โดยมีกระแสข่าวว่า “บิ๊กเฒ่า”พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย (ตท.20) ผบ.ทร. จะดึง “บิ๊กจอร์ช”พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ (ตท.22) รองเสนาธิการทหาร กลับมา ทร. ในตำแหน่ง ผู้ช่วย ผบ.ทร. แทน “บิ๊กปู”พล.ร.อ.สุทธินันท์ สมานรักษ์ (ตท.22) ที่จะโดนโยกออก ทร. ไป บก.กองทัพไทย รอเกษียณฯปี 2566 ซึ่ง พล.ร.อ.สุทธินันท์ เป็นน้องรักสายตรง พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ อดีต ผบ.ทร. ตั้งแต่สมัยอยู่ หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (สอ.รฝ.)

กระแสข่าวยิ่งถูกกระพือหนักในสัปดาห์นี้ เพราะ “บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม นัดถก “บอร์ด 7 เสือกลาโหม” หรือคณะกรรมการแต่งตั้งโยกย้ายชั้นนายพล วันที่ 4 มี.ค. ที่ ทำเนียบรัฐบาล 

ก่อนวันประชุม 7 เสือกลาโหม 1 วัน พล.ร.อ.สมประสงค์ เป็นประธานเปิดการฝึกกองทัพเรือ ปี2565 บน ร.ล.อ่างทอง ฐานทัพเรือสัตหีบ ตำแหน่ง “5 เสือ ทร.” มาครบทุกคน ทำให้มีการโฟกัสไปที่ท่าทีระหว่าง พล.ร.อ.สมประสงค์ กับ พล.ร.อ.สุทธินันท์ ทันที หากดูท่าที พล.ร.อ.สุทธินันท์ ก็ไม่สู้ดีนัก แต่ก็ยังหวังว่าให้เป็นเพียงกระแสข่าวเท่านั้น

(พล.ร.อ.สุทธินันท์ สมานรักษ์ (ตท.22) )

(พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย (ตท.20) ผบ.ทร.)

ภายใต้ “รอยยิ้ม” ของ พล.ร.อ.สมประสงค์ คนใน ทร. และนอก ทร. ที่รู้จัก พล.ร.อ.สมประสงค์ ต่างเชื่อกันว่างานนี้ “เอาจริง” และไม่มีเวลา “รำมวย” อีกต่อไป รวมทั้ง พล.ร.อ.สมประสงค์ กับ พล.ร.อ.สุทธินันท์ ก็ไม่มีสิ่งใดผูกพันต่อกันอยู่แล้ว และมีการมองว่าหากไปรอถึงโผโยกย้ายปลายปีช่วง ก.ย. 2565 อาจไม่ทันการณ์ ดังนั้นหาก พล.ร.อ.เชิงชาย ได้ขึ้นเป็น ผู้ช่วย ผบ.ทร. ก็จะเป็นแคนดิเดต ผบ.ทร. คนต่อไปทันที เพราะทั้ง พล.ร.อ.สมประสงค์ กับ พล.ร.อ.เชิงชาย ต่างสนิทสนมกันด้วย

ทั้งนี้มีการมองว่าเพื่อ “คืนความชอบธรรม” ให้กับ พล.ร.อ.เชิงชาย หลังโดนโยกไปอยู่ “ทัพเรือภาคที่ 3” สมัยยุค “บิ๊กลือ”พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ อดีต ผบ.ทร. ที่เปรียบเป็นการ “เตะออก” หรือไป “ดอง” เอาไว้ จากนั้นโดนโยกออก ทร. ไปอยู่ บก.กองทัพไทย เพื่อขึ้น “พลเรือเอก” ในตำแหน่ง รองเสธ.ทหาร ในยุค พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน อดีตผบ.ทร.

แต่บางกระแสก็มองว่า พล.ร.อ.สมประสงค์ อาจย้อน พล.ร.อ.เชิงชาย มานั่งตำแหน่งลอยใน ทร. ไว้ก่อน เช่นเก้าอี้ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ทร. ไว้ก่อนก็เป็นได้ แต่ก็เป็นเพียงในการมองในมุม “ประนีประนอม” เท่านั้น เพราะงานนี้เป็นที่พูดกันว่าหมดเวลา “รำมวย” และที่ผ่านมา พล.ร.อ.สมประสงค์ ก็มีความชัดเจนในการ “ล้างบางมรดก” ยุค พล.ร.อ.ลือชัย ทั้งหมด ในส่วน พล.ร.อ.สุทธินันท์ เปรียบเป็น “เครื่องสังเวย” ในครั้งนี้

(พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ (ตท.22))

ย้อนไป ต.ค. 2564 หลัง พล.ร.อ.สมประสงค์ ขึ้นเป็น ผบ.ทร. ได้สั่งปรับภูมิทัศน์ บก.ทร.วังเดิม-วังนันทอุทยาน ด้วยการถอนต้นไผ่หน้าอาคาร ที่ปลูกสมัย พล.ร.อ.ลือชัย ตามความเชื่อปรัชญาจีน และสั่งเปิด “ช่องตีนกา” ที่รั้วกำแพงวังเดิม ที่เคยถูกปิดตามความเชื่อด้วย

จากนั้นยังเปลี่ยนป้ายข้อความม็อตโต้ พล.ร.อ.ลือชัย หน้า บก.ทร.วังนันทอุทยาน เป็น “กยิรา เจ กยิราเถนํ จะทำสิ่งไร ควรทำจริง” ซึ่งเป็นคติสอนใจ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์

(พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ อดีต ผบ.ทร.)

สำหรับ พล.ร.อ.สมประสงค์ เคยถูกโยกออก ทร. เมื่อ 2 ปีก่อน ในยุค พล.ร.อ.ลือชัย ไปยังกระทรวงกลาโหม เป็น “รองปลัดกระทรวงกลาโหม” ทำให้หลุดไลน์ ผบ.ทร. ก่อนได้โยกกลับ ทร. อีกครั้ง ด้วยแรงสนับสนุนจาก “เพื่อน ตท.20” ขึ้นเป็น ผบ.ทร. ก่อนเกษียณฯ ก.ย. 2565

สะท้อนว่า พล.ร.อ.สมประสงค์ มีความต้องการเคลียร์ “มรดก” ยุค พล.ร.อ.ลือชัย ให้จบในยุคตัวเอง เพราะหากรอไปโผโยกย้ายปลายปี 2565 พล.ร.อ.สมประสงค์ อาจไม่มีอำนาจเต็ม และไม่ทันที่จะดัน พล.ร.อ.เชิงชาย ขึ้นเป็น ผบ.ทร. คนต่อไปด้วย

ศึกภายใน ทร. ยังไม่จบเท่านี้แน่นอน โดยเฉพาะเรื่อง “เรือดำน้ำจีน” ที่ถูกปลุกปั้นสมัย พล.ร.อ.ลือชัย โดยสิ่งที่น่าสนใจ คือ พล.ร.อ.สมประสงค์ ตัดสินใจไม่เสนอโครงการจัดหาเรือดำน้ำในปีงบประมาณ 2566 แม้ในขณะนั้นจะมีการมองว่าเป็นการ “ถอย” ด้วยเหตุโควิดระบาด แต่ด้วยสถานการณ์ภายใน ทร. ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ จึงตีความไปทางนี้แทน 

แถมโครงการเรือดำน้ำยังถูกฝ่ายค้าน “เปิดแผล” ต่อเนื่อง ล่าสุดคือการสร้างโรงจอดเรือ ที่กำลังตกเป็นเป้าในขณะนี้ ยังไม่นับรวมโครงการอื่นๆที่เริ่มมีการเขย่าออกมาบ้างแล้ว รวมทั้งคนที่เติบโตยุค พล.ร.อ.ลือชัย ก็ต่างพากันโลว์โปร์ไฟล์ไปตามๆกัน เพราะมีการ “เชือดไก่ให้ลิงดู” เกิดขึ้นบ้างแล้ว

งานนี้ ยุคใคร ยุคมัน !!