นายอนุรักษ์ เจนตวนิชย์ หรือ “ฟอร์ด เส้นทางสีแดง” นักกิจกรรมทางการเมือง กล่าวถึง กรณีถูกจับกุมหลังจัดกิจกรรมครบรอบวันเสียชีวิตของ พล.ต.ขัตติยะ สวัสดิผล หรือ "เสธ.แดง" บริเวณสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีสีลม เมื่อวันที่ 13 พ.ค. ก่อนยื่นหลักทรัพย์เป็นเงินสด 30,000 บาท ประกันตัวออกมา โดยเห็นว่าเป็นการกลั่นแกล้ง เพราะได้แจ้งผู้เกี่ยวข้องแล้วและตลอดการไว้อาลัยไม่ได้มีการกระทำที่ผิดกฎหมาย เหมือนการยิงเลเซอร์ตามหาความจริงที่ไม่ได้ผิดกฎหมาย
กรณี "รำลึกเสธ.แดง" ตำรวจท้องที่เข้าจับกุมประมาณ 20.00 น. ระหว่างถ่ายรูปหมู่ไว้เป็นที่ระลึกหลังเสร็จกิจกรรมกับประชาชนราว 20 คน อ้างว่า ฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน เพราะมีการรวมกลุ่มมั่วสุมกัน ซึ่งยังดียื่นเรื่องประกันตัวได้ในคืนนั้นก่อนเวลาเคอร์ฟิว จึงไม่โดนคุมขังข้ามคืน ส่วนการที่พนักงานสอบสวนจะพยายามเอาผิดผู้ร่วมกิจกรรมคนอื่นๆ อีกนั้น ตนเห็นว่าไม่ยุติธรรม หากอยากเล่นงานตนก็แจ้งจับตนเพียงคนเดียวในฐานะผู้จัดกิจกรรม และพร้อมต่อสู้คดีให้ถึงที่สุด โดยพนักงานสอบสวนนัดส่งอัยการเพื่อพิจารณาฟ้องคดี ต้นเดือน มิ.ย.นี้
นายอนุรักษ์ ยืนยันว่า กลุ่มเส้นทางสีแดงจะยังมีการจัดรำลึกครบรอบ "10 ปี การสังหารหมู่ประชาชนเมื่อปี 53" โดยในช่วงเย็นวันที่ 19 พ.ค. จะจัดรำลึกบริเวณสี่แยกราชประสงค์ และคาดว่าอาจมีผู้รักความเป็นธรรม มายิงเลเซอร์ตามหาความจริงกันในหลายจุดก็อาจเป็นได้ โดยยืนยันที่จะเรียกเหตุการณ์นั้นว่า "การสังหารหมู่" ตามที่สื่อในต่างประเทศระบุ ไม่เรียก "สลายการชุมนุม" อย่างที่สื่อและคนในสังคมไทยชอบเรียกเหตุการณ์ "เมษา-พฤษภา 53"
ส่วนความยุติธรรม ต่อเหยื่อในเหตุการณ์เชื่อว่า มีช่องทางเดียวคือพึ่งศาลอาญาระหว่างประเทศ เพราะความยุติธรรมในประเทศไทยภายใต้การปกครองที่ไม่เป็นประชาธิปไตยไม่สามารถอำนวยให้ได้ ส่วนความจริงนั้นสำหรับตน ไม่ต้องถามหาอีกแล้ว เพราะความจริงก็คือทหารใช้อาวุธสงครามเข่นฆ่าประชาชน ซึ่งมีเพียงความจริงชุดเดียว ที่ทุกฝ่ายจะต้องยืนยัน
นายอนุรักษ์ ยังกล่าวถึงการประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ว่าไม่มีความจำเป็น โดยเฉพาะระยะหลังที่สามารถควบคุมการระบาดของโควิด -19 ได้แล้ว ดังนั้น หากรัฐบาลจะยื้อการใช้อำนาจตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ออกไป ไม่ควรให้เกินเดือนพ.ค.นี้ ส่วนเมื่อยกเลิก พ.ร.ก. ฉุกเฉินแล้ว อาจมีประชาชนที่ยากลำบากจากปัญหาเศรษฐกิจปากท้องออกมาชุมนุมขับไล่รัฐบาลก็เป็นเรื่องที่เข้าใจและเลี่ยงไม่ได้
อ่านเพิ่มเติม