วันนี้ (12 ม .ค. 2562) เวลา 08.00 น. ณ ทำเนียบรัฐบาล คณะจัดงานวันเด็กสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีได้เปิดให้เด็กเข้าไปนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี เนื่องในโอกาสวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2562 ในปีนี้มีเด็กจำนวนมากให้ความสนใจมาต่อแถวเพื่อนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีตั้งแต่เวลา 07.30 น. สำหรับเด็กที่ได้นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีคนแรกคือ ด.ญ. ภวริศา ไชยวัฒน์มาลากุล อายุ 11 นักเรียนโรงเรียนเซนต์ฟรังซีสเซเวียร์ เมืองทองธานี จังหวัดนนทบุรี ทั้งนี้ จากการสอบถามด.ญ. ภวริศา มาเที่ยวงานวันเด็ก ที่ทำเนียบรัฐบาลเป็นปีแรก ตื่นนอนตั้งแต่ 05.00 น. เพื่อเตรียมตัวมาเที่ยวงานวันเด็ก และเดินทางมาถึงทำเนียบรัฐบาลในเวลา 7.00 น.

จากการสอบความความรู้สึก ด.ญ. ภวริศา เปิดเผยว่า มีความตั้งใจอย่างมากที่จะมานั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี รู้สึกตื่นเต้นและดีใจมากที่ได้นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีเป็นคนแรก พร้อมกล่าวให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีว่า ขอให้ลุงตู่ สู้ ๆ และขอให้รักษาสุขภาพด้วย

นอกจาก ด.ญ. ภวริศา ก็ยังมีเด็ก ๆ จำนวนมากที่มาเที่ยวงานวันเด็กที่ทำเนียบรัฐบาล เป็นปีแรก โดยต่างรู้สึกตื้นเต้น ดีใจ และมีความตั้งใจที่จะมานั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี พร้อมต้องการที่จะพบและถ่ายรูปคู่กับนายกรัฐมนตรี

พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวให้โอวาทกับเด็กและเยาวชน ที่ตึกสันติไมตรี (หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาลว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับเด็กและเยาวชน เพราะเป็นอนาคตของประเทศ ทุกคนต้องเข้าใจว่าจะมีส่วนร่วมกับการพัฒนาประเทศได้อย่างไร ครอบครัว พ่อแม่ จะเป็นต้นแบบคนแรกของเด็ก ดังนั้น ทุกคนต้องสร้างความเข้มแข็งเพื่อเป็นที่พึ่งของพ่อแม่ในอนาคต สร้างมาตรฐานการเรียนรู้และพึ่งพาตนเองได้ ทุกคนต้องรู้จักหน้าที่ของตนเอง เป็นเด็กดี คิดให้ได้ มีหลักการให้ได้ ฝากให้ครูสอนให้เด็กรู้จักวิเคราะห์ วันนี้สังคมมีความวุ่นวาย หากขยายแต่ความขัดแย้ง ไม่ขยายสิ่งที่ดีก็มีแต่ความวุ่นวาย ซึ่งทั้ง 4 ปีที่ผ่านมา และก่อน 4 ปีที่ผ่านมาถือเป็นประวัติศาสตร์ที่จะเดินหน้าสู่อนาคต จึงขอให้ทุกคนรักในชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ สุดท้ายก็ขอให้ทุกคนซื่อสัตย์ ขยัน อดทน กตัญญู และจงรักภักดี 

นายกรัฐมนตรี กล่าวอีกว่า วันนี้มีหลายคนร้องเรียนหลายเรื่องเข้ามามากมาย แต่ทุกคนต้องช่วยรัฐบาล ใครจะมาบอกว่า สร้างบ้านฟรีทั้งหมดนั้นเป็นไปไม่ได้ ต้องนึกถึงสังคมโดยรวม เวลานี้โลก 5.0 กำลังมาแล้ว

จากนั้น เด็กได้สอบถามนายกรัฐมนตรีว่า "เหนื่อยไหมคะ" นายกรัฐมนตรี จึงตอบว่า "ก็เหนื่อย" แต่ต้องมีกำลังใจในการทำงาน ตอนหลังนายกฯก็ตัดเรื่องไม่มีสาระที่ทำให้หงุดหงิดออกไปบ้าง ก็มีกำลังใจมากขึ้น

ต่อมา เด็กสอบถามนายกฯว่า ทำไมนายกฯ ดุพี่นักข่าว นายกรัฐมนตรี ตอบว่า ก็ฝากไปถามว่าเขาถามว่าอย่างไร แต่ก็ดุด้วยความรัก เจอหน้าก็ยังรักใคร่กันเหมือนเดิม

จากนั้น มีคำถามว่า ลุงตู่ชอบกินข้าวอะไร ชอบกินแคลเซียมโปรตีนอะไรไหม แต่เด็กคนดังกล่าวพูดไม่ชัด พูดว่า “แคลส้วม” ทำให้นายกรัฐมนตรีถึงกับยิ้ม และทำหน้าแปลกใจกับคำถาม แล้วถามย้ำว่า แคลเซียมใช่ไหม แคลเซียมก็กิน เพราะแก่แล้ว เด็กก็ต้องกิน ไม่งั้นตัวเตี้ยลง

และคำถามว่า แล้วลุงตู่มาเจอพี่ๆ พี่ๆ ที่มาร้องเพลงบนเวที เพราะไหม นายกฯ ตอบว่า เพราะสิครับ เล่นดนตรีเก่งด้วย จากนั้น เด็กที่ถามคำถาม ก็ให้กำลังใจทั้งพี่ๆ นักร้องและลุงตู่ให้สู้ๆ สุดท้าย เด็กๆได้ร้องขอให้ลุงตู่ร้องเพลงให้ฟัง ทำให้ทั้งห้องประชุมส่งเสียงหัวเราะและปรบมือ นายกรัฐมนตรี จึงตอบว่า ตนร้องไม่ได้ เพราะจำเนื้อเพลงไม่ได้ เดี๋ยวค่อยร้องให้ฟัง ซึ่งมีคำถามมาที่ตนเองมากว่าเคยถูกตีไหมและดื้อหรือไม่ ก็ยอมรับว่า ดื้อแต่ดื้อเพราะอยากจะเรียนรู้ ดื้อน้อยแต่โดนตีเยอะ