ไม่พบผลการค้นหา
‘สุรชาติ’ เดินสายชุมชนเลียบคลองลาดพร้าวจตุจักร ชูแนวคิด ‘รถไฟฟ้า 15-20 บาทตลอดสาย’ เชื่อทุกฝ่ายได้ประโยชน์ ยืนยัน ส.ส. ต้องเดินดิน เข้าหา-เข้าใจประชาชน

วันที่ 22 ม.ค. 2565 สุรชาติ เทียนทอง ผู้สมัครเบอร์ 3 พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยอดีต ส.ส. และคณะทำงาน ลงพื้นที่โกยคะแนนเสียงเลือกตั้งซ่อมช่วงสุดท้ายที่ชุมชนเลียบคลองลาดพร้าว แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร โดยมีกำหนดการเดินสายตลอดทั้ง 10 ชุมชน เริ่มตั้งแต่ชุมชนหลังตลาดสุภาพงษ์ ไปจนถึงชุมชนหลังตลาดบางบัว เพื่อเข้าพบและรับฟังปัญหาจากประชาชนในพื้นที่

สุรชาติ.jpg

โดย สุรชาติ ได้กล่าวถึงนโยบายรถไฟฟ้า 15-20 บาทตลอดสาย ซึ่งเคยเสนอมาตั้งแต่ยุคพรรคไทยรักไทยมาจนถึงเพื่อไทย แต่ไม่เคยดำเนินการจนสำเร็จเนื่องจากเหตุรัฐประหาร โดยแสดงแนวคิดว่า หลักการง่ายๆ ของรถไฟฟ้าคือสร้างมาให้ประชาชนใช้ แต่ทุกวันนี้สภาพความจริงสะท้อนให้เห็นแล้วว่า รถไฟฟ้าหลายสาย โดยเฉพาะสายชานเมือง สร้างมาแล้วแต่ไม่มีคนใช้ เนื่องจากค่าใช้จ่ายที่สูงเกินประชาชนจะใช้บริการได้ จึงเสียประโยชน์กันทุกฝ่าย ดังนั้นถ้าสามารถเจรจากับทางสัมปทานให้ลดราคารถไฟฟ้าลง ตนเชื่อว่าบริษัทที่ถือสัญญาสัมปทานก็พร้อมเจรจากับรัฐบาล 

สุรชาติ กล่าวต่อไปว่า หลายคนอาจกังวลว่าจะต้องเก็บภาษีคนทั้งประเทศเพื่อมาอุ้มค่าโดยสารรถไฟฟ้าให้คนกรุงเทพฯ หรือไม่ แต่ถ้ามองในมุมบริษัท ทุกวันนี้ต้นทุนค่าประกอบการของรถไฟฟ้าสวนทางกับจำนวนผู้โดยสารย่อมเข้าสู่ภาวะขาดทุน ดังนั้นตนเชื่อว่าการลดราคาในมุมผู้ประกอบการจะเป็นผลดีต่อทุกฝ่าย

รถไฟฟ้าบีทีเอส-สถานีห้าแยกลาดพร้าว

สำหรับนโยบายอื่นๆ ที่เตรียมจะนำเสนอต่อไป จะเกี่ยวกับเรื่องคุณภาพชีวิตเป็นหลัก ซึ่งจะต้องมาลงในรายละเอียด เช่นปัญหาเรื้อรังของประชาชนในชุมชนริมคลอง ที่ขัดแย้งกับทั้งภาครัฐ และประชาชนขัดแย้งกันเอง ซึ่งยืดเยื้อมาเป็น 10 ปี บ้านริมคลองทั้งหมดใน กทม. มีมากกว่า 2 หมื่นหลังคาเรือน ต้นทุนการสร้างบ้านมั่นคงหลังละ 5 แสนบาท ถ้ารัฐบาลลงทุน 1 หมื่นล้านบาท สร้างบ้านให้ประชาชนแนวริมคลองทั้งหมดใน กทม. พร้อมปรับปรุงคลองให้ใส สร้างเขื่อน ย่อมสามารถนำเอาฉายา ‘เวนิสตะวันออก’ กลับมาให้กรุงเทพฯ ได้

"ดังนั้นเงิน 1 หมื่นล้านไม่ใช่การลงทุนสำหรับคนเฉพาะกลุ่มเท่านั้น แต่จะฟื้นคุณภาพชีวิตไปพร้อมกับมูลค่าของการท่องเที่ยวทางน้ำได้อีกตลอดแนวคลองกรุงเทพฯ ได้อีกมหาศาล ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าและกระจายรายได้ไปสู่ชุมชนได้อย่างแท้จริง" สุรชาติกล่าว

ถ้าภาครัฐมาลงทุนในส่วนโครงการบ้านมั่นคงแล้ว ประชาชนจะไม่ต้องรับภาระค่าใช้จ่าย และจะสะสางความขัดแย้งระหว่างประชาชนในชุมชนที่เห็นต่างได้อีกด้วย สำหรับบทบาทของ ส.ส. เอง สุรชาติระบุว่านี่คือเหตุผลที่ ส.ส. ต้องเดินดิน เพราะต้องเข้าใจประชาชนทุกฝ่าย และมองหาหนทางสร้างข้อตกลงร่วมกันที่ดีที่สุด 

“รัฐไม่ควรเข้ามาใช้กฎหมายบังคับอย่างเดียว แต่ต้องเข้ามาด้วยความเข้าใจ สิ่งที่ผมเสนอไป ผมเชื่อว่าเราชนะทุกฝ่าย ประชาชนชนะ รัฐบาลชนะ เมืองชนะ และจะสร้างมูลค่าเพิ่มให้ภาพลักษณ์ของเมืองได้อย่างมหาศาล” สุรชาติ ทิ้งท้าย