กุลยา ตันติเตมิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า โครงการยิ่งใช้ยิ่งได้ มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศผ่านผู้มีกำลังซื้อและสนับสนุนผู้ประกอบการที่อยู่ในระบบภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือ แวต (VAT) โดยกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ 4 ล้านคน ซึ่งหลักการ คือ รัฐบาลเป็นผู้สนับสนุน e-voucher สำหรับค่าสินค้า ค่าอาหาร ค่าเครื่องดื่ม และค่าบริการ (ไม่รวมลอตเตอรี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยาสูบ น้ำมันและก๊าซยานพาหนะ ค่าบริการนำเที่ยว ค่าที่พัก และค่าตั๋วเครื่องบิน) ในอัตรา 10-15% สูงสุดไม่เกิน 7,000 บาทต่อคน โดยยอดใช้จ่ายเพื่อคำนวน e-voucher ไม่เกิน 5,000 บาทต่อคนต่อวัน

คุณสมบัติผู้ได้รับสิทธิ

• สัญชาติไทย อายุ 18 ปีขึ้นไป มีบัตรประจำตัวประชาชน
• ไม่เป็นผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
• ไม่เป็นผู้ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ
• ไม่ใช้สิทธิโครงการคนละครึ่ง ระยะที่ 3

เงื่อนโครงการ

• ประชาชนและผู้ประกอบการลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ ‘ยิ่งใช้ยิ่งได้’
• ต้องซื้อสินค้า บริการในช่วงเดือน ก.ค.-ก.ย. 2564
• ได้รับ e-voucher ช่วงเดือน ส.ค.-ธ.ค. 2564
• ได้รับ e-voucher 10% เมื่อมียอดใช้จ่ายตั้งแต่ 1-40,000 บาท แต่ไม่เกิน 4,000 บาทต่อคน และได้รับ e-voucher 15% ของยอดใช้จ่ายตั้งแต่ 40,001-60,000 บาท แต่ไม่เกิน 3,000 บาทต่อคน
• ใช้จ่าย e-voucher ผ่านแอปพลิเคชัน ‘เป๋าตัง’ เวลา 06.00-23.00 น.