ไม่พบผลการค้นหา
เฟซบุ๊กถูกโจมตีหลังอนุญาตให้ทีมหาเสียงลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ สมัยที่ 2 ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ เผยแพร่โฆษณา จนสร้างความสับสนให้กับประชาชน

สำนักข่าว CNN รายงานว่า เฟซบุ๊กถูกโจมตีอย่างหนักจากประชาชนหลายภาคส่วนหลังจากที่อนุญาตให้ทีมหาเสียงลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ สมัยที่ 2 ของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ซื้อโฆษณาและเผยแพร่ข้อมูลบนเฟซบุ๊ก เพื่อเรียกร้องให้ประชาชน 'ทำแบบสำรวจ' ทันที หรือ Respond Now เกี่ยวกับข้อมูลสำมะโนประชากรของชาวอเมริกัน

เนื้อหาในบางโฆษณานอกจากจะเรียกร้องให้ประชาชนเร่งทำแบบสำรวจแล้ว ยังระบุไว้อย่างชัดเจนว่า "แบบสำรวจนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการวางกลยุทธ์ให้กับแคมเปญรณรงค์หาเสียงประจำปี 2020 (พ.ศ.2563) ของเรา เราต้องการ ‘คนรักชาติ’ อย่างคุณให้ข้อมูลสำมะโนประชากรนี้ เพื่อที่เราจะได้พัฒนาแผนการที่มีประสิทธิภาพสำหรับมลรัฐของคุณ"

ไม่เพียงแต่ข้อความที่ระบุในตัวโฆษณาเท่านั้น ปัญหาที่น่ากังวลคือ ‘ชุดคำถาม’ ภายในแบบสำรวจ

บางคำถามระบุให้ชาวอเมริกันผู้ทำแบบสำรวจอธิบายว่า "คุณมีความเห็นอย่างไรต่อตัวประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์" รวมถึงการให้ประชาชนเปิดเผยรายละเอียดส่วนตัว เช่น ชื่อ อายุ และรายละเอียดสำหรับการติดต่อกลับ ไปจนถึงความชื่นชอบส่วนบุคคลเช่น สำนักข่าวที่พวกเขาเลือกอ่านมากที่สุด 

หนึ่งในคำถามที่สร้างความสงสัยมากที่สุดคือ "คุณคิดว่า แนนซี เพโลซี ประธานสภาคองเกรส และกลุ่มซ้ายจัด ใช้ความรู้สึกส่วนตัวที่ต่อต้านนายโดนัลด์ ทรัมป์ กระทำการต่างๆ ในสภา แทนที่จะให้ความสำคัญต่อประโยชน์ของประชาชนชาวอเมริกันเป็นอันดับแรกหรือไม่"

ความเคลื่อนไหวทั้งหมดนี้ทำให้พรรคฝ่ายค้านอย่าง 'เดโมแครต' วิจารณ์การทำงานและนโยบายของเฟซบุ๊กที่อนุญาตให้ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทางการเมืองเผยแพร่โฆษณาได้โดยไม่มีการ 'ตรวจสอบข้อเท็จจริง' ของเนื้อหาที่ปรากฏในตัวโฆษณาก่อน ซึ่งสร้างผลประโยชน์ให้กับตัวประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยตรง

"เรามีนโยบายหลายอย่างในการป้องกันไม่ให้ประชาชนเกิดความสับสนกับการจัดทำข้อมูลสำมะโนประชากรของสหรัฐฯ และเหตุการณ์นี้คือหนึ่งในตัวอย่างที่นโยบายของเรากำลังถูกนำมาปฏิบัติ" โฆษกของเฟซบุ๊กกล่าวกับ CNN 

ทั้งนี้ เฟซบุ๊กเคยเปิดเผยเมื่อเดือน ธ.ค.2019 ที่ผ่านมา ว่า ภารกิจหลักอย่างหนึ่งของบริษัทในปี 2020 นี้คือการจัดการกับการเผยแพร่ข้อมูลที่บิดเบือนเกี่ยวกับการจัดทำข้อมูลสำคัญของประเทศอย่างสำมะโนประชากร รวมถึงการจัดการกับการกระทำใดก็ตามที่ทำให้ชาวอเมริกันไม่ต้องการให้ความร่วมมือและให้ข้อมูลกับทางการ

CNN ระบุว่าได้มีการติดต่อไปยังทีมหาเสียงของทรัมป์ แต่ยังไม่มีการตอบกลับแต่อย่างใด