ไม่พบผลการค้นหา
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ นำ 55 อดีต ส.ส.อนาคตใหม่ แถลงเตรียมซบพรรคก้าวไกล เดินหน้าสานต่ออุดมการณ์อนาคตใหม่ เตรียมสมัครเป็นสมาชิกพรรคในสัปดาห์หน้า ปฎิเสธ 3 แกนนำอดีต กรรมการบริหารพรรคที่ถูกยุบไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง

นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ แถลงข่าวนำทีม 55 อดีต ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ที่ถูกยุบ เตรียมสมัครเป็นสมาชิกพรรคก้าวไกล ในสัปดาห์หน้า พร้อมประกาศสานต่ออุดมการณ์ของอนาตใหม่ เพราะร่วมกันกำหนดนโยบายมาตั้งแต่ต้น แม้จะย้ายเข้าไปสังกัดบ้านใหม่ก็ตาม โดยยืนหยัดเคียงข้างประชาชน ยึดมั่นประชาธิปไตยและยืนหยัดต่อต้านการสืบทอดอำนาจของ คสช. และในการประชุม ส.ส. มีมติให้นายพิธา เป็นประธาน ส.ส. พรรคชั่วคราว นายพิธา ระบุเหตุผลที่เลือกพรรคก้าวไกล เพราะคิดว่ามีอุดมการณ์ใกล้เคียงกัน น่าจะตกลงกันได้ อีกทั้งมติพรรคเห็นว่าชื่อพรรคนี้มีความเหมาะสม พร้อมแสดงความมั่นใจว่า ส.ส.ทั้ง 55 คน เป็นกำแพงที่ทำให้ตนเองมีความมั่นใจในการทำงาน มองไปในทิศทางเดียวกัน และจะทำงานอย่างเต็มที่ให้สมกับภาษีของประชาชนที่เลือกตนเข้ามาทำหน้าที่ ซึ่งการทำงานหลังจากนี้ยอมรับว่าพรรคเป็นพรรคที่เล็กลง แต่ก็จะปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานในเรื่องการบริหารจัดการ เฉพาะการสื่อสารภายในและภายนอก ให้มีความแข็งขันรวดเร็ว และปรับโครงสร้างพรรค และการทำงานในสภา รวมทั้งสัดส่วนกรรมาธิกา ซึ่งก็จะมีการหารือกันอีกครั้ง ขณะที่ทุนที่ใช้ในการดำเนินกิจกรรมทางการเมืองของพรรคนั้นก็จะมีการระดมทุนจากประชาชนโดยเริ่มจากบริษัท SMEs ขนาดเล็ก ที่ต้องการที่จะเห็นการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น และขายสินค้าที่ระลึกของพรรค.

ก้าวใกล01.jpg


นายพิธายังปฎิเสธว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ นายปิยะบุตร แสงกนกกุล และนางสาวพรรณิการ์ วาณิช ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดตั้งพรรคใหม่ เพราะการทำงาน ส.ส.ทุกคนต้องมีความเป็นตัวของตัวเอง ในการตัดสินใจ ส่วนการทำงานในสภาทั้ง 3 คน จะเกี่ยวข้องกับพรรคหรือไม่นั้น เห็นว่า คณะกรรมาธิการก็มีโควต้าสัดส่วนของคนนอกได้ สภาไม่ใช่ที่ทำงานแค่เฉพาะ ส.ส. แต่ยังเปิดให้ประชาชนทั่วไปมีส่วนร่วมได้ด้วย นอกจากนี้ อดีต ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ เตรียมจะยื่นเรื่องให้ประธานรัฐสภาให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญให้วินิจฉัยคุณสมบัติลักษณะต้องห้ามของร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยนำข้อมูลผลสืบเนี่องจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โดยเฉพาะ กรณีที่เคยถูกตัดสินจำคุก รวมถึงกรณีภรรยาที่เข้าเป็นคู่สัญญากับ หน่วยงานของรัฐ ซึ่งถือว่าเป็นลักษณะต้องห้ามตามรัฐธรรมนูญ รวมถึงเตรียมส่งให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (ป.ป.ช.) ตรวจสอบประเด็นความผิดจริยธรรมร้ายแรงด้วย