ไม่พบผลการค้นหา
'ธนกร​' โวนักการเมืองอยากเข้า รทสช.เพียบจากกระแส 'ประยุทธ์' บอกไม่ได้โม้​ นครศรีฯ อาจ​กวาดส.ส.ยกจังหวัดแน่ - 'ลูกหมี' อวยกระแส 'ลุงตู่'​ พีคกว่าจุดสูงสุดแกนนำ ปชป.หลายคน - เผยนายกฯ ไม่กังวลศึกอภิปราย ไม่ต้องเตรียมตัวเยอะ​ แย้ม 'แรมโบ้' เตรียมคนร่วมปราศรัยใหญ่โคราช 4-5 หมื่นคน

ธนกร​ วังบุญคงชนะ​ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะ​สมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวถึงกระแสข่าวพรรครวมไทยสร้างชาติไปดูด​ว่าที่ ส.ส.ในพื้นที่จังหวัดสุพรรณบุรี​ จนทำให้แกนนำพรรคชาติไทยพัฒนา ไม่พอใจ​นั้น ว่า​ เรื่องนี้ตนยังไม่ทราบ​ ซึ่งตนเข้าใจว่าการเมืองเรื่องการย้ายพรรค​ ต้องให้เกียรติ ส.ส.​ เพราะการย้ายพรรคถือเป็นกลไกทางการเมือง​ ซึ่ง ส.ส.เป็นผู้สมัคร​ ย่อมรู้ดีว่าหากอยู่ตรงไหนแล้วจะได้รับการเลือกตั้งเข้ามา ฉะนั้นตนจึงไม่อยากให้ไปตำหนิติเตียนกลไกในเรื่องเหล่านี้​ ตนก็เห็นว่าทุกพรรคก็มีการขยับขยายกัน เป็นเรื่องที่ปฏิบัติกันมา พร้อมขออย่ามองว่าเป็นการขายตัว​ เพราะต้องมีองค์ประกอบ​หลายอย่างที่ทำให้ประชาชนเลือกเข้ามา​ จึงไม่อยากให้ไปวิพากษ์วิจารณ์ตำหนิปิเตียนกัน 

ส่วนที่ถูกมองว่าเป็นมารยาททางการเมืองนั้น ธนกร​ ระบุว่า​ ก็มีมารยาททั้งนั้น แต่ขึ้นอยู่กับว่าแต่ละพรรคเข้าใจมารยาทแบบไหนมากกว่า ซึ่งตนคิดว่าพรรครวมไทยสร้างชาติ วันนี้ต้องยอมรับ จากการลงพื้นที่ กระแสความนิยมของ พล.อ.ประยุทธ์​ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีสูงมาก ไม่ใช่เฉพาะภาคใต้หรือภาคกลาง ซึ่งจากการลงพื้นที่หลายภาคทั่วประเทศ การเมืองในวันนี้ จะเป็นในลักษณะ กับของคนที่เอาอีกฝั่งกับ พล.อ.ประยุทธ์ เท่านั้น โดยสุดท้ายประชาชนจะเห็นการเมืองสองฝั่งในการเลือกตั้ง​ พร้อมกับยังระบุอีกว่าวันนี้มีนักการเมืองหลายคนติดต่อเข้ามาเพื่อสมัครลงเลือกตั้งในนามพรรครวมไทยสร้างชาติ แม้วันนี้จะมีการเตรียมผู้สมัครไว้เกือบหมดแล้ว เพราะฉะนั้นจะต้องมีการใช้กลไกของพรรคในการพิจารณา คิดว่าเลือกผู้สมัครที่คิดว่าประชาชนไว้วางใจที่สุด

ส่วนกระแสข่าวที่นายกรัฐมนตรีจะลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชในสัปดาห์หน้า ธนกร​ ระบุว่า เท่าที่ทราบในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2566 นายกรัฐมนตรีจะลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าแผนงานโครงการที่ได้อนุมัติงบประมาณลงไปแล้ว รวมถึงความคืบหน้าการก่อสร้างโรงพยาบาล และด้านการท่องเที่ยว โดยที่ผ่านมา7-8 ปี​ นายกรัฐมนตรีได้มีการอนุมัติงบให้พื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชจำนวนหลายหมื่นล้านบาท​ โดยหากการลงพื้นที่พบว่ามีการติดขัดก็จะไปเร่งรัดการดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว

