เมื่อ มิ.ย. 2515 ปุกในวัย 9 ขวบ ถูกบันทึกภาพขณะที่เธอกำลังวิ่งหนีในสภาพเปลือยกาย และกำลังกรีดร้องด้วยควมทรมาน หลังจากสหรัฐฯ ถล่มระเบิดนาปาล์มใส่ทางตอนใต้ของเวียดนาม เมื่อครั้งที่สหรัฐฯ เข้ามารบในสงครามเวียดนามเพื่อต่อต้านระบอบคอมมิวนิสต์ ทั้งนี้ นิค อุต ผู้บันทึกภาพดังกล่าวได้นำตัวปุกส่งโรงพยาบาลในเวลาต่อมา
ปุกนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาลนานนับปี เพื่อรักษาร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บจากแผลไฟไหม้อย่างรุนแรง และใช้ชีวิตท่ามกลางความเจ็บปวด และข้อจำกัดในการเคลื่อนไหวของร่างกายมาตลอดระยะเวลา 50 ปีจนถึงปัจจุบัน
อย่างไรก็ดี NBC 6 South Florida รายงานว่าปุกเข้ารับการรักษาผิวหนังเป็นครั้งที่ 12 ในสัปดาห์นี้ที่สถาบันโรคผิวหนังและเลเซอร์ไมอามี โดยเธอได้พบกับอุต ผู้ที่เคยถ่ายรูปของเธอในวัยเด็กขณะกรีดร้องจากความเจ็บปวดโดยระเบิดนาปาล์ม
ปุกกล่าวถึงชีวิตจากความเจ็บปวดของเธอว่า เธอภาวนาขอให้ทุกคนสามารถ “ใช้ชีวิตด้วยความรัก ความหวัง และการให้อภัย และถ้าทุกคนเรียนรู้ที่จะใช้ชีวิตอย่างนั้นได้ เราก็ไม่จำเป็นจะต้องมีสงครามอีกต่อไป”
ปุกเคยเล่าถึงความรู้สึกของเธอที่มีต่อภาพดังกล่าวว่า เธอเคยเกลียดรูปภาพของความทรมานในตอนที่เธอมีอายุเพียงแค่ 9 ขวบ และรู้สึกว่าตัวเองน่าเกลียดและน่าอายจากการถูกถ่ายรูปขณะเปลือยกาย เสื้อของเธอถูกเปลวไฟเผาไหม้ออกจากตัว ในช่วงปีหลังการทิ้งระเบิดนาปาล์มของสหรัฐฯ ปุกเคยมีความคิดอยากฆ่าตัวตาย เธอดำรงชีวิตด้วยความทรมาณทางกายและจิตใจหลังจากนั้นอีกหลายปี
ทั้งนี้ ปุกย้ายถิ่นฐานของตนเองมายังแคนาดาเมื่อช่วงทศวรรษที่ 2530 ก่อนที่เธอจะก่อตั้งมูลนิธิคิมนานาชาติ เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านการแพทย์ รวมถึงการให้ความช่วยเหลือด้านสุขภาพจิตแก่เด็กที่ได้รับผลกระทบตจกสงคราม
จากการสัมภาษณ์ของ CBC เมื่อเดือนก่อน ปุกกล่าวว่า “ฉันไม่ใช่เหยื่อของสงครามอีกต่อไป ฉันคือผู้รอดชีวิต ฉันรู้สึกเหมือนกันกับว่า 50 ปีก่อนนั้น ฉันเป็นเหยื่อของสงคราม แต่ใน 50 ปีต่อมา ฉันคือเพื่อน ผู้ช่วยเหลือ แม่ ย่า และผู้รอดชีวิตที่เรียกร้องขอสันติภาพ”
ที่มา: