วันที่ 25 ก.พ. 2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง (รมว.) กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่รัฐมนตรีต่างประเทศเมียนมาเข้าพบเมื่อวันที่ 24 ก.พ. นี้ ว่าความจริงแล้วเป็นเรื่องที่ขอเยี่ยมคารวะ ในความสัมพันธ์ทางการต่างประเทศ ซึ่งเขาขอก็ต้องพบเขา ไม่ได้หมายความว่าตนจะไปรับรองอะไรทั้งสิ้น จึงอยากให้เข้าใจ ซึ่งวานนี้มีการพบปะกัน 2 ประเทศ เริ่มจากอินโดนีเชียและต่อด้วยเมียนมา
นายกรัฐมนตรี ยังเผยด้วยว่า มีการพูดคุยเรื่องพัฒนาการทางการเมืองในประเทศและสถานการณ์ในประเทศของเมียนมา และยังได้แสดงความห่วงใยในนามของประเทศไทย ในฐานะประเทศที่มีชายแดนติดกัน และมีประชาชนไปมาหาสู่ จึงมีปัญหาการลับลอบเข้าเมืองผิดกฏหมายตามแนวชายแดน แรงงานต่างด้าว รวมถึงปัญหาโควิดด้วย
พล.อ.ประยุทธ์ ยืนยัน การเมืองภายในประเทศเมียนมา ก็เป็นเรื่องของเขา ผมก็เป็นกำลังใจให้เมียนมา พร้อมถามว่าจะเดินหน้าประเทศให้เป็นประชาธิปไตยให้ได้โดยเร็วที่สุด ซึ่งปัญหาของแต่ละประเทศก็มีความแตกต่างกัน แต่ไม่ได้หมายความว่าไทยจะต้องไปตอบรับหรือไม่ตอบรับ ซึ่งทางรัฐมนตรีต่างประเทศเมียนมาก็เล่าให้ฟัง ซึ่งตนก็รับฟังในนามประเทศไทยและในนามอาเซียนด้วยที่มีอยู่หลายประเทศด้วยกัน ซึ่งมติอาเซียนก็ออกมาแล้วต่อเรื่องนี้ โดยประเทศบรูไน แต่วันนี้จะทำอย่างไรให้เกิดความสำเร็จแบบ วินๆ ไปด้วยกันทั้งหมด ซึ่งหมายถึงประชาชนและประเทศชาติ
เมื่อถามถึงกรณีที่สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ไทยและอินโดนีเชียจะเป็นตัวกลางในการพูดคุยปัญหาในเมียนมา เรื่องนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ท่าทีของประเทศไทย คือ ต่างคนต่างแก้ปัญหาไป ซึ่งมีอาเซียนเป็นตัวกลางอยู่แล้ว แค่รับฟังเขา เราเป็นตัวแทนใครไม่ได้ แต่ในฐานะที่อยู่ใกล้ชิดกับเขา จะทำอย่างไรให้งานของเรากับเขา สองประเทศวินๆ ทั้งเศรษฐกิจ ประชาชน ส่วนเรื่องการเมืองของเมียนมาก็เป็นเรื่องของเขา อย่าเอามาพันกัน ส่วนที่สื่อต่างประเทศเขียนในลักษณะนี้ก็ขอให้สื่อไทยช่วยอธิบายด้วย
สัปดาห์หน้าเคาะรักษาการ รมต.แทนตำแหน่งว่าง รอให้พรรคร่วมหารือก่อนปรับครม.
