บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ เอไอเอส ผนึกกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และกสทช. เปิดตัวและสาธิตนวัตกรรมต้นแบบที่ช่วยสอดส่องดูแลความปลอดภัยจากเทคโนโลยี 5G บนสภาพแวดล้อมจริง เพื่อเป็นต้นแบบในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ และยกระดับการใช้ชีวิตของชุมชนและประชาชน
นอกจากนี้ยังมีการสาธิต บังคับรถไร้คนขับทางไกล ข้ามภูมิภาค ระหว่างกรุงเทพฯ และ สงขลา ด้วยระยะทางถึง 950 กิโลเมตร ผ่านระบบ 5G (1st 5G Remote Control Vehicle) อีกด้วย
นายปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าทั่วไป เอไอเอส กล่าวว่า เอไอเอสเป็นผู้ริเริ่มพัฒนานวัตกรรมและนำเทคโนโลยีมายกระดับโครงสร้างพื้นฐานของภูมิภาค และประเทศมาอย่างต่อเนื่อง ภายใต้วิสัยทัศน์ Digital Life Service Provider เทคโนโลยีสื่อสารไร้สายแห่งอนาคต ที่มองว่า 5G กำลังจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทย
พร้อมสำทับเพิ่มเติมว่าที่ผ่านมา เอไอเอส เป็นผู้นำรายแรกในการเปิดพื้นที่ให้นิสิต นักศึกษา นักวิจัย และประชาชนได้ร่วมศึกษา ทดลอง ทดสอบการใช้งาน 5G ในหลากหลายมิติมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างองค์ความรู้ และผลักดันให้ทุกภาคส่วนพร้อมรับมือกับเทคโนโลยีแห่งอนาต
อย่างไรก็ตามนายปรัธนา ย้ำว่า ในการเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน ต้องไม่ลืมที่จะให้ความสำคัญกับการสร้างภูมิคุ้มกันและปลูกจิตสำนึกให้คนไทยรู้จักใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างถูกวิธีผ่านโครงการ ‘อุ่นใจ Cyber’ ที่มุ่งสร้างทักษะและการตระหนักรู้เกี่ยวกับ Digital ควบคู่ไปกับการพัฒนาทักษะการใช้ดิจิทัลอย่างรู้เท่าทัน และป้องกันความเสี่ยงจากการใช้งานอินเทอร์เน็ต
ดินแดนด้ามขวานถือเป็นพื้นที่ที่มีความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจ มีความเจริญก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว เอไอเอส ได้ประสานความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ทดสอบศักยภาพของเทคโนโลยี 5G ในสภาพแวดล้อมจริง บนคลื่นความถี่ 28 GHz ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการทดสอบ 5G ในภาคใต้ ภายใต้แนวคิด Smart City, Smart Living ที่นำเอาบริบททางสังคมของภาคใต้เป็นตัวกำหนด
ด้าน ผศ.ดร.นิวัติ แก้วประดับ อธิการบดีมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ กล่าวว่า มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดยสถาบันวิจัยและนวัตกรรมดิจิทัล สำนักวิจัยและพัฒนา ดำเนินโครงการ การพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัล ในเรื่อง IoT, Big Data, และระบบปัญญาประดิษฐ์ ภายใต้ชื่อ Smart City Model in Campus ที่ได้รับการอนุมัติและสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาล เพื่อจัดทำระบบต้นแบบเมืองอัจฉริยะที่ใช้นวัตกรรมของมหาวิทยาลัย ณ วิทยาเขตหาดใหญ่
ซึ่งเป็นการพัฒนาและปรับตัวเองให้เข้ากับยุค Digital disruption อาทิ ใช้ระบบ Smart street light ในการใช้ระบบไฟส่องสว่างบนถนน, ติดตั้งระบบสื่อสารข้อมูลดิจิทัลผ่านเครือข่ายคลาวด์และป้ายสื่อสารแบบดิจิทัล, พัฒนารถ EV เป็นต้นแบบของยานยนต์ไร้คนขับและการควบคุมจากระยะไกล ผ่านรูปแบบของ V2X รวมถึงถ่ายทอดความรู้ทางด้านดิจิทัล และ Digital transformation ให้กับนักศึกษา ครู อาจารย์ ประชาชน และภาคอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง
โดยที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ โดยสถาบันวิจัยและนวัตกรรมดิจิทัล ร่วมมือกับเอไอเอส ในการทดสอบ 5G และมี Use Case ที่น่าสนใจดังนี้
1. 5G Remote Control Vehicle (การบังคับรถไร้คนขับข้ามภูมิภาค) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีการบังคับรถยนต์ไร้คนขับทางไกลข้ามภูมิภาคครั้งแรกของไทย ระหว่างกรุงเทพฯ – สงขลา ที่ได้แสดงถึงความเสถียร และความเร็วของ 5G
2. นวัตกรรม V2V (การสื่อสารระหว่างรถต่อรถ ผ่าน 5G) นวัตกรรมการสื่อสารระหว่างรถต่อรถซึ่งจะช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น รวมถึงเพิ่มประสิทธิภาพการจราจร
3. นวัตกรรม Mobile Surveillance / Object Detection (รถตรวจการณ์และรักษาความปลอดภัย) การนำข้อมูลวิดีโอจากกล้องวงจรปิดบนยานพาหนะ ส่งผ่านเครือข่าย 5G ไปยังห้องควบคุมกลางทำให้สามารถวิเคราะห์ภาพจำแนกวัตถุรอบคันรถ ที่ช่วยให้การเฝ้าระวังมีประสิทธิภาพ
นายปรัธนา กล่าวทิ้งท้ายว่า วันนี้ภาคใต้มีศักยภาพการเติบโตที่โดดเด่น และเป็นกำลังสำคัญที่จะผลักดันเศรษฐกิจของประเทศไทยให้เติบโต ยิ่ง การเป็นพื้นที่ทดลอง ทดสอบ เทคโนโลยีแห่งอนาคตอย่าง 5G ทั้งหมดนี้ จะทำให้จังหวัดสงขลาและภาคใต้ เติบโตได้อย่างก้าวกระโดดและแข็งแกร่งอย่างแน่นอน