ไม่พบผลการค้นหา
ฮุนเซน นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเดินทางเยือนกรุงวอชิงตันดีซีเป็นครั้งแรก ในฐานะผู้นำอาเซียนที่เข้าประชุมนัดพิเศษกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ อย่างไรก็ดี ขณะที่ฮุนเซนเดินทางมายังโรงแรมที่พัก นายกรัฐมนตรีกัมพูชาถูกต้อนรับโดยผู้ให้การสนับสนุน ก่อนที่จะมีรองเท้าปริศนาข้างหนึ่งลอยผ่านหัวฮุนเซนไป

อุคทัช อดีตทหารกัมพูชาเกษียณอายุ คือหนึ่งในผู้ที่เดินทางมาต้อนรับนายกรัฐมนตรีกัมพูชาอย่างฮุนเซนในวัย 69 ปี อย่างไรก็ดี รองเท้าข้างปริศนาที่ลอยผ่านหน้าฮุนเซนไปคือรองเท้าของอุคทัช เหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นบริเวณหน้าโรงแรมวิลลาร์ดอินเทอร์ตอนทิเนนทัล เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (11 พ.ค.) ถูกบันทึกได้โดยผู้ถ่ายวิดีโอเอาไว้ ทั้งนี้ ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

“ผมรู้สึกได้ปลดปล่อยและนอนหลับได้ หลับสบายขึ้นมากหลังจากได้ปารองเท้าของผมไปยังหัวของฮุนเซน ผมตั้งใจจะทำเรื่องนี้มานานแล้ว เพราะผมอยากจะทำให้เขาขายหน้า ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น” อุคทัชกล่าวกับสำนักข่าว Radio Free Asia Cambodia เมื่อวานนี้ (12 พ.ค.) อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำตัวฮุนเซนพยายามจะกระโดดเข้าไปหาอุคทัชเพื่อทำร้ายร่างกายเขา ก่อนที่เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของกัมพูชาจะถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของสหรัฐฯ เข้ามาห้าม และขอให้อุคทัชเดินออกไปจากที่เกิดเหตุ

“การกระทำของผมเป็นเพียงแค่การปารองเท้าใส่ฮุนเซน แต่ฮุนเซนปาระเบิดใส่ประชาชนชาวกัมพูชาที่เป็นผู้ประท้วงด้วยสันติวิธี ฮุนเซนคือเผด็จการ และเข้าฆ่าคนมามากมาย รวมถึงญาติๆ ของผมด้วย” อุคทัชในวัย 72 ปี อดีตทหารในกองทัพกัมพูชาที่ประจำการอยู่ในช่วงทศวรรษ 2510 กล่าว

อุคทัชอาศัยอยู่ในมลรัฐแคลิฟอร์เนียของสหรัฐฯ เขาระบุว่าการเข้ามาปาร้องเท้าในครั้งนี้ เกิดขึ้นเพื่อจะตอบโต้ฮุนเซน หลังจากเคยมีเหตุการณ์การใช้อาวุธโจมตีแนวร่วมของนายกรัฐมนตรีกัมพูชา ที่มาจากการเลือกตั้งในปี 2540 ซึ่งเป็นเหตุการณ์โจมตีหนึ่งในสองครั้งที่ช่วยให้ฮุนเซนยังคงรักษาเก้าอี้นายกรัฐมนตรีมาจนถึงปัจจุบันได้ หลังจากที่ฮุนเซนแพ้การเลือกตั้ง การสังหารในปี 2540 ส่งผลให้มีประชาชนเสียชีวิต 16 ราย และบาดเจ็บอีก 150 ราย อย่างไรก็ดี ผู้ลงมือไม่ถูกนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายแต่อย่างใด

หลังจากการปาร้องเท้าใส่ฮุนเซน ฮุนมาเนต ลูกชายของนายกรัฐมนตรีกัมพูชาที่ถูกจับตาว่าอาจขึ้นมาสืบทอดบัลลังก์อำนาจในกัมพูชาได้ออกมาโพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กว่า เหตุการณ์ปาร้องเท้าใส่พ่อของตนนั้นเป็น “เรื่องที่รับไม่ได้อย่างยิ่ง” ก่อนกล่าวเสริมว่า “พวกหัวรุนแรงเหล่านี้จะไม่เป็นที่ยอมรับ”

เมื่อเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา นักเคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลกัมพูชาอย่าง แซมโสกา เพิ่งถูกปล่อยตัวออกจากเรือนจำ หลังจากเธอถูกตัดสินจำคุก 4 ปี จากข้อหาการปาร้องเท้าใส่แผ่นภาพของฮุนเซน และนำภาพการปาร้องเท้าดังกล่าวมาแชร์ต่อลงบนโซเชียลมีเดีย แซมโสกาเป็นหนึ่งในผู้ประท้วงชาวกัมพูชาที่ถูกรัฐบาลปราบปรามอย่างหนักนับตั้งแต่ปี 2560

อุคทัชกล่าวว่า ขณะที่เขากำลังรอฮุนเซนเดินผ่าน ตนพยายามแทรกตัวไปตามกลุ่มคนที่มารอรับฮุนเซน โดยส่วนใหญ่ประกอบไปด้วยข้าราชการกัมพูชาและญาติ นักธุรกิจที่มีโครงการกับรัฐบาลกัมพูชา ตลอดจนผู้ที่ระบุกับ Radio Free Asia ว่า พวกเขาได้รับการจ่ายค่าตั๋วเครื่องบินเพื่อให้มาต้อนรับนายกรัฐมนตรีกัมพูชา แต่ไม่ได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่าแหล่งทุนดังกล่าวมีที่มาจากไหน

การเดินทางเยือนกรุงวอชิงตันดีซีในครั้งนี้ของฮุนเซน เป็นการเดินทางเยือนเมืองหลวงของสหรัฐฯ เป็นครั้งแรกของนายกรัฐมนตรีกัมพูชาในฐานะประธานอาเซียน พร้อมกันกับผู้นำอาเซียนอื่นๆ อีก 9 ชาติ เพื่อเข้าพบกับประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดยนับตั้งแต่ปี 2542 ฮุนเซนเดินทางเยือนสหรัฐฯ เพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น อย่างไรก็ดี ฮุนเซนในฐานะประธานิาเซียนถูกสหรัฐฯ ยังคงถูกจับตาต่อท่าทีของตนในวิกฤตเมียนมา รวมถึงดุลอำนาจของสหรัฐฯ ในภูมิภาคที่มีต่อจีน


ที่มา:

https://www.rfa.org/english/news/cambodia/hunsen-usa-05122022185655.html?fbclid=IwAR2Apj-uW4jsbs4VvBgINsniXcEfRmXEz67p2sahZKkme3P_nMYyQdlcUPk