เว็บไซต์ Coindesk รายงานว่า ราคาต่อหน่วยของ บิทคอยน์ สกุลเงินหลักของคริปโทเคอร์เรนซีโลก ปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง แตะที่ราคา 8,438 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 255,924 บาทต่อ 1 บิทคอยน์ ซึ่งทำสถิติสูงที่สุดในปีนี้การปรับตัวขึ้นครั้งนี้เป็นหนึ่งในผลกระทบที่เกิดขึ้นภายหลังจากกองทัพอิหร่านยิงจรวดมิสไซล์โจมตีฐานทัพของสหรัฐฯ ในอิรัก โดยระบุว่าเป็นการตอบโต้การกระทำของสหรัฐฯ ที่สังหารนายพลโซเลมานี ผู้บัญชาการกองกำลังกุดส์ กองกำลังสำคัญของกองทัพพิทักษ์ปฏิวัติอิหร่าน (IRGC) ด้วยการโจมตีทางอากาศจากโดรนที่กรุงแบกแดดของอิรักเมื่อวันที่ 3 ม.ค.ที่ผ่านมา
ขณะที่ราคาทองคำก็ปรับตัวพุ่งขึ้นกว่าร้อยละ 2 ทะลุกรอบ 1,600 ดอลลาร์สหรัฐฯ/ออนซ์ในวันนี้เช่นเดียวกัน สะท้อนความไม่มั่นใจของนักลงทุนทั่วโลก ที่เทหนีความเสี่ยงเข้าหาสินทรัพย์ปลอดภัย (safe heaven)อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นล่วงหน้าของสหรัฐฯ และตลาดหุ้นในฝั่งเอเชียกลับพาเหรดปรับตัวลดลงอย่างเห็นได้ชัดดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ณ เวลา 13.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ติดลบร้อยละ 0.42 ขณะที่ดัชนีตลาดหลักทรัพย์ไทยติดลบร้อยละ 1.46 ในเวลาเดียวกัน
สินทรัพย์ปลอดภัยอื่นๆ อาทิ พันธบัตรรัฐบาลทั่วโลกก็มีการเข้าซื้อเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลของไทยทั้ง 5 และ 10 ปี ต่ำที่สุดเป็นประวัติการรณ์ ที่ร้อยละ 1.25 และ 1.32 ตามลำดับ
ส่วนราคาน้ำมันดิบปรับตัวสูงต่อเนื่องจากความตึงเครียดระหว่างชาติมหาอำนาจทั้ง 2 ซึ่งยังไม่มีทีท่าจะยุติเร็วๆ นี้ โดยนักวิเคราะห์มองว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะกระทบการผลิตน้ำมันดิบของทั้งอิหร่านผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลกอย่างซาอุดิอาระเบีย โดยทั้งอิหร่านและซาอุดีอาระเบียปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันลงมาแล้วในเดือน ธ.ค. 2019 ที่ผ่านมา