วันที่ 21 ก.ค. 2563 ที่ สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายฌอน บูรณะหิรัญ ไลฟ์โค้ชชื่อดัง พร้อมทนายเดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.แสวง สนูหมื่น สว.(สอบสวน) สภ.ปากเกร็ด ตามกำหนดที่ทางพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียกเป็นครั้งที่ 2 เพื่อให้ปากคำเรื่องเงินบริจาค ที่มีผู้เสียหายคือนายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนเพื่อความยุติธรรม ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.ปากเกร็ด เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ที่ผ่านมา เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายฌอน ข้อหานำเข้าข้อมูลอันเป็นเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และพ.ร.บ.ควบคุมการเรี่ยไรโดยไม่ได้รับอนุญาต
โดยนายฌอน กล่าวว่า สาเหตุที่ไม่ได้เข้ามาพบในตอนแรก เนื่องจากเตรียมเอกสารหลักฐานรวบรวมข้อมูลให้ครบถ้วนเพื่อพร้อมเข้าชี้แจงทำความเข้าใจ โดยมีหลักฐานเป็นพวกเอกสารในด้านการเงินที่ทำมาตั้งแต่เริ่มต้นในการทำกิจกรรม ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องปลูกป่า และสิ่งแวดล้อม เพื่อต้องการชี้แจงให้สังคมเข้าใจ
"ทนายรณรงค์" พบตำรวจเกรงผู้ใหญ่กดดัน หลัง "ฌอน" เข้าให้ปากคำ
ต่อมาเวลา 12.00 น. นายรณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคมได้เดินทางเข้าพบ พ.ต.อ.พงศ์จักร ปรีชาการุณพงศ์ ผกก.สภ.ปากเกร็ด เพื่อสอบทางด้านคดีและจะสอบถามฌอนถึงเรื่องผู้ใหญ่ที่กดดันเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าเป็นใคร
ทางด้านนายรณรงค์ กล่าวว่า วันนี้เป็นวันแรกที่สังคมได้เห็นฌอนที่โรงพักปากเกร็ด ในขณะเดียวกันที่มีคนไปแจ้งความในหลายท้องที่ แต่ไม่มีที่ไหนคืบหน้าเท่าที่ปากเกร็ดเลย เพราะฉะนั้นผมเชื่อว่าที่ สภ.ปากเกร็ดให้ความเป็นธรรมทั้ง 2 ฝ่ายอยู่แล้ว เพียงแต่ขออย่าให้มีผู้ใหญ่ที่ไหนมากดดันพนักงานสอบสวนเท่านั้นเอง คำถามคือเงินบริจาคที่ยังเหลืออยู่ ที่มีเงิน 10 บาทของตนไปสมทบด้วยเมื่อไหร่จะเอาไปส่งมอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้จบปัญหา คงไม่ต้องรอไฟป่าปีหน้า (64) แล้วค่อยไปให้รับบริจาคปีนี้ก็ควรให้ปีนี้จะได้เสร็จ นี่คือปัญหาที่คาใจอยู่
ด้าน พ.ต.อ.พงศ์จักร เปิดเผยว่าที่ทุกคนสงสัยว่าทำไมต้องสอบปากคำนาน เพราะเราต้องตอบคำถามและหาหลักฐานทุกประเด็นให้ครบ เนื่องจากประเด็นที่ถามก็เป็นหนึ่งในคำถาม เบื้องต้นหลักฐานมีพอประมาณ รวบรวมหลักฐานทุกมิติ บางเรื่องขอไม่ตอบเพราะเป็นหลักฐานในสำนวน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง