ต่างประเทศ
ตำรวจอเมริกันทั่วประเทศทยอยลาออก หลังกรณี 'สังหารคนผิวดำ'
หลังการเสียชีวิตของชายชาวอเมริกันผิวดำ 'จอร์จ ฟลอยด์' เมื่อ 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ไปจนถึงกรณีล่าสุดเมื่อตำรวจผิวขาวใช้อาวุธปืนยิงเข้าที่หลังของ 'เรย์ชาร์ด บรูกส์' 2 นัดจนเสียชีวิตเมื่อวันที่ 12 มิ.ย. กระแสการประท้วงและวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของตำรวจอเมริกันก็ทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งมีการเรียกร้องให้มีการตรวจสอบและปฏิรูปวงการตำรวจของสหรัฐฯ อย่างจริงจังเพื่อแก้ไขปัญหาแบบถอนรากถอนโคน ซึ่งส่งผลให้มีผู้นำท้องถิ่นหลายแห่งออกมาให้คำสัญญาว่าจะมีการปฏิรูปการทำงานของตำรวจ และจัดการปัญหาการใช้ความรุนแรงของตำรวจอย่างทันท่วงที
แคสเปอร์ ฮิลล์ โฆษกเมืองมินนิอาโปลิสให้สัมภาษณ์กับ สำนักข่าว CNN ระบุว่า การเสียชีวิตของฟลอยด์ เมื่อปลายเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ทำให้ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจในเมืองมินนิอาโปลิส ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุนั้น ลาออกไปแล้วอย่างน้อย 7 นาย ขณะที่ตอนนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจอีกเกือบ 10 นายได้แสดงความจำนงในการลาออกเรียบร้อยแล้วเช่นกัน โดยจากจำนวนทั้งหมดที่มีการเปิดเผยพบว่ายังไม่ได้นับรวมกับเจ้าหน้าที่ทั้ง 4 คนที่เข้าทำการจับกุมจอร์จ ฟลอยด์ จนเสียชีวิต โดยทางจอห์น เอลเดอร์ โฆษกกรมตำรวจชี้ว่า การทยอยลาออกของเจ้าหน้าที่ในขณะนี้นั้น ไม่ได้มากจนจะทำให้เกิดปัญหากับการทำงาน และโดยปกติแล้ว ผู้คนต่างก็มีเหตุผลล้านแปดในการลาออกจากงานที่ทำอยู่ ตำรวจก็ไม่ต่างกัน
ขณะที่ใน เมืองแอตแลนตา มลรัฐจอร์เจีย ผู้บัญชาการกรมตำรวจของแอตแลนตาประกาศลงจากตำแหน่งทันทีเพื่อแสดงความรับผิดชอบ กรณีการเสียชีวิตของ เรย์ชาร์ด บรูกส์ ขณะที่ตำรวจผู้ที่เป็นคนยิงสังหารบรูกส์ก็โดนไล่ออกจากราชการแล้ว และในเดือนนี้ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจของแอตแลนตาลาออกจากราชการไปแล้วรวม 8 นาย ขณะที่จำนวนเฉลี่ยของการยื่นใบลาออกชี้ว่าในแต่ละเดือนของปีนี้ คือเดือนละ 2-6 นาย
ใน มลรัฐฟลอริดา เจ้าหน้าที่ 10 นายลาออกจากหน่วยอาวุธและยุทธวิธีพิเศษ หรือ SWAT ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย พร้อมทั้งมีการส่งจดหมายไปยังผู้บัญชาการตำรวจของเมืองฮอลแลนเดลบีชเพื่ออธิบายเหตุผลของการลาออกด้วยว่าที่ผ่านมา พวกเขาได้รับอนุญาตให้พกอาวุธแบบจำกัดอย่างมาก ได้รับการฝึกค่อนข้างน้อย และหลายครั้งพบว่าต้องถูกยับยั้งไม่ให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้เต็มความสามารถเพราะเหตุผลทางการเมืองภายใน ไปจนถึงการต้องให้ความสำคัญของชีวิตสุนัขมากกว่าสมาชิกในทีม และพวกเขายังระบุด้วยว่า ที่ผ่านมาพวกเขามีความไม่พอใจอย่างมากกับพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ใช้ความรุนแรงอยากการกดนักเคลื่อนไหวด้วยเข่าระหว่างที่มีการประท้วงต่างๆ
อย่างไรก็ตาม การลาออกของเจ้าหน้าที่ตำรวจในฟลอริดานั้นเป็นเจ้าหน้าที่สังกัดหน่วยอาวุธและยุทธวิธีพิเศษเท่านั้น ไม่ใช่เจ้าหน้าที่ที่สังกัดกรมตำรวจ ขณะที่ใน เขตบัฟฟาโลของนครนิวยอร์ก เจ้าหน้าที่ตำรวจลาออกมากถึง 57 นาย หลังจากที่พวกเขาไม่พอใจเจ้าหน้าที่ 2 นายในทีมอย่างมาก ที่มีพฤติกรรมรุนแรงกับผู้ประท้วงที่ออกมาเรียกร้องความยุติธรรมกรณีเหยียดเชื้อชาติจนถูกวิพากษ์วิจารย์อย่างกว้างขวาง โดยเขาถูกตั้งข้อหาทำร้ายร่างกายด้วยการผลักชายวัย 75 ปี จนล้มลงบนฟุตบาทหัวฟาดพื้นก่อนถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล ซึ่งเจ้าหน้าที่ทั้ง 2 นาย 'ปฏิเสธข้อกล่าวหา' ดังกล่าว
