้นอน เพราะต้องประสานกับต่างประเทศอยู่ตลอดเวลา ขณะเดียวกันตนเองก็ได้ไปร่วมคณะกับนายกรัฐมนตรีที่ฮ่องกงเพียง 18 ชั่วโมง ก่อนรีบเดินทางกลับมาจัดการเรื่องนี้ เนื่องจากอยากให้มีความคืบหน้าก่อนไปเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนกับนายกรัฐมนตรีในครั้งหน้า 

ผู้สื่อข่าวยังสอบถามอีกว่า สำหรับการเยือนประเทศมาเลเซีย และบรูไนดารุสซาลาม ของนายกรัฐมนตรีในช่วงวันที่ 8-12 ต.ค. นี้ จะส่งผลกระทบต่อสงครามหรือไม่ เนื่องจาก 2 ประเทศดังกล่าวมีจุดยืนไม่ยอมรับรัฐอิสราเอล 

ปานปรีย์ กล่าวว่า ไม่มีแน่นอน เพราะความสัมพันธ์ของเรา โดยเฉพาะในประเทศกลุ่มอาเซียนมีความใกล้ชิดกันอย่างมาก และในการเยือนครั้งนี้ก็เป็นปกติที่เมื่อรัฐบาล หรือนายกรัฐมนตรีได้รับตำแหน่งใหม่ ก็ต้องไปเยือนประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมย้ำว่า “ปัญหาไม่มีแน่นอน”