ไม่พบผลการค้นหา
'เพื่อไทย' ห่วง 'ประยุทธ์' ให้ของขวัญประชาชนเป็นแค่การหาเสียงแบบด้อยค่าประชาชน ไม่ได้ทำให้ประเทศดีขึ้น ชี้ คิดได้แค่แจกเงิน ใช้แล้วหมดไปแต่หนี้พุ่ง แก้ปัญหาไม่เคยได้ แนะ ถึงเวลาต้องคิดถึงอนาคต สร้างงาน สร้างเงิน เพิ่มรายได้

วันที่ 27 ธ.ค. 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พชร นริพทะพันธุ์ กรรมการบริหารและคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยกล่าวว่า ตามที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ได้ออกมาตรการในช่วงปีใหม่ เสมือนให้ของขวัญกับประชาชน ซึ่งป่าวประกาศออกมาก็มีแต่มาตรการเดิมๆ ซ้ำๆ เช่น คนละครึ่ง ช้อปดีมีคืน ลอตเตอรี่ 80 บาท ฯลฯ แม้ว่าจะเป็นเรื่องดีที่ประชาชนบางส่วนจะได้ประโยชน์และอาจจะมีความสุขชั่วคราวกับมาตรการเหล่านี้

"แต่มันคือการด้อยค่าประชาชนที่ต้องการอนาคตที่ชัดเจน มากกว่าการใช้งบประมาณแบบคนไร้ความรู้ อยากถามพล.อ.ประยุทธ์ ว่าหลังจากออกมาตรการเหล่านี้แล้วประเทศไทยดีขึ้นตรงไหน จะช่วยให้ประชาชนมีงานทำหรือไม่? โดยเฉพาะเด็กจบใหม่จะมีงานให้เขาหาทำได้หรือไม่? ประเทศไทยจะมีทิศทางที่ดีขึ้นได้อย่างไรกับการแจกแบบนี้? แล้วประชาชนจะหาเงินทึ่ไหนมาใช้จ่าย?" พชรกล่าว

พชรกล่าวอีกว่า โดยสรุปมาตรการเหล่านี้ทำให้รัฐบาลสร้างหนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นแต่ประเทศกลับไม่ได้พัฒนาขึ้นเลย เหมือนตลอด 7 ปีที่ผ่านมาใช่ไหม

"ดังนั้นจึงอยากให้พล.อ.ประยุทธ์ ได้คิดถึงอนาคตของประเทศด้วย ไม่ใช่จะแจกเงินเพียงเพื่อจะรักษาความนิยมของตนเองที่กำลังตกต่ำอย่างมากเพียงเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันประเทศไทยได้เสื่อมถอยลงอย่างมาก เพราะผู้นำมีความคิดจำกัดแค่แจกเงินรูปแบบเดิมๆ" พชรกล่าว  

พชรกล่าวต่อว่า โดยหลักการที่แจกแบบสะเปะสะปะ ไม่มียุทธศาสตร์ที่ชัดเจน ไม่ได้ใช้หลักอุปสงค์อุปทาน เช่น คนละครึ่ง หรือช้อปดีมีคืน ซึ่งผู้ที่มีรายได้น้อยและกำลังเดือดร้อน ไม่ได้ประโยชน์เพราะไม่เหลือเงินให้ใช้แล้ว บางเรื่องอย่างลอตเตอรี่ราคา 80 บาท ก็ไม่น่าจะใช่ของขวัญ