ขณะที่การส่งผู้สมัครลง ชิงตำแหน่งในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ธนกรกล่าวว่า จากการลงพื้นที่ของตนช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา​ ตนได้พบกับว่าที่ผู้สมัครซึ่งมีการเตรียมความพร้อมไว้ทั้งหมดแล้ว พร้อมกับระบุว่า การเลือกตั้งในปี 2562 คะแนนทุกเขต ในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ขณะนั้นพรรคพลังประชารัฐ คะแนนทุกเขตมีคะแนนของ พล.อ.ประยุทธ์ กว่าร้อยละ 25 นายก็เท่ากับว่า 100,000 คะแนน มีคะแนนของ พล.อ ประยุทธ์ อยู่ 25,000 คะแนน เพราะฉะนั้นคนที่เลือกตั้งในปี 2562 ก็ถือว่า นักการเมืองท้องถิ่นมีคะแนนส่วนตัวอยู่แล้ว จึงได้เป็น ส.ส.​ แต่วันนี้ การเตรียมผู้สมัครดีกว่าเดิมมาก พรรคมีผู้สมัครที่เป็นสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด ซึ่งมีคะแนนสูงสุด และเป็นแกนนำท้องถิ่นที่ได้รับคะแนนสูงมาก เพราะฉะนั้นเมื่อนำมารวมกับกระแสของ พล.อ.ประยุทธ์ จึงเชื่อได้ว่า จังหวัดนครศรีธรรมราช โอกาสที่จะได้รับเลือกยกจังหวัดก็มีสูง อันนี่ไม่ได้คุยนะ​ และจากที่ตนได้สัมผัสคนนครศรีธรรมราชรัก พล.อ.ประยุทธ์ ฉะนั้นตนจึงเชื่อว่า หลายโครงการที่ประชาชนได้ประโยชน์ จะทำให้คนในพื้นที่เลือกพลเอกประยุทธ์

ขณะที่ความคืบหน้าการเตรียมเวทีปราศรัย เปิดประตูสู่ภาคอีสาน ที่จังหวัดนครราชสีมาของ ​พล.อ.ประยุทธ์ ในวันที่​ 25 กุมภาพันธ์​นี้ ธนกร ระบุว่า การปราศรัยในวันที่ 25 กุมภาพันธ์นี้ เสกสกล อัตถาวงศ์​ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ได้มีการเตรียมความพร้อมไว้ทั้งหมดแล้ว และทุกอย่างก็เป็นไปตามแนวทางที่วางไว้​ โดย เสกสกล เผยว่าจะมีประชาชนเข้ารับฟังการปราศรัย 40,000-50,000 คน ซึ่งก็มีความพร้อมอยู่แล้ว พร้อมเผยว่าอยากให้สื่อมวลชนเห็นถึงบรรยากาศการลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรี ไม่ว่าจะเป็นการไปตรวจราชการหรือใช้เวลาวันหยุดไปหาเสียง เป็นเรื่องที่เซอร์ไพรส์สำหรับตนมาก และวันนี้ก็เห็นได้ว่ามีทั้งเด็กและเยาวชนเข้าหานายกรัฐมนตรีมาก ซึ่งบรรยากาศก็ถือว่าดีมาก

ทั้งนี้ ธนกร ยังระบุว่า จากการที่ตนได้พูดใครคุยกับจุมพล​ จุลใส​ อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์​ จังหวัดชุมพร​ ได้ระบุว่าจากการที่อยู่สังกัดพรรคประชาธิปัตย์มายาวนาน จุดสูงสุดของแต่ละคน ยังสู้พล.อ.ประยุทธ์ ในขณะนี้ไม่ได้เลย นี่คือสิ่งที่ จุมพล พูด​ไม่ใช่ตนพูดแต่อย่างใด

ส่วนมีความกังวลหรือไม่ในการรับศึกอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติมาตรา 152 เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้ เป็นแคนดิเดตของพรรคพลังประชารัฐแล้วจะไม่มีองครักษ์​พิทักษ์แล้ว​ ธนกร ระบุว่า ก่อนอภิปรายในมาตรา 152 วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้มีความกังวลแต่อย่างใดและพร้อมชี้แจง ซึ่งจากการพูดคุย ไม่ต้องมีการเตรียมตัวเยอะ​ เพราะเข้าใจว่า มีไม่กี่เรื่องที่ฝ่ายค้านจะอภิปราย และถือเป็นเรื่องที่ได้ยินดีที่จะใช้กลไกของสภาฯ พร้อมที่พร้อมย้ำว่านายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีพร้อมจะชี้แจง ไม่มีความกังวลแต่อย่าง

ส่วนกระแสการล็อบบี้ล่มการประชุมสภา ธนกร​ มองว่าไม่มีความจำเป็น เนื่องจากเข้าสู่โหมดการเลือกตั้งแล้ว​ และคาดว่าจะมีการยุบสภาในเดือนมีนาคมที่จะถึงนี้ ซึ่งเข้าใจเจตนารมณ์ของฝ่ายค้านที่จะทำทุกวิถีทางที่จะดิสเครดิตของรัฐบาล แต่ถ้ามองอีกมุมก็จะเป็นเวทีที่รัฐบาลจะชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจ ซึ่งตนเชื่อว่า พล.อ.ประยุทธ์​ไม่ได้เป็นสองรองใคร​ ในการอภิปราย​ และเชื่อมั่นในข้อมูลว่าที่ผ่านมานายกรัฐมนตรีทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริตมาโดยตลอด และปฏิบัติตามกฎหมาย​