วันที่ 31 ม.ค. ปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้ากรณีที่รัฐบาลรัสเซีย ร้องขอให้รัฐบาลไทยส่งตัวสมาชิกวงร็อก Bi-2 กลับประเทศ หลังถูกจับในข้อหาไม่มีใบอนุญาตแสดงดนตรี รวมถึงถูกยึดหนังสือเดินทางในข้อหาผิดกฎหมายตรวจคนเข้าเมืองระหว่างอยู่ที่จังหวัดภูเก็ต ว่า ขณะนี้ทางสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กำลังตรวจสอบข้อเท็จจริงอยู่ว่าเป็นมาอย่างไร หากทราบว่าเป็นใครและสัญชาติใดก็จะมีการพิจารณาส่งกลับประเทศนั้นต่อไป จึงต้องรอทาง สมช.ตรวจสอบก่อน หากพิจารณาได้เร็วก็คงจะดำเนินการได้ทันที
ส่วนกรณีที่ตัวของนักร้องวงร็อก Bi-2 ไม่ประสงค์ที่จะเดินทางกลับรัสเซีย เนื่องจากกังวลเรื่องความปลอดภัยนั้น ปานปรีย์ กล่าวว่า หากตรวจสอบแล้วไม่พบว่าเป็นบุคคลที่กระทำความผิด ก็คงไม่สามารถดำเนินการส่งกลับได้ ซึ่งเรื่องนี้มีกฎหมายระหว่างประเทศอยู่แล้ว แต่หากพบว่ากระทำผิดกฎหมายจริงก็ต้องดำเนินการตามขั้นตอน
ปานปรีย์ กล่าวถึงกรณีที่ พรรคก้าวไกล ออกมาตั้งข้อสังเกตว่านายกรัฐมนตรี ระบุว่าการเดินทางเข้ายุโรปโดยไม่ต้องทำวีซ่าเชงเก้น เป็นการให้ความหวังคนไทย จากเลขาธิการฝ่ายกิจการเข้าเมืองและกิจการภายในของ EU แจ้งว่าไม่มีนโยบายมอบให้นั้น ว่า พรรคก้าวไกล อ้างเป็นอย่างไรตนก็ไม่ทราบข้อเท็จจริงที่พรรคก้าวไกลอ้างว่าเป็นอย่างไร แต่เรื่องการทำวีซ่าประเทศไทย ก็ดูในหลายๆประเทศ ตรงไหนที่สามารถเปิดฟรีวีซ่าได้ เราก็จะเร่งดำเนินการ
ส่วนกระทรวงการต่างประเทศก็ได้ดำเนินการเรื่องการทำฟรีวีซ่าอยู่หลายประเทศ วีซ่าระหว่างกันและการทำความร่วมมือวีซ่าระหว่างกัน ในหลายภูมิภาค ส่วนวีซ่าเชงเก้น ก็เป็นส่วนหนึ่ง อยู่ในเป้าหมายที่เราจะไปเจรจา ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศก็กำลังทำอยู่ซึ่งไม่อยากทำเป็นชิ้นๆไป
ทั้งนี้ในช่วงเช้าที่ผ่านมาที่กระทรวงต่างประเทศ ก็ได้มีการประชุมในเรื่องดังกล่าวแล้วและคาดว่าอีกไม่เกิน 2 สัปดาห์ ก็จะสามารถนำเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้ ว่าประเทศใดที่มีความพร้อม ที่จะสามารถทำวีซ่าฟรี และให้ประเทศอื่นๆ สามารถเข้าประเทศไทยได้โดยไม่ต้องทำวีซ่า
เมื่อถามว่า ในส่วนของฟรีวีซ่าเชงเก้น จะสามารถดำเนินการได้ภายในปีนี้หรือไม่ หรือต้องรอให้จนถึงกลางปี 68 ตามที่พรรคก้าวไกลได้ระบุไว้ เนื่องจาก EU จะทบทวน การยกเว้นวีซ่าเชงเก้นในช่วงเวลานั้น ปานปรีย์ กล่าวว่า ก็อยู่ในเป้าหมายที่จะต้องไปพูดคุยกับเขา ระยะเวลาเราไม่สามารถกำหนดได้ แล้วอย่าลืมว่า EU ไม่ได้มีเพียงประเทศเดียว และในกลุ่ม EU ก็จะต้องให้ความเห็นชอบทุกประเทศ ดังนั้นจะมีเพียงประเทศใดประเทศเดียวที่จะให้ความเห็นชอบในเรื่องนี้ไม่ได้ และที่ผ่านมาในหลายประเทศใน EU ก็มีแนวโน้มที่จะสนับสนุนในแนวทางของเราอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า พรรคก้าวไกลระบุว่าหาก EU จะพิจารณาให้ฟรีวีซ่าเชงเก้น จะให้เป็นกลุ่มประเทศ ไม่ให้ประเทศใดประเทศหนึ่ง จริงหรือไม่ ปานปรีย์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ เพราะ EU เขาก็ให้มาหลายประเทศแล้ว จะเลือกประเทศใดก็เป็นสิทธิ์ที่เขาจะเลือกให้ ว่าจะให้เป็นรายกลุ่มหรือให้เป็นรายประเทศซึ่งประเทศไทยที่ก็สามารถจะพิจารณาได้ว่าจะให้เป็นรายกลุ่มหรือรายประเทศได้ อยู่กับความเหมาะสมและความพร้อม
เมื่อถามว่า คนไทยจะได้ฟรีวีซ่าเชงเก้นเพื่อเข้ายุโรปภายในปีนี้หรือไม่ ปานปรีย์ กล่าวว่า ก็ต้องเจรจาก่อน
ปานปรีย์ กล่าวถึงความคืบหน้าการขึ้นเงินเดือนข้าราชการ ว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบไปแล้ว โดยปีนี้จะมีการขึ้นระดับหนึ่ง และปีหน้าก็จะขึ้นไปอีก ส่วนจะขึ้นแบบเต็มที่หรือไม่นั้นก็ต้องดูเศรษฐกิจของประเทศและดูรายได้ของประเทศ แต่ก็เชื่อว่าจะสามารถทำตามนโยบายที่ได้ประกาศไว้เมื่อครบ 4 ปี