เว็บไซต์นี้ใช้คุกกี้ เพื่อสร้างประสบการณ์นำเสนอเนื้อหาที่ดีให้กับท่าน รวมถึงเพื่อใช้วิเคราะห์ข้อมูลทางการตลาด หากท่านใช้บริการเว็บไซต์นี้ต่อไป แสดงว่าท่านอนุญาตยินยอมที่จะรับคุกกี้บนเว็บไซต์และนโยบายสิทธิส่วนบุคคลของเรา
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เดินทางเข้าปฎิบัติหน้าที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 08.45 น. ซึ่งวันนี้ต้องจับตาดู ว่า นายกฯ จะเตรียมออกมาตรการต่างๆ ภายใต้ พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินพ.ศ. 2548 ที่จะประกาศมีผลบังคับใช้ในวันพรุ่งนี้ 26 มีนาคม 2563 ซึ่งเย็นวานนี้ (24 มี.ค.) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ได้เรียกประชุมฝ่ายความมั่นคง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อจัดทำโครงสร้างศูนย์อำนวยการสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือ ศอฉ.โควิด-19 ที่มีการแบ่งงาน 8 ด้าน โดยให้ปลัดกระทรวงเป็นหัวหน้าศูนย์แต่ละด้าน ดังนี้
1.ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีโรคติดเชื้อ โควิด-19 โดยกระทรวงสาธารณสุขดูแล
2.ศูนย์ปฏิบัติการมาตรการป้องกันและช่วยเหลือประชาชน โดยกระทรวงมหาดไทย พลเรือน ตำรวจ ทหาร ดูแล
3.ศูนย์ปฏิบัติการด้านสื่อสังคมออนไลน์ โดยมีกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมดูแล
4.ศูนย์ข้อมูลมาตรการแก้ไขปัญหาจากโรคติดเชื้อCoViD -19 มีสำนักนายกรัฐมนตรีดูแล
5.ศูนย์ปฏิบัติการมาตรการเดินทางเข้าออกประเทศ และการดูแลคนไทยในต่างประเทศ มีกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย และ สตม.ดูแล
6. ศูนย์กระจายหน้ากากและเวชภัณฑ์สำหรับประชาชน มีกระทรวงมหาดไทย กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงสาธารณสุขดูแล
7.ศูนย์ปฏิบัติการควบคุมสินค้า มีกระทรวงพาณิชย์ดูแล
8. ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนการปฏิบัติของทหาร-ตำรวจ มี ผบ. ทหารสูงสุด ในนาม กองบัญชาการกองทัพไทย ทบ.-ทร.-ทอ.และ ตำรวจ รับผิดชอบงาน
ขณะที่นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และนายประทีป กีรติเรขา รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ได้สำรวจบริเวณพื้นที่ห้องผู้สื่อข่าวภายในทำเนียบรัฐบาล เพื่อขยายพื้นที่รองรับผู้สื่อข่าวทั้งไทยและต่างประเทศที่จะเพิ่มขึ้น จากการต้องมาทำข่าว ศอฉ.โควิด-19 ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ 26 มีนาคม ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งวันนี้ จะมีการนำเต็นท์ติดแอร์มาติดตั้งยังบริเวณโรงรถ ติดกับตึกบัญชาการ 2 เพื่อเว้นระยะห่าง ตามมาตรการของกระทรวงสาธารสุข