'วันคนโสด' ตรงกับวันที่ 11 พฤศจิกายนของทุกปี เกิดจากการทำแคมเปญกระตุ้นการขายของบริษัทอาลีบาบา ยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซของจีน ซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อปี 2009 และช่วงสิบปีที่ผ่านมา ธุรกิจออนไลน์มีรายได้เป็นกอบเป็นกำจากการจำหน่ายสินค้าในวันคนโสด เทียบเท่ากับวัน 'แบล็กฟรายเดย์' หรือวันศุกร์ก่อนเทศกาลขอบคุณพระเจ้า ซึ่งเคยเป็นวันกระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของชาวอเมริกันมาก่อน
เว็บไซต์ซีเน็ตรายงานว่า การจัดโปรโมชั่นกระตุ้นการจำหน่ายสินค้าออนไลน์ในวันคนโสดเมื่อปีที่แล้ว ทำให้ธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่เข้ารวมเทศกาลนี้มีรายได้รวมถึง 31,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 1 ล้านล้านบาท ภายในเวลา 24 ชั่วโมงที่จัดโปรโมชั่น
ขณะเดียวกัน บลูมเบิร์กรายงานว่า หลายปีที่ผ่านมา ยอดขายสินค้าใน 'วันคนโสด' ได้แซงหน้ายอดขายในวัน 'แบล็กฟรายเดย์' ไปมากแล้ว และผู้ที่เข้าร่วมซื้อสินค้าออนไลน์ในวันคนโสดไม่ได้จำกัดอยู่ในประเทศใดประเทศหนึ่งเท่านั้น แต่เป็นผู้บริโภคจากทั่วโลกที่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ ทำให้วันคนโสดกลายเป็นมหกรรมจำหน่ายสินค้าออนไลน์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลกที่บริษัทอีคอมเมิร์ซต่างๆ ต้องการเข้าไปมีส่วนแบ่งทางการตลาดด้วย
นอกจากนี้ ในจีนไม่ได้มีแต่บริษัทอาลีบาบาเป็นเจ้าใหญ่เพียงรายเดียวที่โปรโมตเทศกาลนี้ บริษัทอื่นๆ ที่ถูกมองเป็นคู่แข่งของอาลีบาบา เช่น เจดี.คอม และ Pinduoduo (พินตัวตัว) ก็ปรับกลยุทธ์เข้าร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจในวันคนโสดโดยเฉพาะ ทั้งยังรวมไปถึงบริษัทแอมะซอนของสหรัฐฯ อีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ยอดจำหน่ายสินค้าแบรนด์อเมริกัน หรือการซื้อสินค้าผ่านแอมะซอนในวันคนโสดปีนี้อาจจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด เพราะผลสำรวจความคิดเห็นผู้บริโภคชาวจีนที่จัดทำขึ้นเมื่อตอนต้นเดือนพฤศจิกายน บ่งชี้ว่าชาวจีนร้อยละ 78 ระบุว่าเขาจะไม่ซื้อสินค้าจากบริษัทสัญชาติอเมริกัน เพราะไม่พอใจที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาประกาศสงครามการค้าและขึ้นกำแพงภาษีนำเข้าจากจีนอย่างต่อเนื่อง ทั้งยังทำให้เกิดความตึงเครียดทางเศรษฐกิจที่กระทบไปถึงอีกหลายประเทศ
ข้อมูลของบลูมเบิร์กระบุด้วยว่า อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนในปีนี้อาจลดต่ำกว่าร้อยละ 6 ที่เคยคาดการณ์ไว้ เป็นผลจากการทำสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ ที่ต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน และการจัดเทศกาลจำหน่ายสินค้าราคาพิเศษในวันคนโสด ถูกตั้งเป้าว่าจะเป็นตัวกระตุ้นเม็ดเงินในระบบการค้าในปีนี้ โดยบริษัทอาลีบาบาซึ่งจัดงานฉลองวันคนโสดทุกปีที่นครเซี่ยงไฮ้ก็ระบุด้วยว่า ปีนี้มีการเชิญคนดังมาร่วมโปรโมตงานกันอย่างคับคั่ง รวมถึงการเชิญ 'เทเลอร์ สวิฟต์' นักร้องหญิงชาวอเมริกันชื่อดัง มาร่วมงานด้วย
ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน ตัวแทนรัฐบาลจีนและสหรัฐฯ ก็ออกมายืนยันว่าการเจรจาเพื่อหาทางยุติสงครามการค้าดำเนินไปอย่างต่อเนื่อง และตัวแทนรัฐบาลทั้งสองประเทศได้หารือกันไปถึงแนวทางที่จะเจรจายุติสงครามการค้าเป็นการถาวรแล้ว แม้จะยังไม่อาจบอกได้ว่าการเจรจาต่อรองจะบรรลุผลได้เมื่อไหร่ แต่ก็เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าทั้งสองประเทศต้องการหาทางออกจากเรื่องนี้ร่วมกัน
ที่มา: ABC News/ Bloomberg/ Cnet/ Forbes
ข่าวที่เกี่ยวข้อง: