ไม่พบผลการค้นหา
‘พิชัย’ มอง ‘กสทช.’ แก้ต่างปมควบรวม ‘ทรู-ดีแทค’ ส่อเป็นศัตรูกับ กมธ. เล็งเชิญ AIS ร่วมหารือวาระหน้า ฝากถึง ‘ประยุทธ์’ หยุดยื้อแต่งตั้งบอร์ดชุดใหม่

พิชัย นริพทะพันธุ์ รองประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย ด้านเศรษฐกิจ และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาผลกระทบกรณีการควบรวมกิจการโทรคมนาคม ระหว่าง True และ Dtac และการค้าปลีก-ค้าส่ง กล่าวถึงผลความคืบหน้าจากการประชุมกรรมาธิการครั้งล่าสุด เมื่อ 23 ก.พ. 2565 ว่า กรรมาธิการบางคนรู้สึกว่า กสทช. ราวกับจะตั้งตนเป็นศัตรู คือมีท่าทีคล้ายจะแก้ต่างให้กับการควบรวมทรู-ดีแทค ทั้งที่โดยหลักการแล้วควรจะหาทางแก้ปัญหา และปกป้องประชาชนผู้บริโภคมากว่า 

รวมทั้งประเด็นของการแต่งตั้งที่ปรึกษาทางการเงินให้ผู้มีผลประโยชน์ทับซ้อน คือบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ แทนที่จะหาคนที่มีความเป็นกลางมาวิเคราะห์กรณีนี้ และที่สำคัญควรมอบหมายให้ กสทช. ชุดใหม่ มาเป็นผู้ดูแลเรื่องนี้แทน กสทช. ชุดเก่าด้วย ซึ่งดูจากประวัติของแต่ละท่านแล้ว ตนมองว่าน่าจะมีความโปร่งใสกว่าชุดปัจจุบัน ที่ดูเหมือนคอยทำตามคำสั่ง

พิชัย ยังกล่าวถึงพฤติกรรมของทรูในอดีตเมื่อหลายปีก่อน ซึ่งเคยซื้อบริษัทในกลุ่มฮัทชิสัน และแปลงสัญญาณของฮัทช์เป็น 3G โดยไม่ได้ขออนุญาตอย่างตรงไปตรงมา ถือเป็นความผิดที่ชัดเจน แต่สุดท้ายก็มีการช่วยเหลือกันจนผ่านพ้นมาได้ ซึ่งพฤติกรรมเช่นนี้อาจมีส่วนให้เกิดปัญหาตามมาในอนาคตได้ จึงขอเรียกร้องให้ กสทช. เข้ามาดูแลและหยุดยั้งเรื่องที่ไม่ถูกต้องนี้ เพราะแสดงออกถึงการเข้ามาผูกขาดมีอำนาจเหนือตลาดอย่างชัดเจน โดยในวาระการประชุมกรรมาธิการวิสามัญในครั้งหน้าก็จะเชิญตัวแทนจากทั้ง 3 บริษัทโทรคมนาคมมาร่วมแสดงความเห็นด้วย ได้แก่ ทรู ดีแทค และ AIS

นอกจากนี้ พิชัย ยังเผยว่า ในการประชุมครั้งล่าสุด คณะกรรมาธิการการแข่งขันทางการค้าก็ได้มาร่วมประชุมด้วย และได้แสดงออกถึงความกังวลต่อกรณีควบรวมทรู-ดีแทค เช่นกัน ขณะที่ตนมองว่าทั้งสังคมก็คงไม่อยากให้การควบรวมนี้เกิดขึ้น เนื่องจากจะมีผลเสียตามมามากมายอย่างที่เห็นจากการควบรวมที่ผ่านมาหลายครั้ง เช่น การขึ้นราคาเอาเปรียบผู้บริโภค และยิ่งในอนาคตจะมีการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีตามมา การควบคุมราคาของบริการประเภทนี้จะยิ่งยากขึ้น

พิชัย ยังฝากถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ว่าเหตุใดกระบวนการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งบอร์ด กสทช. ชุดใหม่ จึงยังคงล่าช้า ไม่มีความชัดเจน ควรจะแบ่งแยกให้ชัดว่าขอบข่ายหน้าที่ควรเป็นของบอร์ดชุดเก่าหรือใหม่ ไม่ใช่ปล่อยให้กำกวมเช่นนี้ จึงขออย่าให้ถ่วงเวลาการแต่งตั้งบอร์ด กสทช. ชุดใหม่อีกต่อไป