นายปิยวัฒน พันธ์สายเชื้อ ส.ส.ยโสธร พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า เนื่องจากฝนทิ้งช่วงมา ตั้งแต่เดือน ต.ค. 2562 ที่ผ่านมา และสภาพอากาศแห้งแล้ง ส่งผลให้พี่น้องประชาชนใช้ชีวิตลำบากมาก โดยเฉพาะภาคการเกษตรไม่สามารถที่จะทำนาปลูกข้าวได้ ทั้งนี้ แหล่งน้ำตามธรรมชาติของจังหวัดแห้งทุกบ่อ ส่งผลกระทบกับประชาชนไม่มีน้ำกินน้ำใช้ 

ล่าสุด "บ่อโจ้โก้" ที่เป็นแหล่งน้ำธรรมชาติเพียงแห่งเดียว ที่ใช้ในการผลิตน้ำประปา มีประชาชนกว่า 400 ครอบครัวได้ประโยชน์จากน้ำในบ่อนี้ ปัจจุบันพบว่าปริมาณน้ำในบ่อแห่งนี้ได้แห้งขอดลง จนชาวบ้านในพื้นที่สามารถเดินข้ามไปมาได้ ถือว่าภัยแล้งครั้งนี้รุนแรงสุดในรอบ 40 ปี 

ทั้งนี้ ที่ผ่านมากรมชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่สำรวจความเดือดร้อนของประชาชน รวมทั้งการสำรวจความเสียหายจากความแห้งแล้งที่เกิดขึ้น แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะกรมชลประทานอ้างว่า ไม่มีงบประมาณสนับสนุนในการขุดบ่อ หรือการเจาะน้ำบาดาลเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชน ทั้งที่ผ่านมารัฐบาลใช้งบประมาณกว่า 60,000 ล้านบาทในการแก้ปัญหาภัยแล้ง อยากถามรัฐบาลว่างบประมาณไปใช้ตรงไหนบ้าง

นายปิยวัฒน กล่าวด้วยว่า การที่รัฐบาลออกพระราชกำหนดเงินกู้ เพื่อแก้ปัญหาเศรษฐกิจ รวมทั้งฟื้นฟูประเทศจำนวนกว่า 1.9 ล้านล้านบาท รัฐบาลต้องเร่งดำเนินการ ในการแก้ปัญหาภัยแล้งช่วยเหลือประชาชน อย่าอ่านแต่รายงานที่หน่วยงานราชการนำเสนอขึ้นไป พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องลงพื้นที่อย่าสั่งการในห้องแอร์ เพราะความเดือดร้อนของประชาชนรอไม่ได้

"งบประมาณมหาศาลที่ใช้หมดไป แต่ความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนไม่ได้รับการแก้ไข ที่ผ่านมาไม่มีโครงการไหนของรัฐบาล ที่จะสามารถแก้ปัญหาภัยแล้งแบบยั่งยืนได้ ดังนั้นรัฐบาลต้องชี้แจงว่างบประมาณ 60,000 ล้านบาท นำไปแก้ปัญหาภัยแล้งที่ไหนมีผลงานให้เห็นหรือไม่ ประชาชนไม่มีความรู้สึกว่ารัฐบาลได้แก้ปัญหาให้ปัญหาให้กับประชาชน" นายปิยวัฒน กล่าว