ฉาย บุนนาค ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วยศุภวัฒน์ สงวนงาม กรรมการผู้จัดการบริษัทเนชั่นฯ, วีระศักดิ์ พงษ์อักษร บรรณาธิการอาวุโสกลุ่มเนชั่น, ปกรณ์ พึ่งเนตร บรรณาธิการบริหารเนชั่นทีวี และนิภาวรรณ แก้วรากมุกข์ ประธานสหภาพแรงงานเครือเนชั่น
ฉาย กล่าวว่า การที่มีบุคลากรคุณภาพตั้งใจทำงานเพื่อองค์กรลาออกไปเป็นเรื่องปกติของธุรกิจ แต่เนชั่นทีวีเป็นองค์กรข่าวอันดับ 1 ซึ่งได้รับความไว้วางใจจากประชาชนมาตลอด ดังนั้น ไม่ได้ขายดาราหรือผู้ประกาศ แม้เป็นองค์ประกอบหนึ่งที่สำคัญ แต่ขายความน่าเชื่อถือและความจริง เป็นดั่งแสงเทียนนำทางของสังคมในยามที่วิกฤต เป็นดั่งกระจกสะท้อนสังคม 'เนชั่น' เป็นองค์กรมหาชนมีผู้ถือหุ้นเป็นพันเป็นหมื่นคน และโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ไม่มีการเปลี่ยนแปลง ไม่มีชื่อของบุคคลทางการเมืองหรือผู้มีอิทธิพลเข้ามาถือหุ้น ส่วนกระแสข่าวลื่อต่างๆ เป็นการใส่ร้ายป้ายสี และการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไม่เกี่ยวกับผลประกอบการ
โดยวันพฤหัสบดีนี้ (12 พ.ย. 2563) จะมีการประชุมผู้ถือหุ้นใหญ่ และพูดคุยกับผู้ก่อตั้งซึ่งปีหน้าจะครบ 50 ปี และเตรียมทาบทาม อดิศักดิ์ ลิมปรุ่งพัฒนกิจ อดีตผู้บริหารเนชั่น กลับมาเป็นผู้บริหารเครือเนชั่นอีกครั้ง
ฉาย กล่าวถึง กนก รัตน์วงศ์สกุล และธีระ ธัญไพบูลย์ อดีตผู้ประกาศข่าวเนชั่นที่ลาออกไป ซึ่งมารดาตนเป็นแฟนคลับอยู่ด้วยนั้น ได้ทำคุณประโยชน์ให้เนชั่นมากมาย และพร้อมต้อนรับกลับมาทำงานร่วมกันอีกครั้ง ยืนยันว่า ประตูบ้านหลังนี้ต้อนรับทั้ง 2 คนเสมอ
จากที่ได้สัมผัสกับธีระและกนก ถือเป็นบุคลากรที่ประคองตัวเองได้อย่างดีมาโดยตลอด ไม่ยุ่งเกี่ยวหรือเข้าใกล้กับผลประโยชน์หรือขั้วอำนาจหรือนักการเมือง นั่นคือสิ่งที่ตนชื่นชมมาก และเห็นว่าทั้ง 2 คน ควรเป็นต้นแบบให้พนักงานทุกคนในการทำงานและการดำเนินชีวิตด้วย
"มีแต่คนที่มองโลกในแง่ร้ายกลัวการเปลี่ยนแปลง แต่คนมองโลกในแง่ดีและมีความกล้า จะมองเห็นโอกาสจากการเปลี่ยนแปลง จะเป็นหมาเฝ้าบ้านดูแลผลประโยชน์ของชาติ ตรวจสอบทุจริตคอรัปชัน นั่นคือหน้าที่ของเราที่จะทำอย่างครบถ้วนตามหลักคุณธรรมและจริยธรรมสื่อ ซึ่งหัวใจหลักและรากแก้วขององค์กรที่สำคัญที่สุด" ฉาย กล่าว
ด้าน ปกรณ์ ยืนยันว่า จุดเด่นของ Nation คือความเข้มข้นของเนื้อหาข่าว โดยจากนี้ข่าวการเมืองมีเหมือนเดิม แต่จะเสริมข่าวสังคมซึ่งที่ผ่านมาอาจจะให้น้ำหนักน้อยไป เมื่อปรับรูปแบบการทำงานแล้วผลก็จะเปลี่ยนไป จากนี้พร้อมรับฟังเสียงสะท้อนทุกฝ่ายเพื่อปรับปรุงพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น
วีระศักดิ์ ระบุว่า ตนผ่านการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญหลายครั้ง ซึ่งครั้งนี้อาจทำให้ให้คนอื่นๆ ตื่นเต้น แต่ตนถือว่าเล็กน้อยมาก จึงขอให้มั่นใจและตระหนักว่าการเปลี่ยนแปลงจะนำสู่สิ่งที่ดีเสมอ รวมถึงครั้งนี้ด้วย ที่จะกลับไปสู่การทำหน้าที่สื่อและเป็นสถาบันสื่อมืออาชีพอย่างแท้จริง ตาม DNA หรือเนชั่นเวย์ ตั้งแต่วันแรกที่ก่อตั้งเครือเนชั่น
วีระศักดิ์ ขยายความว่า 'เนชั่นเวย์' เป็นหลักการทำสื่อที่หลากหลายสถาบันการศึกษาเอาไปใช้ คือให้ "ความเป็นธรรม" อาจไม่พูดถึง "ความเป็นกลาง" ซึ่งไม่มีอยู่จริง สิ่งสำคัญคือต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ที่ถูกพาดพิงหรือกล่าวหา ที่ต้องมีสิทธิชี้แจง ทุกคนทุกส่วนต้องได้รับความเป็นธรรม และตรวจเช็กอย่างรอบคอบก่อนรายงานออกไปไม่เอา hate Speech หรือข่าวลือที่ไม่จริงรายงาน ต้องตรวจสอบตามหลักจริยธรรมและจรรยาบรรณอย่างเคร่งครัด