ประชาชนผู้มีสิทธิ์ลงคะแนนเสียงเลือกตั้งชาวเกาหลีใต้เดินทางไปลงคะแนนเลือกตั้งประธานาธิบดีคนใหม่ในวันที่ 9 มี.ค.หลังจากที่มุนแจอิน ผู้นำคนปัจจุบันกำลังจะดำรงตำแหน่งครบวาระ 1 สมัย 5 ปีเต็ม
CNA รายงานว่า การเดินหน้ารณรงค์หาเสียงในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาถูกสำนักข่าวในเกาหลีใต้รายงานออกมาในภาพของการแข่งขันเพื่อชิงความเป็นหนึ่งทางการเมืองที่เป็นไปอย่าง 'ดุเดือด' การหาเสียงเต็มไปด้วยเรื่องเซอร์ไพรส์ การเปิดโปง เรื่องอื้อฉาว การใส่ร้ายป้ายสี ไปจนถึงการทำร้ายร่างกายผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทางการเมือง
เริ่มแรกในศึกชิงเก้าอี้ผู้นำเกาหลีใต้ครั้งนี้มีผู้สมัครทั้งสิ้น 14 คน แต่เหลือเพียงการแข่งขันอันดุเดือดของ 2 ตัวเก็งอย่าง 'ลี แจ-มยอง' ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีจากพรรคประชาธิปไตยหรือพรรคมินจู (Democratic Party) ผู้ซึ่งเป็นเสมือนทายาททางการเมืองของ มุน แจ อิน ประธานาธิบดีคนปัจจุบัน และ 'ยุน ซุก-ยอล' ผู้สมัครจากพรรคพลังประชาชนเกาหลีใต้ (People Power Party) พรรคการเมืองฝ่ายขวาฝั่งอนุรักษ์นิยม
โพลในสัปดาห์ที่แล้วชี้ว่าการแข่งขันสูสีอย่างมากและมีเรื่องราวเซอร์ไพรส์เกิดขึ้นกับยุน ผู้สมัครจากพรรคพลังประชาชนเกาหลีใต้ เพราะก่อนหน้านั้นคู่แข่งจากฝั่งอนุรักษ์นิยมที่มีผลโพลตามมาห่างๆ ในลำดับที่ 3 ได้ประกาศถอนตัว และประกาศสนับสนุนยุนแทน โดยก่อนการลงคะแนนเสียงเช้าวันนี้ ผลโพลจาก Embrain Public ชี้ว่าคะแนนสนับสนุนยุนอยู่ที่ 47.4% ขณะที่คู่แข่งอย่างลี แจ-มยอง ได้ไป 41.5%
หลังชนะเลือกตั้ง ประธานาธิบดีคนใหม่ของเกาหลีใต้จะเริ่มทำงานวันแรกในวันที่ 10 พ.ค. และจะดำรงตำแหน่งตามวาระ 5 ปีเต็ม และตามรัฐธรรมนูญผู้นำเกาหลีใต้สามารถดำรงตำแหน่งได้เพียงสมัยเดียว
CNA ชี้ว่าผู้ชนะจากศึกเลือกตั้งครั้งสำคัญในครั้งนี้จะต้องเผชิญกับความท้าทายอันใหญ่หลวง ไม่ว่าจะเป็นประเด็นเศรษฐกิจที่ซบเซาอย่างหนักจากโควิด-19 การระบาดที่กลับมารุนแรงอย่างหนัก วิกฤตความเหลื่อมล้ำที่กำลังรุนแรงขึ้น ไปจนถึงปัญหาค่าครองชีพและค่าที่ดินที่อยู่อาศัยที่กำลังพุ่งทะยาน ซึ่งกำลังทำร้ายชาติเศรษฐกิจอันดับ 10 ของโลกแห่งนี้อย่างหนัก