จากร่างกฎหมายใหม่ของญี่ปุ่นนี้ พ่อแม่ของลูกเกิดใหม่จะมีสิทธิ์ได้รับเงินช่วยเหลือรายเดือนประมาณ 15,000 เยน (ประมาณ 3,735 บาท) สำหรับเด็กแต่ละคนตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 2 ขวบ จากนั้นรัฐบาลจะมีเงิน 10,000 เยน (ประมาณ 2,490 บาท) สำหรับพ่อแม่ที่มีเด็กอายุตั้งแต่ 3 ขวบขึ้นไป โดยครอบคลุมถึงเด็กมัธยมปลายด้วย
ตามร่างกฎหมายญี่ปุ่นนี้ รัฐจะไม่ใช้รายได้ครัวเรือนเป็นเกณฑ์ในการให้ค่าเลี้ยงดูเด็กของพ่อแม่อีกต่อไป ทั้งนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นยังวางแผนที่จะเปิดสถานรับเลี้ยงเด็ก หรือศูนย์รับเลี้ยงเด็กสำหรับเด็ก แม้ว่าพ่อแม่จะไม่มีงานทำก็ตาม
ร่างกฎหมายยังจะเพิ่มผลประโยชน์การลาเพื่อดูแลลูก โดยเริ่มในปีงบประมาณ 2568 ดังนั้นรายได้ที่ถูกหักของครอบครัวชาวญี่ปุ่น จะไม่เปลี่ยนแปลงเป็นเวลาถึง 4 สัปดาห์ แม้ว่าพ่อแม่ทั้งสองของเด็กจะลาหยุดจากการทำงานก็ตาม นอกจากนี้ มาตรการดังกล่าวยังรวมถึงการเพิ่มวันลาเพื่อเลี้ยงดูบุตรโดยได้รับค่าจ้าง และให้เงินอุดหนุนสำหรับการรักษาภาวะมีบุตรยาก
ตัวเลขแสดงให้เห็นว่าจำนวนคนเกิดต่อปีในญี่ปุ่นลดลงต่ำกว่า 800,000 คนเป็นครั้งแรก ทั้งนี้ ญี่ปุ่นมีประชากร 125 ล้านคน ซึ่งเกณฑ์มาตรฐานใหม่ในการวัดจำนวนประชากรชี้ว่า ญี่ปุ่นมีตัวเลขประชากรที่ลดลงเร็วกว่าที่คาดไว้ถึง 8 ปี
ฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มแผนดังกล่าวเมื่อเดือน มี.ค. กล่าวว่า เขากำลังเสนอ "นโยบายเพื่อจัดการกับอัตราการเกิดที่ลดลงในระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน" และหาทางเพิ่มรายได้ให้กับคนรุ่นลูก “เราจะเดินหน้ามาตรการเหล่านี้ เพื่อต่อสู้กับอัตราการเกิดที่ลดลง โดยไม่ขอให้ประชาชนต้องแบกรับภาระเพิ่มเติม” คิชิดะระบุกับคณะรัฐมนตรี ผู้เชี่ยวชาญ และผู้นำทางธุรกิจ
ญี่ปุ่นมีประชากรที่มีอายุมากเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากโมนาโก และกฎการตรวจคนเข้าเมืองที่ค่อนข้างเข้มงวด ส่งผลให้ญี่ปุ่นกำลังเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนแรงงาน ทั้งนี้ จากการสำรวจความคิดเห็นของสำนักข่าว Reuters แสดงให้เห็นว่า บริษัทญี่ปุ่นมากกว่า 9 ใน 10 แห่งรู้สึกถึงวิกฤตเกี่ยวกับอัตราการเกิดที่ลดลงอย่างรวดเร็ว
ในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการดูแลผู้สูงอายุพุ่งสูงขึ้น รัฐบาลของคิชิดะกำลังเผชิญกับการวิพากษ์วิจารณ์ เกี่ยวกับความล้มเหลวในการหาแหล่งเงินทุน ที่ไม่พึ่งพาการตัดค่าใช้จ่ายของรัฐ และหวังว่ารัฐบาลญี่ปุ่นจะมีการปรับปรุงมาตรการทางเศรษฐกิจ ที่กำลังตกต่ำอยู่ในประเทศ
ที่มา: