ไม่พบผลการค้นหา
'คณะหลอมรวมประชาชน' นัดชุมนุมใหญ่ 16 ต.ค. ระดมสมองมวลชนประชาธิปไตย เตือนทุกพรรคการเมืองกำลังโดน 3 ป. ต้ม ขายฝันจะมีเลือกตั้ง สุดท้ายเจอทางตันต้องมาลงถนนกับประชาชน ปลุกนักการเมืองลาออกให้หมด มาช่วยร่าง รธน. ฉบับประชาชน

วันที่ 2 ต.ค. 2565 ที่อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา คณะหลอมรวมประชาชน นำโดย จตุพร พรหมพันธุ์ และ นิติธร ล้ำเหลือ หรือ ทนายนกเขา จัดกิจกรรม 'กางปฏิทินใหญ่ หยุด 3 ป. หยุดรัฐประหาร นับหนึ่งประเทศไทย นัด 2 ตุลา ร่วมหารือฝ่ายประชาธิปไตย' เพื่อแถลงมติหลังการหารือกันระหว่างแนวร่วมมวลชนฝ่ายประชาธิปไตยหลายกลุ่มเมื่อวานนี้ (1 ต.ค.) ถึงแนวทางการเคลื่อนไหวหลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังไม่ครบ 8 ปี

โดย จตุพร ระบุว่า เมื่อวานนี้ได้มีการประชุมหารือและกำหนดมาตรการ ได้ข้อสรุปว่า สถานการณ์ของประเทศนับตั้งแต่การยึดอำนาจของ พล.อ.ประยุทธ์ นำพามาสู่รัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว จนกระทั่งถึงรัฐธรรมนูญฉบับชั่วถาวร ปี 2560 ตนได้พยายามบอกกล่าวส่งข่าวไปยัง มีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ว่าขอร้องว่าอย่าเพิ่งตาย ขอให้มีอายุยืนยาวพอที่จะมองเห็นความฉิบหายของบ้านเมือง ซึ่งเป็นผลของรัฐธรรมนูญ ฉบับปี 2560 ที่เจ้าตัวเขียน รัฐธรรมนูญที่มาจากกระบอกปืนไม่มีทางเข้าใจความรู้สึกประชาชน โดยรัฐธรรมนูญฉบับที่ มีชัย เขียน เดินทางตามเจตนารมณ์ของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่มีตัวเลข ส.ว. ถึง 33% ในสภาฯ ทั้งที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง 

จตุพร ประเมินว่า การเลือกตั้งทั่วไปที่กำลังจะเกิดขึ้นจะรุนแรงยิ่งกว่าประเทศเมียนมา เพราะ 3 ป.จะไม่สนอะไรเลย ขอเรียนไปถึง ส.ส.ในสภาฯ ว่ากำลังโดนต้ม เพราะสิ่งที่ดำเนินการนั้น น่าจะไปไม่ถึงการเลือกตั้ง คณะนี้เขาต้มนักการเมือง แล้วนักการเมืองก็มาต้มประชาชน ประเทศไทยรอไม่ได้แม้แต่วันเดียว ที่ให้ พล.อ ประยุทธ์ เป็นผู้นำในการปกครองประเทศ โดยกลไกที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญลดอำนาจ ส.ว. แทบจะเป็นไปไม่ได้ มองว่า ส.ว.เปรียบเสมือนเป็ด ที่ให้เดินไปทางไหนก็ตามไปทางนั้น

นอกจากนี้ จตุพร ตั้งข้อสังเกตว่า องค์กรอิสระต่างๆ ล้วนมาจากการแต่งตั้งของคณะรัฐประหาร ซึ่งเป็นคนของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ผ่านมา รัฐบาลใช้งบประมาณ 30 ล้านล้านบาท หนี้ครัวเรือนเพิ่มสูงขึ้น รัฐมนตรีหลายคนที่มาอยู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ กลับกลายเป็นมาดำรงตำแหน่งด้วยความซื่อสัตย์ แม้ดัชนีคอรัปชั่นของโลกจะพุ่งสูงขึ้น

จตุพร ระบุต่อว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ปกติต้องแก้ยกแผง แต่ 3 ป.กลับให้แก้ไขเพียงบางมาตรา ทำให้เกิดความวุ่นวาย 

มีความแปลกและเป็นการวางยาให้มาจบที่ศาลรัฐธรรมนูญจนไม่ได้นำไปสู่การเลือกตั้ง ซึ่งในระยะเวลา 5-6 เดือนที่คณะหลอมรวมประชาชน พยายามยามสื่อสารกับประชาชนว่า 3 ป.ไม่ยอมให้มีการเลือกตั้งโดยมีการยื้อเวลาและแก้กติกา มองว่าสักวัน พรรคการเมืองก็คงเข้าใจ

