นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข และ ส.ส.จังหวัดชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หลังจากประเทศไทยเดินหน้านโยบายกัญชาเสรี เกิดสิ่งที่ประชาชนต้องวิตกกังวลเป็นที่สุด นักวิชาการหลายท่านออกมาแสดงความกังวล การใช้ “กัญชา” ในการผสมอาหาร เครื่องดื่ม และ ใช้เสพเพื่อสันทนาการ จะเกิดผลทางสังคมอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน พรรคเพื่อไทยเคยออกมาตั้งคำถามถึงแผนการรองรับระหว่างที่ยังไม่มีกฎหมายควบคุม มีหลายคนที่ห่วงใยออกมาแสดงความเห็นด้วยความเป็นห่วงเป็นใยบ้านเมืองและประชาชนกลับถูกผู้ใหญ่ในบ้านเมืองตั้งหน้าจะฟ้องร้องดำเนินคดี

เช่นเดียวกับไม่กี่วันที่มีข่าวแพทย์ชนบทออกมาโพสต์เฟสบุค ระบุเรื่องกัญชาเสรี คือเสรียาเสพติด ถูกสั่งให้หยุดพูดวิจารณาเรื่องกัญชาเสรี ทั้งๆที่เนื้อหาที่แพทย์ชนบทออกมาพูดแต่ละครั้งคือเป็นการเตือนด้วยความห่วงใยทางการแพทย์ แต่วันนี้แพทย์ชนบทกลับไม่สามารถออกมาพุดประเด็นเกี่ยวกับพืชกัญชา จนมีข่าวว่า วงในระดับผู้บริหารสาธารณาสุขสั่งห้ามแพทย์ชนบทให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเรื่องกัญชาเด็ดขาด แม้แต่การโพสต์ข้อความผ่านโซเชี่ยลมิเดียทุกช่องทางด้วย กลายเป็นประด็นร้อนทางสังคม

นพ.สุรวิทย์กล่าวว่า กัญชาเสรีอันตรายมากหากไม่มีการควบคุม   ยิ่งการการโฆษณาสรรพคุณต่าง ๆ ของกัญชา ยิ่งเป็นการเชื้อเชิญให้เยาวชน "อยากรู้-อยากลอง" กัญชาในรั้วโรงเรียน อันตรายของการใช้กัญชาในปริมาณเกินความเหมาะสม ไปจนถึงความเสี่ยงถูกลงโทษทางกฎหมายในต่างแดน หากพลั้งเผลอพกพากัญชาเดินทางเข้าประเทศ ล่าสุดมีนักท่องเที่ยวชายชาวบราซิล ซึ่งยังเป็นนักศึกษาอายุ 25 ปี คนหนึ่งถูกจับกุม เมื่อเดินทางมาถึงสนามบิน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากทางการจับพบว่ามีด้วยกัญชา 9.1 กรัมโดยรับสารภาพว่าซื้อกัญชามาจากประเทศไทย รวมถึงเหตุการณ์เด็กนักเรียนเสพกัญชาในห้องเรียน แค่สองเรื่องที่หยิบยกมามันเป็นเรื่องที่น่าห่วงมาก

ภาวะพิษจากกัญชานั้นเกิดขึ้นได้ทั้ง ภาวะพิษเฉียบพลัน หากได้รับสารพิษเกินขนาดอาจเสียชีวิตได้ ขณะนี้ยังไม่มียาต้านพิษจำเพาะ ภาวะพิษเรื้อรัง เป็นผลเสียหายต่อระบบสมองและจิตประสาทเป็นส่วนใหญ่ยังไม่มีการทำวิจัยหรือเก็บข้อมูลมากเหมือนกรณียาสูบหรือบุหรี่ เพื่อป้องกันผลกระทบทางลบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชนโดยสุขภาพของเด็กและเยาวชน สิ่งที่น่าห่วงคือ อนาคตผู้ป่วยเด็กจากกัญชาจะยิ่งเพิ่มมากขึ้น ซึ่งความจริงกัญชาควรใช้เฉพาะทางการแพทย์อย่างเดียวเท่านั้นและต้องควบคุมให้ดีต้องเปิดพื้นที่รับฟังคำวิพากษ์วิจารณ์ของคนในสังคมในวงกว้างด้วย” นพ.สุรวิทย์ กล่าว