ไม่พบผลการค้นหา
แรงงานกัมพูชาทะลักกลับไทย หลังโดนหลอกให้กลับบ้าน แต่สุดท้ายกลับไปไม่มีงาน..ไม่มีจะกิน ขณะที่รัฐบาลไทยมีมนุษยธรรม 'ก.มหาดไทย - ก.แรงงาน' ผ่อนผันให้แรงงานกัมพูชาอยู่ไทยได้อีก 6 เดือน ไม่ต้องข้ามแดนไปต่ออายุ

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยได้รับรายงานจากฝ่ายความมั่นคง เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2568 พบว่าในช่วงนี้มีแรงงานชาวกัมพูชาลักลอบใช้ช่องทางธรรมชาติ หลบหนีกลับเข้ามาในประเทศไทยเป็นจำนวนมากในหลายพื้นที่ โดยล่าสุดกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (กปช.จต.) รายงานว่า ได้ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ตรวจพบแรงงานต่างด้าวชาวกัมพูชาจำนวนมากหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่อง ซึ่งก่อนหน้านี้ ผู้นำรัฐบาลกัมพูชาได้เรียกร้องให้ชาวกัมพูชาที่ทำงานอยู่ในไทยเดินทางกลับประเทศ

โดยบอกว่าหากกลับบ้านจะมีงานให้ทำ มีเงินใช้ ทำให้มีแรงงานเดินทางกลับประเทศจำนวนมาก แต่ปรากฏว่าเมื่อเดินทางกลับ กลับไม่เป็นอย่างที่แจ้งไว้ จึงจำเป็นต้องลักลอบเดินทางกลับเข้าประเทศไทยผ่านช่องทางธรรมชาติต่างๆ เพื่อกลับเข้ามาทำงานในประเทศไทย ซึ่งหน่วยงานด้านความมั่นคงได้เพิ่มมาตรการในการตรวจตราอย่างเข้มงวด

ทั้งนี้ ราชกิจจานุเบกษา ได้เผยแพร่ประกาศ 2 ฉบับของกระทรวงมหาดไทย (มท.) และกระทรวงแรงงาน (รง.) ที่อนุญาตคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา ที่ครบวาระการจ้างงานหรือการอนุญาตให้พำนักในเขตพื้นที่ชายแดนที่ได้รับอนุญาตสิ้นสุดลง แต่ไม่สามารถเดินทางกลับประเทศต้นทางได้ นั้น ได้อนุญาติให้สามารถทำงานในประเทศไทยต่ออีก 6 เดือน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2568 เป็นต้นไป ด้วยเหตุผลทางมนุษยธรรม ทำให้คนต่างด้าวดังกล่าวที่ประสงค์จะทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย สามารถทำงานในประเทศไทยได้เป็นกรณีพิเศษ ตามที่ประกาศไว้

“แม้จะมีการผ่อนผันแรงงานต่างด้าวอย่างถูกกฎหมายด้วยเหตุผลด้านมนุษยธรรม แต่ไทยยังคงให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการคุ้มครองความมั่นคงของประเทศและการบังคับใช้กฎหมาย รัฐบาลขอยืนยันว่า ยังคงปฏิบัติระหว่างกันด้วยหลักมนุษยธรรม และยังคงช่วยเหลืออำนวยความสะดวกให้แรงงานกัมพูชาทุกประการ ตามหลักกฎหมายของประเทศไทย เพื่อให้อยู่ทำงานและอาศัยบนแผ่นดินไทยได้อย่างปลอดภัย” นายจิรายุ กล่าว

ทั้งนี้ ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองทัพบก โดยทีมโฆษกกองทัพบก รายงานเมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2568 ว่า ตรวจพบชาวกัมพูชาลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายต่อเนื่อง หลังเหตุสู้รบชายแดน คงมาตรการเข้มรักษาความมั่นคงพื้นที่ชายแดน

นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์สู้รบตามแนวชายแดนไทย – กัมพูชา เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นมา กองทัพบกยังคงตรวจพบและจับกุมผู้ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายสัญชาติกัมพูชาได้อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่กองทัพภาคที่ 1 ด้านจังหวัดสระแก้ว ซึ่งตั้งแต่เกิดการสู้รบจนถึงปัจจุบัน สามารถจับกุมได้ทั้งสิ้น 35 ครั้ง รวมผู้ต้องหา 158 คน ได้แก่ อำเภออรัญประเทศ 23 ครั้ง ผู้ต้องหา 112 คน, อำเภอตาพระยา 7 ครั้ง ผู้ต้องหา 26 คน, อำเภอวัฒนานคร 1 ครั้ง ผู้ต้องหา 5 คน, อำเภอโคกสูง 1 ครั้ง ผู้ต้องหา 6 คน และอำเภอคลองหาด 3 ครั้ง ผู้ต้องหา 9 คน

ล่าสุด เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2568 หน่วยเฉพาะกิจอรัญประเทศร่วมกับกองร้อยทหารพรานที่ 1204 จับกุมชาวกัมพูชา 10 คน ในพื้นที่บ้านผ่านศึก ตำบลผ่านศึก อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว และเมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 12 สิงหาคม 2568 กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด โดยชุดควบคุมทหารพรานที่ 2 กองร้อยทหารพรานนาวิกโยธินที่ 524 (ร้อยบ้านแหลม) จับกุมชาวกัมพูชา 46 คน พร้อมผู้นำพาสัญชาติไทย ในพื้นที่บ้านคลองบอน ตำบลหนองตาคง อำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี ซึ่งจากการสอบสวนพบว่า หลังจากเดินทางกลับกัมพูชาแล้ว ไม่มีงานทำ จึงหาทางกลับเข้ามาทำงานในประเทศไทยผ่านช่องทางผิดกฎหมาย

สถานการณ์ดังกล่าวสะท้อนว่ามีชาวกัมพูชาจำนวนมากยังคงพยายามลักลอบเข้ามาทำงานในไทย เนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจและขาดโอกาสในการประกอบอาชีพในประเทศตน กองทัพบกจึงบูรณาการกำลังกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดชุดลาดตระเวน ตรวจสอบ และป้องกันอย่างเข้มงวด เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของประเทศ พร้อมคุ้มครองความปลอดภัยของประชาชนอย่างต่อเนื่อง

The Royal Thai Army continues to detect illegal Cambodian border crossings following border clashes and maintains stringent border security measures.

Since the outbreak of fighting along the Thai-Cambodia border on 24 July 2025, the Royal Thai Army has continued to detect and apprehend Cambodian nationals illegally crossing into Thailand. Particularly in the 1st Army Area covering Sa Kaeo Province, a total of 35 operations have been conducted from the time of the clashes to present, resulting in the apprehension of 158 suspects: Aranyaprathet District 23 operations, 112 suspects; Ta Phraya District - 7 operations, 26 suspects; Wattana Nakhon District - 1 operation, 5 suspects; Khok Sung District - 1 operation, 6 suspects; and Khlong Hat District - 3 operations, 9 suspects.

Most recently, on 13 August 2025, the Aranyaprathet Task Force, in coordination with the 1204th Ranger Forces Company, apprehended 10 Cambodian nationals in the area of Ban Phan Suek, Phan Suek Sub-district, Aranyaprathet District, Sa Kaeo Province. Additionally, during the late night hours of 12 August 2025, the Chanthaburi and Trat Border Defense Command (CTBDC) apprehended 46 Cambodian nationals along with a Thai national guide in the area of Ban Khlong Bon, Nong Ta Khong Sub-district, Pong Nam Ron District, Chanthaburi Province. Investigation revealed that after returning to Cambodia, they found themselves unemployed and subsequently sought to return to work in Thailand through illegal channels.

This situation reflects that a significant number of Cambodians continue attempting to illegally enter Thailand for employment due to economic hardships and lack of occupational opportunities in their homeland. The Royal Thai Army has therefore integrated forces with relevant agencies to deploy patrol units for stringent inspection and prevention measures to maintain peace and national security while continuously protecting public safety.