"ถ้าปล่อยต่อไปง่ายๆ สภาครบวาระที่ 24 มี.ค. 2566 กฎหมายลูกยังไม่มี เลือกตั้งไม่ได้ จัดการเลือกตั้งไม่ได้ 7 พ.ค. ทำไงดี ประยุทธ์ รักษาการ เพราะรัฐธรรมนูญฉบับที่ มีชัยเขียน ระบุชัดว่าต้องใช้เป็น พ.ร.ป. เลือกตั้งเท่านั้น นอกจากนั้น พรรคการเมืองจะทำอย่างไร ก็ต้องมาลงถนนกับพวกเรา"

จตุพร กล่าวว่า คำวินิฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไม่ผิดไปจากคาดการณ์ของคณะหลอมรวมประชาชน ตนไปออกรายการที่ไหน ก็เชื่อว่ารอด ซึ่งก็รอดทุกกรณี ถวายสัตย์ไม่ครบก็รอด บ้านหลวงก็รอด ไม่แสดงบัญชีทรัพย์สินก็รอด หากเป็นคนอื่นคงไม่เป็นเช่นนี้ มองว่าคำวินิจฉัยมีนัยะสำคัญ ตนดีใจที่กลุ่มมวลชนต่างๆ ออกมาแสดงความเห็น รวมถึงกลุ่มราษฎรที่ฟื้นกลับมาแล้ว ตนขอเชิญชวนให้ประชาชนให้ออกมาต่อสู้ โดยมองว่าการต่อสู้ครั้งนี้มีความสำคัญ เหมือนกับการลงประชามติรัฐธรรมนูญ ปี 2560 เราเองสู้กันบนพื้นฐานความเป็นจริง หัวใจคือการออกแบบการต่อสู้ มองว่าการรัฐประหารครั้งสุดท้ายไม่มีอยู่จริง 3 ป.เริ่มสงคราม หน้าที่ของประชาชนคือต้องจบสงครามนี้ 

"รักความสงบจบที่ลุงตู่ เป็นไงล่ะ สงบจนฉิบหายวายวอดมาจนถึงปัจจุบัน นับหนึ่งประเทศไทย ต้องเริ่มจากการเขียนรัฐธรรมนูญที่มาจากประชาชน"

จตุพร ระบุว่า วันนี้เป็นการจุดประกายเริ่มต้นนับ 1 ประเทศไทย เงื่อนเวลาจากวันนี้ไปจนถึง 24 มี.ค. 2566 จะได้รับการพิสูจน์ เราต้องทำให้ประชาชนเชื่อให้ได้

"คนที่ถากถาง คำก็จุดไม่ติด สองคำก็จุดไม่ติด ถามหน่อย เห็นกูเป็นไม้ขีดไฟหรือ วันที่ 30 ก.ย. ที่ผ่านมาเป็นการจุดประกาย คำพูดเตะหมูเข้าปากหมา แต่ไม่เคยเข้าปากประชาชนสักครั้ง ต้องเตะจากปากหมามาเข้าปากประชาชนให้ได้"

จตุพร ประกาศว่า จะนำข้อเสนอและแนวทางที่หารือกับกลุ่มต่างๆ มาสื่อสารกับประชาชน โดยการจัดรายการผ่านแพลตฟอร์มในโซเชียลมีเดียของตน เวลา 8.00 น. ของทุกวัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 4-16 ต.ค. โดยวันที่ 16 ต.ค. จะนัดหมายชุมนุมใหญ่ ซึ่งจะกำหนดสถานที่อีกครั้ง

ด้าน นิติธร ล้ำเหลือ กล่าวถึงการทำคำวินิจฉัยว่า ดูทำออกมาอย่างขาดเหตุผล ความเชื่อมโยง ปรากฏช่องว่าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดำรงตำแหน่งนายกฯ ตั้งแต่ปี 2557 จนกระทั่งได้รับโปรดเกล้าฯ อีกครั้ง ส่วนนี้ศาลได้อธิบายว่าอย่างไร คำอธิบายของศาลจึงขาดช่วง จำเป็นต้องดูความเป็นมาก่อน จึงจะอ้างเหตุผลได้ แล้วต้องดูต่อไปถึงความสมเหตุสมผล เป็นหลักพื้นฐานที่นักกฎหมายทั่วโลกใช้ให้แนวคิดมีความสมบูรณ์หนักแน่น 

วันนี้เราได้เห็นการทำผิดหลักกฎหมาย เท่าที่เคยมีการตรากฎหมายขึ้นมาบนโลกนี้ เพราะข้อเท็จจริงไปทางหนึ่ง แต่คำวินิจฉัยไปอีกทางหนึ่ง ข้อเท็จจริงคือ พล.อ.ประยุทธ์ ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาแล้ว 8 ปี แต่ข้อกฎหมายกลับไม่ยอมรับข้อเท็จจริง นี่ใช้คำวินิจฉัยหรือไม่ หรือเป็นคำสั่งเฉพาะเพื่อบุคคล เพราะศาลนับการดำรงตำแหน่งตั้งแต่ปี 2557 - 2560 เฉพาะว่าเป็นการบริหารราชการต่อเนื่อง แต่ไม่นับว่าเป็นนายกรัฐมนตรี ถือว่าย้อนแย้งกันเองหรือไม่

