สมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรคเพื่อไทย และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม พร้อมด้วย กานต์กนิษฐ์ แห้วสันตติ ผู้สมัคร ส.ส. เขต 1 เบอร์ 8 พรรคเพื่อไทย ได้ลงพื้นที่ถนนเยาวราช กทม. เพื่อเดินพบปะกับผู้ประกอบการ และประชาชน ที่เดินทางมาจับจ่ายใช้สอย ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก มีประชาชนร่วมให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก
โดยเริ่มเดินถนนเยาวราช พบปะกับผู้ประกอบการ ซึ่งได้เดินเข้าไปนำเสนอนโยบายของพรรคเพื่อไทย และรับฟังปัญหา ตามร้านต่างๆ โดยผู้ประกอบการส่วนใหญ่ ได้สะท้อนปัญหาเรื่องเศรษฐกิจ ที่อยากให้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจให้ถนนเยาวราชคึกคักมากยิ่งขึ้น รวมถึงอยากให้ช่วยแก้ปัญหาเรื่องการจราจร เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว ซึ่งสมศักดิ์ ก็ได้นำเสนอนโยบายเติมเงินกระเป๋าดิจิทัล 1 หมื่นบาท ที่จะเข้ามาช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งประเทศ โดยจะทำให้การค้าขายกลับมาคึกคักอย่างแน่นอน
จากนั้นได้เข้าสักการะศาลเจ้ากวนอู ศาลเจ้าพ่อม้าก่อนจะนั่งกินก๋วยเตี๋ยวริมถนน และเดินตลาดเก่าเยาวราชต่อ ซึ่งได้เดินทั้งหมดเป็นระยะทางกว่า 2 กิโลเมตร โดยระหว่างการเดินหาเสียง ได้มีประชาชนจำนวนมาก เข้ามาขอถ่ายรูปและให้กำลังใจพรรคเพื่อไทยกันอย่างคึกคัก ซึ่งมีประชาชนบางรายถึงกับบอกว่า รอพรรคเพื่อไทยมานานแล้ว เพราะอยากให้กลับมาเป็นรัฐบาล เพื่อทำให้เศรษฐกิจดีขึ้นอีกครั้ง
สมศักดิ์ ได้กล่าวผ่านโทรโข่งกับพ่อค้าแม่ค้าว่า รู้สึกดีใจเป็นอย่างมากที่ได้มาเดินหาเสียงถนนเยาวราช เพราะเป็นครั้งแรกที่ได้มาเดินหาเสียง ซึ่งตนเป็นผู้แทน มา 10 สมัย ตั้งแต่ปี 2526 และเป็นรัฐมนตรี 14 ครั้ง ยังไม่เคยมาเดินหาเสียงเยาวราชเลย อาจเป็นเพราะตนเป็นคนสุโขทัย ก็จะเดินหาเสียงในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างเป็นหลัก แต่วันนี้เป็นโอกาสดี ที่ตนได้มาเดินหาเสียงถนนเยาวราชกับ กานต์กนิษฐ์ ทำให้ได้เห็นว่า ถนนเยาวราชมีศักยภาพมาก และจากปัญหาที่ผู้ประกอบการอยากให้ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจนั้น
ก็ตรงกับนโยบายของพรรคเพื่อไทย ที่เอาเรื่องเศรษฐกิจนำหน้า เพราะเข้าใจปัญหาปากท้อง จึงมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจ ด้วยกระเป๋าเงินดิจิทัล 1 หมื่นบาท รวมถึงพรรคเพื่อไทย ยังมีนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวด้วย จากที่มีรายได้ปีละประมาณ 7 แสนล้านบาท จะทำให้มีรายได้ถึง 3 ล้านล้านบาท แต่นโยบายทั้งหมดจะถูกขับเคลื่อนได้ พี่น้องประชาชน ก็ต้องช่วยกันเลือกทั้ง กานต์กนิษฐ์ เบอร์ 8 และพรรคเพื่อไทย เบอร์ 29 ให้แลนด์สไลด์
ขณะที่กานต์กนิษฐ์ กล่าวว่า ในฐานะที่ตนเป็นอดีต ส.ส. ก็มีความพร้อมที่จะเข้ามาสานงานต่อ เพื่อทำให้พี่น้องประชาชน มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยตนมีความเข้าใจความเดือดร้อนของพี่น้องชาวเยาวราชเป็นอย่างดี จึงมานำเสนอนโยบายของพรรคเพื่อไทย ที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้เกิดกำลังการซื้อขายให้มากยิ่งขึ้น
ด้วยนโยบายเติมเงินกระเป๋าดิจิทัล 1 หมื่นบาท สำหรับผู้ที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป โดยจะทำให้การค้าขายกลับมาคึกคักอย่างแน่นอน เพราะพรรคเพื่อไทย ได้ใช้ยาแรงในการกระตุ้นเศรษฐกิจ รวมถึงยังมีนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยว ที่จะทำให้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ เดินทางมาท่องเที่ยวมากขึ้น ซึ่งจะเห็นได้ว่า พรรคเพื่อไทย มีนโยบายที่จะช่วยแก้ปัญหาให้พี่น้องชาวเยาวราชได้ตรงจุด และทำได้สำเร็จอย่างแน่นอน
จากนั้นสมศักดิ์และกานต์กนิษฐ์ ได้พบปะกับอมร อภิธนาคุณ ประธานสมาพันธ์รวมใจชาวจีนทั่วโลกเป็นหนึ่งเดียว เพื่อรับฟังปัญหาการท่องเที่ยวในถนนเยาวราย ซึ่งอมรได้สะท้อนปัญหาเรื่องการจราจร ที่อาจเป็นอุปสรรคในการเดินทางมาท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติ จึงอยากให้ช่วยแก้ปัญหาเรื่องการจราจร
รวมถึงอยากให้สนับสนุนเยาวราช ให้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติ เดินทางมาให้มากขึ้น โดยสมศักดิ์ ก็ได้ย้ำว่าเรื่องนี้พรรคเพื่อไทยมีนโยบายที่จะกระตุ้นการท่องเที่ยวอยู่แล้ว ซึ่งหากพรรคเพื่อไทย ได้รับความไว้วางใจให้เป็นรัฐบาล ก็จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาให้ตามนโยบายของพรรคเพื่อไทย