ไม่พบผลการค้นหา
รพ.บี.แคร์ แมดิคอลเซ็นเตอร์ เผยพบผู้ป่วยโควิด -19 ชาวไทย ตอนแรกผู้ป่วยปฏิเสธแจ้งข้อมูลว่าเดินทางกลับจากญี่ปุ่น รพ.ตรวจบุคลากรการแพทย์ที่เกี่ยวข้องรวดเดียว 30 คน สายการบิน-ธนาคารสั่งบุคคลที่เกี่ยวข้องหยุดงาน-เฝ้าดูอาการ 14 วัน

โรงพยาบาล บี.แคร์ แมดิคอลเซ็นเตอร์ ออกแถลงการณ์กรณีพบผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โควิด -19 ว่า เมื่อวันที่ 23 ก.พ. 2563 ผู้ป่วยชายไทย มารักษาด้วยอาการไข้ ไอ ผู้ป่วยปฏิเสธประวัติการเดินทางไปต่างประเทศ เบื้องต้นได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นปอดอักเสบ และให้รักษาตัวในโรงพยาบาล 

โดยช่วงเช้าของวันที่ 24 ก.พ. 2563 แพทย์อายุรกรรมผู้เชี่ยวชาญด้านโรคปอดได้เข้าตรวจอาการผู้ป่วยและสอบถามประวัติการเดินทางไปต่างประเทศอีกครั้ง ผู้ป่วยปฏิเสธ ช่วงสาย ผู้ป่วยได้เปิดเผยประวัติว่าได้เดินทางไปประเทศกลุ่มเสี่ยง 

เมื่อผู้ป่วยแจ้งประวัติ โรงพยาบาลฯ ได้ติดต่อสถาบันป้องกันควบคุมโรคเขตเมือง หรือ สปคม. ซึ่งได้ระบุว่าผู้ป่วยรายนี้เข้าเกณฑ์กลุ่มเสี่ยง และย้ายผู้ป่วยเข้าพักรักษาตัวในห้องความดันลบ และส่งตรวจ PCR for COVID-19 ทันที

ในช่วงค่ำของวันที่ 24 ก.พ. ผลตรวจ PCR เบื้องต้นพบเชื้อโควิด-19 โรงพยาบาลฯ จึงแจ้ง สปคม. ทันที ปัจจุบันผู้ป่วยได้รับการส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลของรัฐเรียบร้อยแล้ว

จากการปกปิดและปฏิเสธการเดินทางไปต่างประเทศของผู้ป่วย ส่งผลให้บุคลากรทั้งแพทย์พยาบาล และเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลฯ ในกลุ่มที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยเสี่ยงต่อติดเชื้อโควิด -19 จำนวน 30 คน ซึ่งโรงพยาบาลร่วมกับ สปคม. ดำเนินการตามขั้นตอนดังนี้

1. บุคลากรที่สัมผัสกับผู้ป่วยทุกคนได้รับการตรวจ PCR for COVID-19 และตรวจเลือดเพื่อหา Antibody ของไวรัส เบื้องต้นผลตรวจ PCR for COVID-19 ของบุคลากรทุกคนที่สัมผัสผู้ป่วยเป็นลบ คือไม่พบเชื้อไวรัส แต่ยังต้องตรวจซ้ำในช่วงเวลา 7-14 วัน

2. ให้บุคลากรดังกล่าวหยุดงานสังเกตอาการที่บ้าน และปฏิบัติตามแนวทางของกรมควบคุมโรค

3. ทำการ Deep Clean ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค และงดรับผู้ป่วยในหอผู้ป่วย

ทั้งนี้ทางโรงพยาบาลฯ แจ้งด้วยว่า การปกปิดข้อมูลเป็นผลเสีย มีผลกระทบทำให้เกิดความเสียหายต่อสังคม ต่อผู้อื่น และต่อครอบครัวของท่านเองด้วย 


'TMB-ธนชาต' ปิดสาขาดอนเมือง 25-26 ก.พ. ป้องกันการแพร่ระบาด

ธนาคารทหารไทย-ธนชาต ระบุว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือโรค COVID-19 ที่เกิดขึ้นในขณะนี้ ธนาคารทีเอ็มบีและธนาคารธนชาตมิได้นิ่งนอนใจ และให้ความสำคัญกับสุขภาพอนามัยและความปลอดภัยของลูกค้า ผู้มาติดต่อ และพนักงานทุกคน ธนาคารได้มีมาตรการและการดำเนินการเพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสฯ ตามที่กรมควบคุมโรคและกระทรวงสาธารณสุขแนะนำไว้อย่างเคร่งครัด

อย่างไรก็ตาม สืบเนื่องจากการเผยแพร่ข่าวสารในโลกออนไลน์ว่า ธนาคารธนชาตสั่งปิดสาขาดอนเมือง หลังจากมีสมาชิกในครอบครัวของพนักงานติดเชื้อไวรัสฯ ธนาคารขอแจ้งว่า เพื่อเป็นไปตามมาตรการที่วางไว้ ธนาคารจึงได้มีการปิดสาขาที่พนักงานปฏิบัติงานทันทีหลังจากได้รับทราบข้อมูล และทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคเป็นกรณีพิเศษ (Big Cleaning) และให้พนักงานดังกล่าวไปตรวจสุขภาพกับทางโรงพยาบาลและได้รับการยืนยันแล้วว่าไม่ติดเชื้อไวรัสฯ อย่างไรก็ตาม ธนาคารยังคงให้พนักงานดังกล่าวหยุดปฎิบัติงานและแยกตัวเองเพื่อเฝ้าระวังเป็นเวลา 14 วัน

