ไม่พบผลการค้นหา
ตัวเลขผู้ลักลอบเข้ามาคลอดบุตรในสหรัฐฯ สูงเกือบ 40,000 ราย/ปี 'ทรัมป์' พร้อมแก้รัฐธรรมนูญปรับช่องโหว่ มองทำประเทศเสียเงินและไม่ยุติธรรมกับพลเมืองของตัวเอง

หนึ่งในประเด็นร้อนแรงของสังคมขณะนี้ คือการที่ พ.ต.ท. พญ. อัญชุลี ธีระวงศ์ไพศาล หรือที่ใช้ชื่อ 'หมอแอร์' ในบัญชีเฟซบุ๊ก โพสต์ข้อความรับให้คำปรึกษาสำหรับผู้ที่อยากคลอดบุตรในประเทศสหรัฐฯ โดยอ้างว่า "เพื่ออนาคตและโอกาสที่ดีของลูก" หรือการได้สัญชาติอเมริกัน ซึ่งก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์บนโลกออนไลน์อย่างหนักถึงความเหมาะสม ทั้งยังมีการตั้งข้อสังเกตถึงความพยายามในการใช้ช่องโหว่ ทางกฎหมายเพื่อให้ได้มาซึ่งประโยชน์ส่วนตน

แผ่นดินเกิดไม่ตอบโจทย์

'ความฝันอเมริกัน' วาทกรรมที่แสดงถึงความหวัง ความก้าวหน้า และหนทางการไปสู่ชีวิตที่ดีกว่าของผู้คนชนชาติอื่นที่อยากจะไขว่คว้าโอกาสในการเปลี่ยนชีวิตอันยากไร้ไปสู่ความมั่งคั่ง 

แม้วาทกรรมนี้จะปรากฏครั้งแรกเมื่อเกือบ 90 ปีที่แล้ว ในปี 2474 ใน 'มหากาพย์แห่งอเมริกา' (The Epic of America) หนังสือประวัติศาสตร์ที่เขียนโดย 'เจมส์ ทรัสโลว์ อดัมส์' แต่แนวคิดนี้ยังคงส่งต่อไปสู่รุ่นต่อรุ่นอย่างเข้มแข็งมาจนถึงศตวรรษที่ 21

ความพยายามในการได้มาซึ่งสัญชาติอเมริกันด้วยการไปคลอดบุตรในประเทศสหรัฐฯ อ้างอิงอยู่บน มาตรา 14 ข้อ 1 ในรัฐธรรมนูญแห่งสหรัฐอเมริกา บทแก้ไขเพิ่มเติ่มรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีใจความว่า

  • บุคคลทุกคนที่เกิดหรือแปลงสัญชาติในสหรัฐฯ และอยู่ในบังคับของกฎหมายสหรัฐฯ ย่อมเป็นพลเมืองของสหรัฐฯ และของมลรัฐที่มีภูมิลำเนาอยู่ มลรัฐใดจะออกกฎหมายหรือบังคับใช้กฎหมายที่เป็นการตัดทอนเอกสิทธิหรือความคุ้มกันที่พลเมืองของสหรัฐฯ จะพึงได้รับไม่ได้ หรือมลรัฐใดจะริดรอนสิทธิในชีวิต เสรีภาพ หรือทรัพย์สินของบุคคล โดยไม่ชอบด้วยการกระความแห่งกฎหมายหรือจะปฏิเสธไม่ให้บุคคลใดอยู่ในเขตอำนาจได้รับความคุ้มครองแห่งกฎหมายโดยเท่าเทียมกันไม่ได้

กล่าวโดยสรุปว่า เด็กทุกคนที่เกิดบนแผ่นดินสหรัฐฯ ย่อมได้สัญชาติอเมริกันทันทีตามรัฐธรรมนูญของสหรัฐฯ จึงเป็นที่มาแห่งความพยายามในการไปคลอดบุตรบนแผ่นดินที่ได้ชื่อว่ามีเสรีภาพทุกตารางนิ้ว หรือที่ถูกเรียกว่า 'การท่องเที่ยวคลอดบุตร' (Birth Tourism)

ศูนย์ศึกษาผู้อพยพประเมินตัวเลขผู้หญิงที่เข้ามาคลอดบุตรในสหรัฐฯ ไว้ประมาณ 36,000 คนต่อปี โดยรายงานแสดงให้เห็นว่าประชากรจีนมีความพยายามในการเข้ามาคลอดบุตรในสหรัฐฯ มากสุด ขณะที่เกาหลีใต้ ไนจีเรีย ตุรกี รัสเซีย และเม็กซิโก ติดอยู่ในรายชื่อเช่นกัน


กรีนการ์ด

เด็กเหล่านี้สามารถกลับเข้ามาในสหรัฐฯ เมื่อไหร่ก็ได้เพื่อกลับมาใช้สิทธิที่รัฐมอบให้ เช่น การศึกษาฟรีตั้งแต่วัยประถมศึกษาจนถึงมัธยมศึกษา ความช่วยเหลือจากรัฐบาลด้านทุนการศึกษา การเข้าถึงอาชีพบางประเภทซึ่งรวมไปถึงตำแหน่งต่างๆ ในรัฐบาล นอกจากนี้การถือหนังสือเดินทางของสหรัฐฯ ยังอนุญาตให้สามารถเดินทางโดยไม่ต้องใช้วีซ่าหรือไปขอวีซ่าที่สนามบินในกว่า 174 ประเทศทั่วโลก และที่สำคัญที่สุดคือเมื่อเด็กเหล่านี้อายุครบ 21 ปี พวกเขาสามารถขอกรีนการ์ดหรือวีซ่าถาวรให้กับบิดามารดาได้

การจับกุม 'ผู้มีความฝัน'

ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐฯ จับกุมผู้ร่วมขบวนการลักลอบเข้ามาคลอดบุตรในสหรัฐฯ จากจีนกว่า 20 คน ซึ่งดำเนินธุรกิจภายใต้ชื่อ "คุณชนะยูเอสเอ" (You Win USA) โดยมีเงินหมุนเวียนกว่า 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเกือบ 100 ล้านบาท ภายในระยะเวลาเพียง 2 ปี

'ดองหยวน ลี' หนึ่งในผู้ถูกจับกุม ให้บริการพาแม่ใกล้คลอดทำตามความฝันกว่า 500 ราย โดยแม่ผู้มีความฝันเหล่านี้ต้องจ่ายเงินประมาณ 40,000 - 80,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1.2 - 2.5 ล้านบาท เพื่อเดินทางมายังรัฐแคลิฟอร์เนีย

ทางการสหรัฐฯ ยืนยันว่า ผู้หญิงตั้งครรภ์สามารถเดินทางมายังสหรัฐฯได้โดยไม่ผิดกฎหมาย แต่ความพยายามในการใช้ช่องว่างทางกฎหมายเพื่อทำธุรกิจเป็นเรื่องผิดอย่างแน่นอน 'มาร์ค ซิโต้' ผู้ช่วยพิเศษจากตรวจคนเข้าเมืองและการบังคับใช้กฎหมายของสหรัฐ���เมริกาเสริมว่า ธุรกิจเหล่านี้จะบั่นทอนความมั่นคงของสหรัฐฯ โดยเฉพาะผู้ตั้งครรภ์ที่เป็นชาวจีนและทำงานให้รัฐบาลจีน

"พวกเขาบางคนเข้ามาสหรัฐฯ เพื่อความมั่นคงที่มากขึ้นใช่ไหม ใช่แน่นอน แต่รัฐบาลจะฉกฉวยโอกาสจากผลประโยชน์ตรงนี้ไหม ใช่ พวกเขาจะทำแน่นอน" มาร์ค กล่าว

'ทรัมป์' ไม่ปลื้มและพร้อมแก้กฏหมาย

แน่นอนว่า ความพยายามในการเข้ามาเป็นประชากรสหรัฐฯ ของชาวต่างชาติไม่ใช่สิ่งที่ 'โดนัลด์ ทรัมป์' ประธานาธิบดีคนปัจจุบันของสหรัฐฯที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงทัศนคติลบที่มีต่อผู้อพยพมาตลอดการดำรงตำแหน่ง ชื่นชอบมากนัก

ช่วงเดือนตุลาคม 2561 ทรัมป์ให้สัมภาษ์กับรายการ 'อักซิออส' (Axios) ของช่องเอชบีโอ (HBO) ว่า เขาต้องการแก้รัฐธรรมนูญที่มอบสัญชาติให้เด็กที่เกิดในสหรัฐฯ จากพ่อแม่ที่ไม่ได้เป็นชาวอเมริกันด้วยการลงนามในคำสั่งคณะบริหารเพื่อแก้รัฐธรรมนูญมาตรา 14 

นอกจากให้สัมภาษณ์แล้ว ทรัมป์ยังออกมาทวิตข้อความดับฝันโดยมีใจความว่า : 

  • สิทธิในการได้สัญชาติตั้งแต่เกิดที่เรารู้จัก ทำให้ประเทศเสียเงินกว่าพันล้านดอลลาร์สหรัฐฯและเป็นเรื่องไม่ยุติธรรมกับพลเมืองของเรา และมันจะต้องจบลงสักทางหนึ่ง มันไม่ได้ถูกรองรับในมาตราที่ 14 จากคำว่า "และอยู่ในบังคับของกฎหมายสหรัฐฯ" นักวิชาการหลายคนก็เห็นด้วย


ความพยายามในการทำให้ชีวิตดีขึ้นไม่อาจกล่าวว่าเป็นเรื่องไม่ดีหรือไม่ถูกต้อง แต่วิธีการในการได้มาซึ่งสิ่งนั้นอาจจะต้องถูกมองกันในหลายมิติ ทางออกที่ดีที่สุดคงไม่ใช่การกดดันให้แม่ที่อยากให้ลูกมีชีวิตที่ดีกว่าตนเองรู้สึกไม่มีทางเลือกจนต้องยอมแลกทุกอย่างเพื่อไปตายเอาดาบหน้า แต่เป็นการกลับมาทบทวนบทบาทตัวเองของรัฐบาลแต่ละประเทศถึงกระบวนการการดูแลประชาชนของตัวเอง เพราะถ้าธุรกิจร้อยล้านนี้จะสะท้อนปัญหาอะไรสักอย่างที่แท้จริง ก็คือความล้มเหลวของระบบสวัสดิการดูแลประชาชน


อ้างอิง; CNN, CBS, NBC, VOA, VOX, Cornell, Thailaws

ข่าวที่เกี่ยวข้อง :