ไม่พบผลการค้นหา
'ชาญวิทย์' ร้อง ผบ.ตร. เหตุชายคล้ายตำรวจบุกที่พัก ไม่เข้าใจเอี่ยวม็อบเยาวชนผิดอย่างไร มองกระทบต่ออนาคตชาติ

วันที่ 4 เม.ย. 2565 ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ชาญวิทย์ เกษตรศิริ อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) สืบเนื่องจากกรณีที่ชายแต่งกายคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ 4 นาย มาคุกคามถึงที่พัก เมื่อวันที่ 22 มี.ค. ที่ผ่านมา โดยกลุ่มคนเหล่านี้ได้นั่งรถกระบะปิดบังป้ายทะเบียนมายังที่พัก จากนั้น 2 คนได้ลงจากรถ มาถามหาตนกับเจ้าหน้าที่นิติบุคคล และอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ได้รับมอบหมายให้มาติดตามกลุ่มคนจำนวนหนึ่งที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการชุมนุมของเยาวชน ซึ่งขณะนั้น ชาญวิทย์ ไม่ได้อยู่ที่พัก คนกลุ่มนี้จึงขอให้นิติคอนโดพาขึ้นไปหน้าห้องของตน แล้วถ่ายรูปไว้ 

ชาญวิทย์ ยอมรับว่า ตนเห็นใจคนรุ่นใหม่ที่มีข้อเรียกร้องที่ตรงกับประเด็นปัญหาบ้านเมือง และหากผู้ใหญ่ในบ้านเมืองรับฟังเสียงของคนหนุ่มสาว แล้วสามารถปฏิรูปประเทศได้ ตนเชื่อว่าประเทศไทยสามารถเปลี่ยนผ่านไปสู่อนาคตด้วยการประนีประนอมได้ ตรงกับคำกล่าวว่าเป็น 'Land of Compromise' 

วันนี้ เดินทางมาแจ้งความกับผบ.ตร. ให้ช่วยตรวจสอบเรื่องดังกล่าว ตนมีชีวิตอยู่มาจนอายุมากขนาดนี้แล้ว ยังไม่รู้เลยว่า การไปเยี่ยมเยียนเยาวชนที่ออกมาชุมนุมนั้น ถือเป็นความผิดทางอาญาได้อย่างไร จึงอยากให้ทุกคนช่วยกันผลักดันเรื่องนี้ เพราะเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับอนาคตประเทศ 

"เรื่องนี้ไม่ใช่เฉพาะตัวผมเอง แต่ผมคิดถึงคนจำนวนมาก ที่กำลังเผชิญปัญหาการถูกคุกคามแบบนี้ โดยเฉพาะคนหนุ่มสาวทั้งหลาย หลายคนก็เป็นลูกศิษย์ลูกหาของผมที่มหาวิทยาลัย ด้วยความเป็นอาจารย์ เมื่อลูกศิษย์ลูกหา เผชิญกับความไม่ยุติธรรมแบบนี้ เราอยู่เฉยๆ ไม่ทำอะไรเลยก็ไม่ได้ ผมจึงมาแจ้งความ" ชาญวิทย์ กล่าว 

ด้าน กฤษฎางค์ นุตจรัส ทนายความ ระบุหลังจากเข้ายื่นเรื่องร้องเรียน และลงบันทึกประจำวันแล้ว ว่าทาง สตช. จะประสานทางเลขาธิการ เพื่อส่งเรื่องให้ ผบ.ตร. ต่อไป ขณะที่ ชาญวิทย์ นั้น เคยผ่านการถูกคุกคามมาบ่อยครั้ง ไม่ได้จะถือสาหาความ แต่เห็นว่าครั้งนี้เป็นพฤติกรรมที่กระทบสิทธิเสรีภาพ และละเมิดกฎหมายอย่างชัดเจน หากบุคคลเหล่านั้นเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริง ก็จะมีความผิดตามมาตรา 157 

"ในฐานะเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหาร เเละเป็นประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) มีความรับผิดชอบเต็มที่อยู่เเล้ว เพียงเเต่ว่าท่านจะสนใจหรือเปล่าเท่านั้น ก็พูดยาก เพราะบางทีอาจจะไม่เข้าใจก็ได้ ก็คงต้องพยายามให้ ผบ.ตร. ซึ่งรับผิดชอบโดยตรงเป็นคนรายงานไป เเต่ถ้าผมเป็นนายกฯ ที่บอกว่าจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง เรื่องเหล่านี้ถือเป็นอุปสรรค" กฤษฎางค์ กล่าว