ธนาคารต้องขอขอบคุณพนักงานดังกล่าวที่ได้ปฏิบัติตามมาตรการของธนาคารอย่างเคร่งครัด โดยรายงานเรื่องนี้ให้ทางธนาคารรับทราบอย่างรวดเร็ว ทำให้ธนาคารสามารถดำเนินมาตรการป้องกันได้อย่างทันท่วงที

ธนาคารขอยืนยันว่า ธนาคารได้ดำเนินมาตรการในด้านสุขอนามัยอย่างเคร่งครัด โดยมีการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคเป็นประจำอย่างต่อเนื่องในบริเวณจุดสัมผัสที่เสี่ยงต่อการแพร่กระจายอย่างเข้มงวดในทุกสาขาและสำนักงานใหญ่ รวมถึงออกมาตรการสำหรับพนักงานให้งดเดินทางไปยังประเทศที่มีความเสี่ยงกับการติดเชื้อไวรัสฯ เพื่อเป็นไปตามมาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาด และขอให้ลูกค้ามีความมั่นใจในมาตรการของธนาคารและใช้บริการในทุกช่องทางของทั้งทีเอ็มบีและธนชาตได้ตามปกติ

ทั้งนี้ ธนาคารทหารไทยและธนาคารธนชาตควบรวมกิจการแล้ว จึงใช้ชื่อธนาคารทหารไทย-ธนาคารธนชาตด้วย

'ไทย แอร์เอเชีย เอ็กซ์' ให้ลูกเรือหยุดงาน 14 วันสังเกตอาการ

ด้าน สายการบินไทยแอร์เอเชีย เอ็กซ์ ได้รับทราบและประสานต่อกรณีดังกล่าว พร้อมให้ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดต่อกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามมาตรฐานองค์การอนามัยโลกโดยเฉพาะการแจ้งผู้โดยสารในเที่ยวบิน XJ621 ซัปโปโร-กรุงเทพ วันที่ 20 ก.พ. 2563 ที่เข้าข่ายเฝ้าระวังโดยตรง รวมทั้งให้ลูกเรือในเที่ยวบินดังกล่าวหยุดงาน 14 วันเพื่อสังเกตอาการ เฝ้าระวัง และเข้าไปตรวจเพิ่มเติม

อย่างไรก็ตามสำหรับเที่ยวบินที่ให้บริการ สายการบินได้มีการพ่นเสปรย์และอบฆ่าเชื้อ พร้อมทำความสะอาดฆ่าเชื้อตามมาตรฐานหลังกลับจากให้บริการเป็นประจำอยู่เเล้ว ซึ่งได้เพิ่มมาตรการพ่นเสปรย์และอบฆ่าเชื้อกับเครื่องบินลำดังกล่าวอีกครั้งแล้วอย่างเข้มข้น

ทอ. สั่งกำลังพลงดเดินทางต่างประเทศ 

ในขณะที่ พล.อ.อ.มานัต วงษ์วาทย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ มีคำสั่งและให้ออกประกาศเพื่อความปลอดภัย และเพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19 ให้เจ้าหน้าที่ทหารและกำลังพลทั้งหมด ทุกหน่วยของขึ้นตรงของกองทัพอากาศ สวมหน้ากากอนามัยและรักษาความสะอาด ด้วยการล้างมือบ่อยครั้ง และแจ้งเตือนบุคคลใกล้ชิดและครอบครัว ให้ปฏิบัติเช่นเดียวกัน

นอกจากนี้ กรมแพทย์ทหารอากาศ ได้มีคำแนะนำกำลังพลเช่นเดียวกันคือ การไม่อนุมัติหรืออนุญาตให้ข้าราชการพนักงานราชการและลูกจ้างกองทัพอากาศ ที่จะลาเพื่อเดินทางไปยังหรือว่าผ่านประเทศหรือเขตปกครองที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด-19 ตามที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศกำหนด จนกว่าจะพ้นระยะการยกระดับการแจ้งเตือนโรคในผู้เดินทางระดับ 3

ส่วนกรณีที่ได้รับการอนุมัติหรืออนุญาตให้ลา เพื่อเดินทางไปยังประเทศหรือเขตปกครองที่เสี่ยงดังกล่าว ก่อนการประกาศยกระดับการแจ้งเตือนโรคในผู้เดินทางเป็นระดับ 3 แนะนำให้ข้าราชการ พนักงานราชการ และลูกจ้างของกองทัพอากาศ งดหรือเลื่อนการเดินทางออกไปให้พ้นระยะการยกระดับ การแจ้งเตือนโรคในผู้เดินหาง ระดับ 3 หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ ก็ต้องขออนุมัติจากผู้บังคับบัญชา เมื่อกลับมาแล้วต้องได้รับการตรวจจากโรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช หรือโรงพยาบาลอื่น และรายงานผลตรวจต่อผู้บังคับบัญชา