ไม่พบผลการค้นหา
‘วิษณุ’ รองนายกฯ เผยแม้จะได้นายกฯ คนใหม่ แต่ต้องถวายสัตย์ฯ และแถลงนโยบายต่อสภาฯ ภายใน 15 วัน คาด ครม. ‘เศรษฐา’ ทำหน้าที่ได้อย่างเร็วที่สุดเดือนกันยายนนี้

วันที่ 23 ส.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงไทม์ไลน์การจัดตั้ง ครม. ชุดใหม่ว่า แม้จะมีนายกรัฐมนตรีที่เตรียมโปรดเกล้าฯ แล้ว แต่รัฐบาลชุดใหม่ก็ยังทำงานไม่ได้ เพราะยังไม่ได้มีการเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณ มีเพียงการคาดคะเนว่า การจัดตั้ง ครม.ชุดใหม่ น่าจะเสร็จสิ้นภายในหนึ่งสัปดาห์ และหลังจากนั้นจะส่งให้กับสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเพื่อตรวจสอบคุณสมบัติก่อนจะเข้าสู่ขั้นตอนของการทูลเกล้าฯ เพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณ โดยทั้งหมดจะใช้เวลาประมาณสามสัปดาห์ถ้านับอย่างเร็ว 

วิษณุ กล่าวว่า หากเป็นเช่นนี้ การประชุมครม. ชุดรักษาการจึงจำเป็นต้องมีอยู่ แต่คงเป็นการประชุมในวาระเล็กน้อย ทั้งนี้ แม้ ครม. ชุดใหม่ จะถวายสัตย์ปฏิญาณครบแล้ว ก็ยังทำงานไม่ได้ จนกว่าจะมีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาภายใน 15 วัน ดังนั้นบางเรื่องรอได้ก็รอ อย่างหลายกระทรวงก็เสนอมาในเรื่องการแต่งตั้งโยกย้ายซึ่งคงต้องรอในรัฐบาลหน้า 

แต่การแต่งตั้งในบางตำแหน่ง เช่น ตำรวจ หรือทหาร สามารถทำได้เลย โดยมี 3 เงื่อนไขคือ 1.ไม่ต้องเข้าที่ประชุม ครม. 2.ไม่มีข้อห้ามในรัฐธรรมนูญ และ 3.เป็นความจำเป็นเร่งด่วนที่แม้จะมีรัฐบาลใหม่เข้ามาก็ไม่สามารถทำได้ทัน ดังนั้น เรื่องพวกนี้จึงจำเป็นต้องดำเนินการไปพลางก่อน

วิษณุ กล่าวต่อว่า เมื่อถวายสัตย์ปฏิญาณตนแล้ว จะต้องแถลงนโยบายต่อรัฐสภาภายใน 15 วัน ถ้าแถลงนโยบายเร็วก็ทำงานได้เร็ว ถ้าแถลงนโยบายช้าก็ทำงานได้ช้า พร้อมย้ำว่า การแถลงนโยบายจะยืดยาวเกิน 15 วันไม่ได้ จากที่ติดตามข่าวคงมีการร่างนโยบายของรัฐบาลไว้พลางแล้ว และอาจมีการแถลงภายใน 3-7 วัน หลังการถวายสัตย์ปฏิญาณตน ทั้งนี้ คาดว่ากรอบเวลาที่ ครม.ชุดใหม่ จะสามารถทำหน้าที่ได้เร็วที่สุดคือช่วงเดือน ก.ย. ส่วนวาระของ ครม.ชุดเก่า จะหมดลงก่อนวันที่จะมีการถวายสัตย์ปฏิญาณตน 

เมื่อถามถึงกรณีที่ปลัดกระทรวงพลังงาน และกระทรวงการคลัง ที่กำลังจะเกษียณอายุราชการ จะมีการดำเนินการอย่างไร วิษณุ กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของรองปลัดที่จะต้องรักษาการโดยอัตโนมัติ ซึ่งไม่ต้องผ่านมติ ครม.