"ตั้งแต่ปี 2560 ถึง 2562 ไอ้เวรนี่ดำรงตำแหน่งอะไรไม่ทราบ มีใครตอบได้หรือไม่ ในคำวินิจฉัยก็ไม่บอก แต่เป็นไปไม่ได้ ถ้าคุณบอกว่าเพื่อความต่อเนื่องของการบริหารราชการแผ่นดิน แล้วเขาบริหารในฐานะอะไร นี่คือคำวินิจฉัยที่ขาดตอน ... นี่คือความเฮงซวยอย่างที่สุดของระบบยุติธรรม"

นิติธร ชี้ว่า กรณีนี้เป็นการใช้กฎหมู่เพื่อทำลายกติกาบ้านเมืองทั้งหมด เพื่อให้คนกลุ่มหนึ่งมีอำนาจต่อ โดยที่คำวินิจฉัยเองก็อธิบายไม่ได้ เห็นทีควรต้องทบทวนว่ายังจำเป็นต้องมีศาลรัฐธรรมนูญอยู่ต่อไปหรือไม่ ที่มาของศาลรัฐธรรมนูญควรจะเป็นแบบนี้อีกหรือไม่ พี่น้องประชาชนต้องไปคิดดู ส่วนตนกำลังหาทางกวาดล้างคนพวกนี้ให้หมด และนำมาสำเร็จโทษให้ได้

"ผมขอเตือนว่าพวกนักการเมือง ถ้ายังคงเดินหน้าไปสู่การเลือกตั้ง แสดงว่าคุณมีสันดานเฉกเช่นเดียวกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คือสันดานในการทำลายระบอบประชาธิปไตย"

นิติธร กล่าวว่า ขณะนี้ระบอบ 3 ป. ได้ทำลายระบบกฎหมายอย่างเบ็ดเสร็จแล้ว ถ้าพวกนักการเมืองยังออกมาพูดเรื่องการเลือกตั้ง แปลว่าพวกคุณยอมรับระบอบ 3 ป. ไม่ได้ยอมรับระบอบประชาธิปไตย เพราะเป็นที่ประจักษ์แล้วว่ารัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ได้มาจากประชาชนแม้แต่มาตราเดียว 

ส่วนตัวตนมองว่าเวลานี้ ถ้าต้องการระบอบประชาธิปไตย นักการเมืองทุกคนควรลาออกให้หมดแล้วมาช่วยกันสร้างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ปล่อยให้เหลือพรรคพลังประชารัฐอยู่พรรคเดียว พร้อมตั้งคำถามว่าขณะนี้มีนักการเมืองคนไหนเคยแก้รัฐธรรมนูญได้สำเร็จหรือไม่ แต่ละคนสนใจกันแต่เรื่องเลือกตั้ง

"คณะหลอมรวมประชาชนยืนยัน ถ้าไม่แก้รัฐธรรมนูญ และไม่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน การเลือกตั้งไม่มีเด็ดขาด ใครเป็นสมาชิกพรรคการเมืองไหน นั่นเป็นเรื่องส่วนบุคคล แต่ขณะนี้ต้องไปเรียกร้องให้ผู้แทนฯ ของท่านลาออกให้หมด แล้วมาร่วมร่างรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน นี่ถึงจะฟื้นฟูอำนาจอธิปไตยได้"

นิติธร ระบุว่า ถ้าประชาชนยังฝักใฝ่อยู่กับการเลือกตั้ง ตนบอกล่วงหน้าสำหรับคนรักพรรคเพื่อไทย เพื่อไทยมีโอกาสแลนด์สไลด์ แต่ไม่มีโอกาสจัดตั้งรัฐบาลได้ในกติกาแบบนี้ ต่อให้ได้ 300 เสียงก็ตาม ท้ายสุดจะเกิดมวลชนอีกฝั่งมาขวางการเลือกตั้งไม่ให้เกิดแลนด์สไลด์ ประเทศจะวุ่นวาย นักการเมืองที่ฝันจะเลือกตั้งก็ไม่มีวันเกิด

นิติธร ย้ำว่า ถ้าท่านชื่นชอบนักการเมืองคนใดก็ไปบอกเขา ว่าประเทศจะดีขึ้นได้ต้องเริ่มจากอำนาจอธิปไตย ถ้าทุกคนใช้อำนาจของตนเมื่อไหร่ รัฐธรรมนูญฉบับประชาชนเกิดขึ้นจริงแน่นอน และเมื่อนั้น ทั้งศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระก็ต้องอยู่ใต้ประชาชน จะไม่เกิดกรณีโรงพักร้าง ซึ่งต้องมีคนรับผิดชอบ