เส้นทาง นศ.4083-บ้านสี่แยกวัดโหนด (สนามบิน –สี่แยกวัดโหนด) ต.โมคลาน อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ระยะทางยาวไม่กี่กิโลเมตร มีโรงเรียนและตลาดอยู่ในเส้นทางดังกล่าว ซึ่งปัจจุบันถนนได้รับการปรับปรุงให้กว้างขึ้น ประกอบกับไม่มีสัญญาณไฟแดงตลอดทั้งเส้น ทำให้หลายคนเลือกมาใช้เส้นทางนี้ แทนถนนสายหลัก ที่สำคัญช่วยย่นระยะเวลาไปสนามบินได้ ที่ผ่านมาพบว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นางจริยาภรณ์ ปานเนียม อายุ 40 ปี เจ้าร้านถ่ายรูปริมถนนสี่แยกวัดโหนด เล่าย้อนวันเกิดเหตุรถกระบะพุ่งชนเข้ามาภายในร้าน เสียหายต้องปิดซ่อมไปหลายวัน ว่า ในวันดังกล่าวเปิดร้านตามปกติ แต่โชคดีที่อยู่ด้านในของร้าน ทำให้ไม่โดนรถชน ซึ่งคนขับรถกระบะบอกว่า เพิ่งหัดขับรถ เมื่อเลี้ยวรถแล้วพวงมาลัยไม่กลับคืน จึงพุ่งเข้ามาในร้าน แม้จะไม่เกี่ยวกับเรื่องความเร็ว แต่ถนนมีความแคบ ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย ซึ่งปัจจุบันมีเจ้าหน้าที่มารางวัดเพื่อขยายถนนเพิ่ม แต่ส่วนตัวคิดว่ายิ่งทำให้ระยะปลอดภัยระหว่างถนนกับหน้าร้านน้อยลงไปอีก จึงมีความกังวลเรื่องอุบัติเหตุ แต่จะย้ายหนี้ก็ไม่ได้ เพราะว่าเป็นบ้านที่อยู่มานานแล้ว ต้องทำมาหากิน ซึ่งสมัยก่อนการจราจรไม่ได้คับคั่งมากขนาดนี้
จริยาภรณ์ ปานเนียม เจ้าร้านถ่ายรูปริมถนนสี่แยกวัดโหนด
ด้าน น.ส.มูซันนา อะหลี อายุ 27 ปี แม่ค้าขนมครก เล่าว่า บริเวณสี่แยกนี้ เป็นสถานที่พ่อค้าแม่ค้าขายของมาเป็นเวลานานแล้ว ชาวบ้านมักจะจอดรถตรงร้านที่ซื้อ จึงทำให้ถนนยิ่งแคบลงไปอีก ไม่มีไหล่ทาง ส่วนตัวยอมรับว่ากลัวรถจะพุ่งมาชนเหมือนกัน เพราะขายมานานแล้วจึงไม่อยากย้ายไปไหน ลูกค้าประจำมีจำนวนมาก จึงอยากเสนอให้มีสัญญาณไฟจราจร เพื่อให้รถที่ขับมาด้วยความเร็วชะลอตัวลง เชื่อว่าช่วยลดอุบัติเหตุได้
มูซันนา อะหลี แม่ค้าขนมครก
ขณะที่นายถาวร ยอดเจริญ อาจารย์โรงเรียนโมคลานประชาสรรค์ หนึ่งในสองโรงเรียนที่ตั้งอยู่ในถนนดังกล่าว เล่าว่า ในอดีตถนนยังไม่กว้างมาก ไม่ค่อยมีรถยนต์ขับผ่านอุบัติเหตุจึงมีไม่มากนัก แต่เมื่อเศรษฐกิจเติบโตขึ้น ชาวบ้านมีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น จำนวนรถยนต์เพิ่มขึ้นตาม ทั้งรถยนต์และรถจักรยานยนต์ ถนนจึงขยายตามมา ประกอบกับปัจจุบันเทคโนโลยีโทรศัพท์สามารถบอกเส้นทางได้ และได้บอกว่าเส้นทางนี้สามารถประหยัดเวลาการเดินทางไปสนามบินนครศรีธรรมราชได้เร็วกว่าถนนเส้นหลักประมาณ 2 กิโลเมตร และไม่มีไฟแดง ทำให้มีผู้ขับรถยนต์มาใช้เส้นทางนี้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะรถบรรทุกที่จะขับมาโดยใช้ความเร็วสูง
นายถาวร กล่าวว่า ด้านหน้าโรงเรียน ถือเป็นจุดเสี่ยงมาก เพราะส่วนใหญ่ชาวบ้านจะไม่สวมหมวกกันน็อก และชอบขี่รถจักรยานยนต์สวนเลน เพื่อมาส่งลูกหลานที่โรงเรียน โดยทางโรงเรียนได้ชี้แจงทั้งกับผู้ปกครองและนักเรียน รวมถึงมีมาตรการให้สวมหมวกกันน็อก ในพื้นที่โรงเรียนแล้ว แต่ยังไม่เห็นผลเท่าที่ควร นอกจากนี้ด้านหน้าโรงเรียนได้ประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขอทางม้าลาย เพิ่มสัญลักษณ์และเส้นชะลอความเร็วเพิ่มเติมแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการพิจารณาดำเนินการ
“เมื่อไม่นานมานี้ได้จัดอาสาสมัครดูแลความปลอดภัยทางถนน เพื่อช่วยดูเรื่องการจราจรด้านหน้าโรงเรียน แต่ปรากฏว่ารถยนต์ขับมาด้วยความเร็วมากและแซงกันในบางช่วงที่เป็นไหล่ทาง ดูแล้วอันตราย จึงห่วงเรื่องความปลอดภัยได้ยกเลิกโครงการดังกล่าวไป เพราะกลัวรถจะพุ่งมาชนอาสาสมัคร” นายถาวร กล่าว
ถาวร ยอดเจริญ อ.รร.โมคลานประชาสรรค์
นายจิรทีปต์ ณ วัดใหม่ นักเรียนชั้น ม.6 โรงเรียนโมคลานประชาสรรค์ เล่าว่า เคยเกิดอุบัติเหตุบริเวณด้านหน้าโรงเรียน เนื่องจากรถยนต์ที่ขับสวนมาด้วยความเร็วจึงเบรกไม่ทัน ต้องหยุดเรียนไปนานหลายสัปดาห์ จากเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยเวลาขี่รถยนต์มาโรงเรียน จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยแก้ไขเส้นทางบนถนนให้มีป้ายสัญลักษณ์ต่างๆ แจ้งเตือนว่าเป็นเขตโรงเรียน เพื่อให้มีความปลอดภัยมากขึ้น
จิรทีปต์ ณ วัดใหม่ นักเรียนชั้น ม.6 รร.โมคลานประชาสรรค์