ไม่พบผลการค้นหา
ป.ป.ช.เผยเร่งสางคดีขายข้าวจีทูจียุคยิ่งลักษณ์ให้เสร็จภายใน ก.ย. ยอมรับจีทูจียุค ‘อภิสิทธิ์’ ยังช้าอยู่ ส่วน ‘กิตติรัตน์’ รอ อสส.ไต่สวน

วันที่ 23 ส.ค. 2564 สุภา ปิยะจิตติ กรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีการซื้อขายแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ทั้งหมด ว่า คดีจีทูจียุครัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้แก่ ระบายข้าวจีทูจีล็อต 2 มีการตั้งไต่สวนเพิ่มเติมอย่างน้อย 2-3 ราย และมีการกันพยานบุคคลอยู่ โดยมีการแจ้งข้อกล่าวหาแล้วทั้งหมด โดยบุคคลที่ถูกไต่สวนเพิ่มเติม 2-3 รายนั้น ส่วนใหญ่เป็นอดีตนักการเมืองที่อยู่ต่างประเทศ และมีเจ้าหน้าที่ของรัฐ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เป็นผู้ถูกกล่าวหา ขณะที่คดีขายมันสำปะหลัง (มันเส้น) จีทูจี กำลังสรุปสำนวนการไต่สวน

สุภา กล่าวว่า ส่วนคดีจีทูจียุครัฐบาล อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ มีอยู่ 3 คดี คือคดีระบายมันสำปะหลังจีทูจี ระบายข้าวจีทูจี และการประมูลข้าวเป็นอาหารสัตว์เลี้ยง ปัจจุบันยังอยู่ระหว่างดำเนินการ โดยสาเหตุที่ล่าช้าเนื่องจากมีพยานเอกสารบางชิ้น ที่พบว่า ไม่เหมือนกับตัวต้นฉบับ โดยเอกสารที่ส่งมายัง ป.ป.ช. ไม่ปรากฏลายเซ็นของบุคคลใดเลย จึงดำเนินการขอเอกสารตัวจริงอยู่ และรอเสนอเข้าที่ประชุมองค์คณะไต่สวนว่าจะแจ้งข้อกล่าวหาใครบ้าง และคดีนี้ยังไม่หมดอายุความ เนื่องจากมีอายุความ 20 ปี

สำหรับคดีมันเส้นจีทูจี และระบายข้าวจีทูจียุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ พยายามจะทำให้แล้วเสร็จภายในเดือน ก.ย. 2564 พยายามตั้งเป้าหมายให้แคบที่สุดเพื่อไม่ให้มีปัญหา แต่เนื่องจากติดปัญหาโควิด-19 ทำให้เจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องบางรายไม่สามารถเข้าให้ปากคำได้” สุภา กล่าว

ป.ป.ช..jpg

สุภา ยังกล่าวถึงการที่ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด กิตติรัตน์ ณ ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรี กับพวก คดีปรับปรุงข้าวส่งออกไปยังอินโดนีเซีย เอื้อ บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด หรือคดีข้าวบูล็อค ว่า คดีดังกล่าวมีการชี้มูล กิตติรัตน์ กับพวก เนื่องจากตามทางไต่สวน มีการทักท้วงจากผู้ส่งออกข้าว 2-3 ราย ถึงวิธีการในการเปิดประมูลการปรับปรุงข้าวส่งออกไปยังอินโดนีเซียดังกล่าวว่าอาจทำโดยมิชอบ เบื้องต้นได้ส่วนสำนวนให้กับ อสส. แล้ว ปัจจุบัน อสส. กำลังพิจารณาอยู่