เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. 2566 ที่วัดหิรัญญาราม หรือวัดบางคลาน หลวงพ่อเงิน อ.โพทะเล จ.พิจิตร บรรดาศิษยานุศิษย์ของพระครูวิสิฐสีลาภรณ์ อดีตเจ้าอาวาสวัดบางคลาน เกจิชื่อดังของ จ.พิจิตร ประกอบไปด้วย ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ทั้งตำรวจ ทหาร นักการเมือง หัวหน้าส่วนราชการ ทั้งที่ปลดเกษียณไปแล้วและยังรับราชการอยู่ในปัจจุบัน ตลอดจน จ.พิจิตรและจังหวัดใกล้เคียงที่ศรัทธาในตัวของหลวงพ่อเงินและอดีตเจ้าอาวาสได้ร่วมใจจัดทำบุญครบรอบ 1 ปีให้แก่พระครูวิสิฐสีลาภรณ์ซึ่งท่านได้มรณภาพเมื่อ 24 มิ.ย. 2565 ด้วยโรคหัวใจล้มเหลวฉับพลัน ภายในกุฏิ เป็นที่เศร้าโศกเสียใจใแก่บรรดาศิษยานุศิษย์ทั้งหลาย
ทำให้เหล่าศิษยานุศิษย์ไม่ลืมกับการกระทำ ของ พระราชสิทธิเวที เจ้าคณะจังหวัด ที่ขาดจากความเป็นพระไปแล้ว
เจ้าคณะจังหวัดสั่งผ่านเจ้าคณะตำบลให้สั่งพักหยุดปฏิบัติจากเจ้าอาวาสในข้อหาหย่อนยาน ตั้งแต่ปี 2557 แล้วออกคำสั่งตั้งพระครูพิสุทธิวรากรณ์ มารักษาการเจ้าอาวาส ทำให้ชาวบ้าน ต.บางคลาน และลูกศิษย์พระครูวิสิฐสีลาภรณ์ ที่ต่อสู้กับขบวนการลูกน้องเจ้าคณะจังหวัดที่เข้ามายึดวัดบางคลานทำมาหากิน เป็นปฏิปักษ์กับชาวบ้านมา 8-9 ปีโดยมีการจ้างทนายฟ้องร้องชาวบ้านนับร้อยคดี
ตัวแทนลูกศิษย์พระครูวิสิฐลาภรณ์อดีตเจ้าอาวาส กล่าวว่าแม้ว่าหลวงพ่อจะไม่อยู่แล้ว แต่ลูกศิษย์ทั้งหลายจะต้อสู้ขอล้างมลทินให้แก่ท่านและทำความจริงให้ปรากฏให้สาธุชนได้รับรู้ทั่วประเทศว่าวงการพระสงฆ์จังหวัดพิจิตรเป็นอย่างไร และ กราบขอความเมตตาพระเถระผู้ใหญ่ทุกรูปที่ดูแลคณะสงฆ์ขอให้เมตตาลงพื้นทีมาตรวจสอบดูการกระทำและพฤติกรรมของเจ้าคณะจังหวัดพิจิตรด้วย ที่อาบัติปาราชิกตั้งแต่ปีพ.ศ 2551 แล้วสร้างความเดือดร้อนให้แก่วัดบางคลาน และในการใช้เงินหรือสร้างวัตถุมงคลแต่ละรุ่นมีความเกี่ยวข้องกับ พระครูพิสุทธิวรากรณ์ รักษาการเจ้าอาวาสวัดบางคลานรูปปัจจุบันที่มาจากวัดต่างตำบล โดยชาวบ้านไม่ยอมรับและประชามติไล่พ้นวัดบางคลานไปแล้ว
ทั้งนี้ บรรยากาศการทำบุญครบรอบการมรณภาพของพระครูวิสิฐสีลาภรณ์ ครบรอบ 1 ปีของเหล่าศิษยานุศิษย์นอกจากจะมีการทำบุญเลี้ยงพระ มีการจ้างลิเกชื่อดังของจังหวัดทำการแสดงแล้ว บรรดาลูกศิษย์ได้ทำมีพิธีเผาพริกเผาเกลือสาปแช่งพระราชสิทธิเวที เจ้าคณะจังหวัดตลอดจนบริวารที่ทำกันเป็นขบวนการกลั่นแกล้งปลด พระครูวิสิฐสีลาภรณิ์ อดีตเจ้าอาวาสออกจากตำแหน่งอีกด้วย
ด้าน สุภา อยู่ยืด ประธานองค์กรชุมชนรักษ์วัดบางคลาน เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีได้แจ้งความร้องทุกข์ดำเนินคดีกับ วิรัตน์ วะสะศิริ หรือ พระราชสิทธิเวที เจ้าคณะ จ.พิจิตร โดยกล่าวหาว่าแต่งกายเลียนแบบสงฆ์ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 208 ว่าบุคคลดังกล่าวได้ขาดความเป็นพระแล้ว ตั้งแต่ปี 2551 โดยเสพเมถุนเป็นอาบัติปาราชิก ขาดจากความเป็นพระภิกษุ มีบุตร 2 คนกับสีกา 2 คนในปี 2551
และปี 2562 ล่าสุดตนและอดีต ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนา จ.พิจิตร ได้มอบเอกสารหลักฐานที่เป็นภาพวิดีโอคอลแชตกับสาวคนสนิท และเอกสารภาพถ่ายที่เกี่ยวข้อง แต่ที่น่าแปลกใจข่าวบุคคลระดับเจ้าคณะจังหวัดมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม กลับไม่มีผู้บริหารคณะสงฆ์เคลื่อนไหวเลย คงต้องฝากความหวังไว้กับฟ้าอย่างเดียวที่จะเข้ามาจัดการ