ไม่พบผลการค้นหา
ล้มไม่ลุก! ‘ปูอัด’ โค้งแล้วโค้งอีก บอกถ้าผิดจริง ก็ขอโทษ หลังแจงทุกข้อกล่าวหาคุกคามทางเพศ

3 พ.ย. 2566 เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ศูนย์ประสานงานพรรคก้าวไกล เขตจอมทอง ไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม. ผู้ถูกกล่าวหาในกรณีคุกคามทางเพศ ซึ่งมีมติจากพรรคก้าวไกลให้คาดโทษไว้ พร้อมเงื่อนไขให้มีการยอมรับผิด ขอโทษสังคม และเยียวยาผู้เสียหาย ได้แถลงภายหลังได้รับหนังสือจากพรรคก้าวไกล ว่า ตนตั้งใจจะชี้แจง และนำเสนอหลักฐานต่อสื่อมวลชน และพี่น้องประชาชนในข้อกล่าวหาตามคำร้องของผู้ร้อง ซึ่งตนได้ส่งหลักฐานให้กับกรรมการบริหารพรรคพิจารณานานแล้ว 

“หากเป็นการคุกคามทางเพศ โดยใช้อำนาจบีบบังคับจริง ต้องขอโทษ และพร้อมที่จะน้อมรับมติพรรค” ไชยามพวาน กล่าว

โดยจากกรณีที่มีผู้ร้องทั้งหมด 3 คน ตนขอชี้แจงเป็นรายกรณี ดังนี้ 1.ตามเอกสารที่ระบุว่า มีการใช้อำนาจคุกคามทางเพศ ไปที่ผู้ร้องคนที่หนึ่ง ซึ่งเป็นผู้ช่วยที่ร่วมกันทำพื้นที่ในเขตจอมทองมาโดยตลอด ตนขอแสดงหลักฐานข้อความส่วนตัวระหว่างตนและคู่กรณีดังนี้ จากนั้น นายไชยามพวานได้อ่านบันทึกการสนทนาให้กับสื่อมวลชนฟัง พร้อมกล่าวว่า

“หากเป็นการคุกคามทางเพศ โดยใช้อำนาจบีบบังคับตามที่คณะกรรมการพรรควินิจฉัย ผมก็ต้องขอโทษจริงๆ” ไชยามพวาน กล่าว พร้อมลุกขึ้นโค้งคำนับ

2.กรณีที่อ้างว่ามีรูปถ่ายขณะที่ผู้ร้องคนที่สองผูกเน็กไทด์ให้กับตน และอยู่ด้วยกันสองต่อสองในห้องพัก เป็นการคุกคามทางเพศนั้น ตนขอชี้แจงว่า รูปดังกล่าวจัดทำขึ้นเป็นคอนเทนท์ เพื่อเตรียมไว้สำหรับลงโซเชียลมีเดีย โดยมีแนวคิดว่า ตนเองเป็น สส.หน้าใหม่ ที่ผูกไทด์ไม่เป็น ซึ่งผู้ร้องคนที่สองก็เป็นคนคิดคอนเทนท์นี้เอง และเป็นเพียงการส่งรูปให้เลือกเพื่อลงโซเชียลมีเดีย แต่ยังไม่ได้ถูกเผยแพร่ เป็นข้อบ่งชี้ที่ว่า ผู้ร้องรู้ตัวว่าถูกถ่ายแน่นอน และในวิดีโอผู้ร้องก็มีการสนทนากับตนตลอด และจะเห็นได้จากเงาสะท้อนว่า มีผู้ช่วยคนอื่นอยู่ในห้องด้วย ไม่ได้อยู่กันสองต่อสองตามที่ได้มีการกล่าวอ้าง 

ส่วนสลิปการโอนเงินที่ถูกกล่าวหาว่า เป็นการโอนเพื่อปิดปากนั้น ตนขอชี้แจงว่า เป็นการโอนเงินเดือนตามบันทึกข้อตกลงร่วมงาน และให้เงินช่วยเหลือค่าครองชีพระหว่างการว่างงาน 

“หากรูปดังกล่าวที่แจ้งไปข้างต้น ถือว่าเป็นการคุกคามทางเพศตามที่คณะกรรมการของพรรควินิจฉัย รวมถึงถือว่าสลิปโอนเงินนั้น เป็นการปิดปาก ตนก็ขอโทษ และพร้อมยอมรับในมติพรรค” ไชยามพวาน กล่าว พร้อมลุกขึ้นโค้งคำนับ

3.กรณีที่มีการแตะเนื้อต้องตัว ซึ่งถูกมองว่าเป็นการคุกคามนั้น ตนทราบดีว่าเวลาลงพื้นที่อาจมีการแตะตัวกับผู้อื่นค่อนข้างมาก แต่ตนไม่มีเจตนาที่จะแตะตัวใครเพื่อเป้าประสงค์ทางเพศ และการสัมผัสตามคำร้องของผู้ร้องคนที่สามนั้น เป็นการแตะเนื้อต้องตัวธรรมดาของผู้ร่วมงาน ไม่ได้มีเป้าประสงค์ทางเพศ 

“หากผมผิดพลาดที่อาจไม่ได้คิดให้รอบคอบถึงขอบเขตเหล่านี้ให้ดีพอว่า แต่ละคนอาจมีขอบเขตในการยอมรับที่แตกต่างกัน และผมต้องขออภัย หากการกระทำของตน ทำให้ผู้ร้องรู้สึกไม่สบายใจ และตนอาจจะไม่ได้เปิดโอกาสให้ผู้ร้องสะท้อนความรู้สึกถึงความไม่สบายใจออกมาได้มากพอ ผมก็ต้องขออภัย และจะระมัดระวังตัวมากขึ้น” ไชยามพวานกล่าว พร้อมลุกขึ้นโค้งคำนับ

ท้ายที่สุด ตนเคารพในการตัดสินใจของมติพรรค ขอฝากพี่น้องสื่อมวลชน และประชาชน ช่วยพิจารณาตามเอกสารหลักฐานตรงนี้ด้วยว่า เป็นพฤติกรรมคุกคามทางเพศ และเข้าข่ายหรือไม่ 

“ขอโทษเพื่อนๆ ที่ทำให้พรรควันนี้มีรอยร้าวขึ้นมา ขอโทษประชาชนในพื้นที่ ที่วันนี้เพิ่งจะเอาหลักฐานออกมาให้ทุกคนได้ทราบ และหลังจากเสร็จการแถลงข่าวตนจะไปลงพื้นที่ต่อ” ไชยามพวาน กล่าว