จันทิรา บุรุษพัฒน์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า ผ่านมายังพบการฝ่าฝืนใช้รถจักรยานยนต์รับจ้างผิดกฎหมาย หรือ รถป้ายดำ มาลักลอบให้บริการประชาชน ซึ่งทั้งรถและคนไม่ผ่านการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไม่มีข้อมูลในศูนย์ข้อมูลประวัติผู้ขับรถสาธารณะของกรมการขนส่งทางบก ทำให้ยากแก่การติดตามตัวมาลงโทษ รวมถึงผู้โดยสารจะไม่ได้รับการคุ้มครองสิทธิตามกฎหมายกรณีเกิดเหตุไม่พึงประสงค์หรือเกิดอุบัติเหตุ ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนเลือกใช้บริการรถจักรยานยนต์สาธารณะที่ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อความปลอดภัยในการใช้บริการและได้รับการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ตามกฎหมาย
โดยรถจักรยานยนต์ที่สามารถนำมารับส่งผู้โดยสารได้ต้องจดทะเบียนเป็นรถจักรยานยนต์สาธารณะ หรือ รถป้ายเหลือง ต้องมีที่ตั้งวินตามที่ได้รับอนุญาต และต้องให้บริการในเส้นทางหรือพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น ด้านผู้ขับขี่ต้องมีใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์สาธารณะ ต้องแต่งกายตามระเบียบที่ทางราชการกำหนด สวมเสื้อวินที่แสดงบัตรประจำตัวและหมายเลขประจำตัวที่ถูกต้องตรงกัน และการเรียกเก็บอัตราค่าโดยสารต้องเป็นไปตามที่ทางราชการกำหนด ต้องติดตั้งป้ายแสดงอัตราค่าโดยสารให้ประชาชนรับทราบอย่างชัดเจนในบริเวณที่ตั้งวินด้วย
รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ระบุว่า ได้จัดผู้ตรวจการลงพื้นที่ตรวจสอบการให้บริการรถจักรยานยนต์สาธารณะอย่างต่อเนื่อง หากพบการให้บริการไม่ปลอดภัย ฝ่าฝืนกฎหมาย หรือฉวยโอกาสช่วงที่มีปัญหาการเดินทางหรือช่วงเทศกาลเก็บค่าโดยสารเกินที่ทางราชการกำหนดดำเนินการลงโทษตามกฎหมายทันที อย่างไรก็ตามหากผู้ใช้บริการพบปัญหาจากการใช้บริการสามารถร้องเรียนมายังกรมการขนส่งทางบกได้ทันที โดยระบุรายละเอียดรถที่กระทำความผิด หรือบันทึกภาพนิ่งหรือภาพเคลื่อนไหวที่เห็นหมายเลขทะเบียนรถได้ชัดเจน ได้ที่ศูนย์คุ้มครองผู้โดยสารและรับเรื่องร้องเรียน สายด่วน 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง, แอปพลิเคชัน DLT GPS รวมถึง Line ID “@1584dlt”
ทั้งนี้ เมื่อมีการตรวจสอบและดำเนินการเปรียบเทียบปรับหรือคดีถึงที่สุดแล้ว ผู้แจ้งมีสิทธิได้รับส่วนแบ่งเงินรางวัลนำจับ 50% ของเงินค่าปรับหลังจากหักเป็นเงินนำส่งรายได้แผ่นดินแล้ว เพื่อสร้างการมีส่วนร่วม และสร้างวินัยการขับขี่ให้เกิดความปลอดภัยแก่ผู้ใช้รถใช้ถนน