วันที่ 15 เม.ย. 2565 ระหว่างการลงพื้นที่บริเวณวัดจันทรสโมสร เขตดุสิต คุณหญิง สุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงกรณีที่มีข้อกล่าวหาว่า นักการเมืองระดับ 'รองหัวหน้าพรรค' เกี่ยวข้องกับการล่วงละเมิดทางเพศหญิงอายุ 18 ปี โดยระบุว่า ไม่ว่าใครก็แล้วแต่ ไม่ว่าจะเป็นนักการเมือง มหาเศรษฐี หรือคนธรรมดา ไม่มีสิทธิที่จะมาทำร้ายผู้หญิงเช่นนี้ สมัยตนทำงานการเมืองใหม่ๆ เคยได้รับการคุกคามด้วยคำพูดที่ไม่เหมาะสม จึงมองว่าวันนี้ควรต้องให้การปกป้องเรื่องสิทธิผู้หญิงอย่างเต็มที่

"เพศหญิงไม่ใช่เพศที่อ่อนแอ แต่ด้วยสรีระอาจจะสู้เพศชายไม่ได้ ต่อให้คนนั้นจะใหญ่แค่ไหน หากย่ำยีผู้หญิงจะต้องได้รับการลงโทษ ไม่ว่าจะเป็นคนธรรมดา หรือผู้มีอำนาจ ไม่สามารถที่จะเห็นผู้หญิงเป็นของเล่น เป็นตุ๊กตา ที่จะทำอะไรก็ได้ ไม่ได้คำนึงถึงศักดิ์ศรีและสภาพจิตใจ"

สุดารัตน์ ยังกล่าวว่า ส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้ และขอไม่ระบุว่าเป็นใคร หรือพูดถึงพรรคการเมือง ไม่อยากไปก้าวล่วง เพราะยังไม่ทราบข้อเท็จจริง แต่ในฐานะลูกผู้หญิง ใครก็ตามที่มีพฤติกรรมเช่นนี้ สังคมต้องร่วมกันประณาม กฏหมายต้องลงโทษ และเชื่อว่าผู้หญิงทุกคนที่เคยเจอแบบนี้ ต้องลุกขึ้นมาสู้

ด้าน น.ต.ศิธา ทิวารี ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร สังกัดพรรคไทยสร้างไทย เบอร์ 11 ระบุเพิ่มเติมว่า ผู้ว่าฯ กทม. ต้องเข้าไปดูชีวิตความเป็นอยู่ ตลอดจนความปลอดภัยของประชาชนทั้งหมด ปัจจุบันนี้ประชากรผู้หญิงมีสัดส่วนมากกว่าผู้ชาย กลุ่มผู้หญิงได้มีการรวมตัวกัน และรณรงค์ในอัตลักษณ์ที่ต่างจากผู้ชาย สังคมต้องเข้าไปดูแลผู้หญิงต้องรับผิดชอบภาระการงานโดยไม่ได้รับค่าจ้าง ทั้งที่ทำงานบ้านก็หนักไม่แพ้กับผู้ชาย ต้องส่งเสริมให้ผู้หญิงมีเวลาไปดูแลบุตร

"สถาบันครอบครัวเป็นส่วนเล็กๆ ของแต่ละชุมชน แต่มีความยิ่งใหญ่มาก ถ้าเราส่งเสริมสถาบันครอบครัวให้แข็งแรง ช่วยให้ผู้หญิงมีเวลาในการดูแลและสอนลูก ไม่ต้องเสียเวลาในการทำงานมากมาย" น.ต.ศิธา กล่าว