"พล.อ.ประยุทธ์ ได้บอกเรื่องนี้มาหลายปีแล้ว แต่ไม่เคยแก้ไขได้ ซึ่งหากมองย้อนหลังจะพบว่าตลอด 7 ปีที่ผ่านมาพลเอกประยุทธ์ แก้ปัญหาของประเทศไม่ได้เลย ตั้งแต่ปัญหาเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ เศรษฐกิจขยายตัวต่ำเตี้ยจนต้องเปลี่ยนผู้บริหารเศรษฐกิจ 4 ชุดแล้ว แต่ก็ยังคงล้มเหลว ปัญหาคนจนที่เพิ่มขึ้นมาทุกปี ปัญหาการว่างงานที่พุ่งสูงมาตลอดจนมาพุ่งสูงสุดในรอบ 20 ปี ปัญหาของประเทศที่ไร้ทิศทางว่าจะมีอนาคตอย่างไร ปัญหาราคาสินค้าเกษตรที่ตกต่ำโดยเฉพาะราคาข้าวที่ถูกกว่าราคาอาหารสัตว์ ปัญหาน้ำท่วมที่สลับกับปัญหาน้ำแล้ง ปัญหาฝุ่น PM. 2.5 ที่ทำคนไทยต้องตายกันแบบผ่อนส่ง ปัญหาล็อตเตอรี่แพงขายเกินราคาที่ไม่เคยแก้ไขได้ เป็นต้น ซึ่งเป็นปัญหาที่ทุกคนในประเทศทราบดี แต่พลเอกประยุทธ์ ดูเหมือนจะไม่สามารถแก้ไขได้ คิดได้อย่างเดียวคือการกู้เงินมาแจกและเราก็ต้องมาใช้หนี้ก้อนโตจากที่พล.อ.ประยุทธ์ กู้ไว้แต่ประเทศไม่เจริญ ไปอีกหลายเจน" คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยกล่าว

คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยผู้นี้กล่าวอีกว่า เรื่องที่พล.อ.ประยุทธ์ ต้องเร่งทำไม่ใช่แค่การแจกเงินผ่านมาตรการแบบไร้หลักการ แต่เป็นการจัดสรรสภาพคล่อง ให้ประชาชน กลับมาทำงาน สร้างเงิน หารายได้ให้ได้ ตอนนี้คนไทยส่วนใหญ่ต้องการมีงานทำ มีรายได้ที่เพิ่มขึ้น ประชาชนคาดหวังรายได้จากการทำงานที่มั่นคงและมีงานดีๆ มีรายได้สูงๆ นโยบายให้คุณค่าและศักดิ์ศรีกับประชาชน มากกว่าจะมารอรับการแจกเงินแบบกะปิดกะปอยอย่างที่เป็นอยู่ ซึ่งจะไม่มีทางทำให้ประเทศไทยหลุดพ้นจากประเทศรายได้ปานกลางได้ แถมยังต้องแจกบัตรคนจนเพิ่มขึ้นตลอด

"น่าจะเป็นสิ่งสะท้อนในความล้มเหลวของรัฐบาลที่ทำให้มีคนจนเพิ่ม มากกว่าจะมาตีปี๊บดีใจว่ามีคนเข้ามาขอบัตรคนจนเพิ่ม ในส่วนการโฆษณาว่ารัฐบาลกำลังจะแจกบัตรคนจนเพิ่มนั้นเป็นสิ่งน่าละอายมากกว่าที่จะภูมิใจ" คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยกล่าว

สำหรับพชร ถึงเวลาแล้วที่พล.อ.ประยุทธ์ จะต้องรู้ว่า คนไทยโดยเฉพาะคนไทยรุ่นใหม่อยากได้อนาคตที่ดี ประเทศมีทิศทางในอนาคตที่ชัดเจน มีงานดีๆ ที่มีรายได้สูงๆ มีทางเลือกให้มากๆ ไม่ใช่ไม่มีงานจะให้ทำ อย่าว่าแต่จะให้เลือกงานเลย ซึ่งเป็นไปไม่ได้เหมือนในปัจจุบัน อยากให้คนไทยมีอิสระและเสรีภาพทางความคิดและการแสดงออก ซึ่งเป็นพื้นฐานของระบอบประธิปไตย และยังสามารถพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ต่อยอดไปในธุรกิจในอนาคตที่ต้องการจิตนาการของคนรุ่นใหม่ ซึ่งประเทศไทยล้าหลังมากว่า 7 ปีแล้ว

"แต่พล.อ.ประยุทธ์ ไม่เข้าใจ เพราะคิดไปเองว่าตนเองทำดีที่สุดแล้ว แต่ประเทศกลับเสื่อมถอย ซึ่งเป็นผลมาจากข้อจำกัดทางความรู้ความสามารถของการเป็นผู้นำ ซึ่งถึงเวลาที่ควรจะสำนึกได้แล้ว" คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทยกล่าว