พล.อ.ประยุทธ์ ระบุถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) หลังมีรัฐมนตรีถูกคำพิพากษาให้จำคุกในคดีเป็นแกนนำ กปปส.ร่วมชุมนุมเมื่อปี 2556-2557 ว่า สำหรับพรรคพลังประชารัฐต้องเสนอชื่อขึ้นมา เบื้องต้นต้องปรับ ครม. 3 ตำแหน่ง แต่ขณะนี้การประชุม ครม.สัปดาห์หน้าต้องแต่งตั้ง รัฐมนตรีที่จะมารักษาการ จากนั้นพรรคร่วมรัฐบาลก็ต้องหารือกัน มีข้อตกลงร่วมกันว่าจะทำอย่างไรกับตำแหน่งที่ว่าง แล้วเสนอมายังตนเองพิจารณาอีกครั้ง ว่าจะใครดำรงตำแหน่งไหน ซึ่งทุกอย่างมีขั้นตอน ไม่ใช่จะรวดเร็วภายในวันนี้พรุ่งนี้ได้ แต่ก็ต้องเร็วสุด เพราะการบริหารงานจะต้องมีผู้รับผิดชอบโดยตรง ยืนยันจะทำให้ดีที่สุด
ซึ่งการปรับ ครม.ครั้งนี้กำลังพิจารณาว่าจะปรับเฉพาะตำแหน่งที่ว่างหรือปรับใหญ่ ซึ่งกรอบเวลานั้นตนเองได้แจ้งไปยังพรรคพลังประชารัฐ ในฐานะที่เป็นแกนนำรัฐบาลหารือกับพรรคร่วมรัฐบาล คัดเลือกบุคคลที่เหมาะสม ตามสัดส่วนที่มีอยู่
ส่วนจะมีการปรับเพิ่มหรือสลับตำแหน่ง ก็ต้องดูอีกที เพราะบางตำแหน่งยังทำงานไม่ถึงปี ทั้งนี้ไม่มีแรงกดดันใดๆ อยู่ที่ตนเองตัดสินใจ ส่วนปัญหาพรรคร่วมรัฐบาล ก็อย่ามองว่าเป็นปัญหาเป็นเรื่องธรรมดาของการเมือง ทุกรัฐบาลที่ผ่านมาก็มีลักษณะเช่นนี้ ซึ่งก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่สุดท้ายปัญหาการเมืองก็ต้องพูดคุยให้รู้เรื่อง อย่างไรก็ตามตนเองได้มีการประเมินผลงานของรัฐมนตรีอยู่แล้ว ซึ่งก็มีผลงานดีกันทุกคน เมื่อมีข้อแบกพร่องก็ต้องแก้ไข
ส่วนมีการประเมินรัฐมนตรีสอบตกหรือไม่ นายกฯ กล่าวย้อนกลับผู้สื่อข่าวว่า คนถามสอบตก
'ประยุทธ์' ย้ำพร้อมฉีดวัคซีนโควิด-19
พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงการเตรียมความพร้อมฉีดวัคซีนโควิด-19 โดยระบุ หากสถาบันวัคซีน และกรมควบคุมโรคมีความพร้อมในการจัดสรรวัคซีนให้เหมาะสม และหาก ตนเองพร้อมฉีดได้ตลอด แต่ไม่อยากให้ไปกำหนดวันเพราะถือว่าเป็นเรื่องจิ๊บจ๊อย ซึ่งตนเองย้ำมาตลอดว่ามีความสมัครใจพร้อมฉีดวัคซีนเสมอ แต่ที่เป็นห่วงในวันนี้ คือการจัดสรรวัคซีนไปในแต่ละพื้นที่ ซึ่งเป็นเรื่องที่หน่วยงานต่างๆต้องเตรียมความพร้อม เพราะหากคลาดเคลื่อนก็จะมีปัญหา โดยเฉพาะในเชิงปฏิบัติ ซึ่งยอมรับว่าที่อาจจะเกิดปัญหาขึ้นได้ ซึ่งอาจจะมีความล่าช้าเพราะต้องนำไปใช้กับคนจำนวนมาก ดังนั้นต้องจัดสรรให้ดี แม้จะมีการวางแผนไว้แล้วก็ตามแต่หากสถานการณ์เปลี่ยน แผนก็ต้องเปลี่ยนแต่อย่างไรก็ตามยืนยันว่าแผน การแจกจ่ายวัคซีนทุกอย่างยังเป็นไปตามที่ ศบค.กำหนดไว้ และแม้ว่าจะมีวัคซีนแล้วแต่ก็ขอให้ประชาชนใช้ชีวิตด้วยความระมัดระวัง เพราะวัคซีนเป็นเพียงการสร้างภูมิ ต้านทานในแต่ละคน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง