ไม่พบผลการค้นหา
รมว.ยุติธรรม สั่งอธิบดีราชทัณฑ์ เร่งตรวจสอบเหตุจลาจลเรือนจำกระบี่ ประสานบูรณาการร่วมกับทุกหน่วยงานในพื้นที่ทำให้จบโดยเร็ว กำชับขนย้ายนักโทษต้องละเอียดถี่ถ้วน ยันมียาโควิดพอสำหรับผู้ต้องขังทุกคน

สมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีการเกิดเหตุจลาจลในเรือนจำจังหวัดกระบี่ว่า ตนได้ติดตามและรับฟังรายงานอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงเกิดเหตุความวุ่นวายตั้งแต่เช้าวันที่ 16 ธ.ค. จากนั้นในช่วงค่ำแกนนำผู้ต้องขังประมาณ 40 คน เรียกร้องหลังมีผู้ต้องขังที่ติดโควิด-19 โดยมี ผบ.เรือนจำ และ ผบก.ภูธรจังหวัดกระบี่ เข้าเจรจา และทยอยนำผู้ต้องขังที่ป่วยส่งโรงพยาบาล และย้ายผู้ต้องขังหญิงไปยังเรือนจำชั่วคราวกระบี่น้อย จนกระทั่งเวลาประมาณ 04.30 น.วันที่ 17 ธ.ค. ผู้ต้องขังได้เริ่มเผาทำลายอาคารร้านค้าสงเคราะห์และสูทธรรม โดยใช้ถังแก๊ส โดยเจ้าหน้าที่ได้ใช้รถดับเพลิงเข้าควบคุมไม่ให้เพลิงลุกลาม

สมศักดิ์ กล่าวอีกว่า เงื่อนไขของการกำกับดูแลเรือนจำในต่างจังหวัดนั้น อำนาจจะอยู่ที่จังหวัด ตนจึงได้สั่งการให้ นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ไปประสานกับจังหวัดกระบี่ และร่วมตรวจสอบในประเด็นที่เกิดขึ้น โดยตนได้สั่งให้ร่วมทำงานแบบบูรณาการร่วมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แก้ปัญหาให้จบโดยเร็ว และได้มีการกำชับเรื่องการขนย้ายผู้ต้องขังที่ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ต้องทำอย่างละเอียดถี่ถ้วน ตนได้กำชับเรื่องนี้ไปอีกเรื่องหนึ่ง เพราะต้องขนย้ายผู้ต้องขังไปหลายจุด ส่วนการที่ผู้ต้องขังนำเรื่องโควิด-19 มาอ้างเป็นเหตุในการก่อจลาจลนั้น ข้อเท็จจริงคือ ในเรือนจำจังหวัดกระบี่ มียารักษาโควิดและยาฟ้าทะลายโจรเตรียมพร้อมอยู่แล้ว และมีเพียงพอสำหรับผู้ต้องขังทุกคน รวมถึงมาตรการควบคุมและรักษาโควิดก็มีเตรียมพร้อมอยู่แล้ว ซึ่งในชั้นการตรวจสอบอย่างละเอียดคงต้องรอทางกรมราชทัณฑ์เป็นผู้แถลงให้ทราบอย่างเป็นทางการเป็นระยะ


นายกฯกำชับให้แก้ไขสถานการณ์

ธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม รับทราบรายงานสถานการณ์การก่อจราจลภายในเรือนจำจังหวัดกระบี่ ภายหลังแกนนำผู้ต้องขังชาย ก่อจลาจลภายในเรือนจำ ขณะนี้ สถานการณ์อยู่ในการควบคุมได้  ไม่มีการขยายความรุนแรงเพิ่มขึ้น โดยผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกระบี่ และนายอายุตม์ สินธพพันธ์ุ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เข้าพื้นที่เพื่อร่วมควบคุมเหตุแล้ว โดยได้ดำเนินการย้ายผู้ต้องขังหญิงไปที่เรือนจำชั่วคราวกระบี่น้อย อ.เมือง จ.กระบี่ เพื่อดูแลความปลอดภัย ส่วนผู้ต้องขังที่ยังอยู่ในเรือนจำ ให้คัดกรองโควิด-19 แยกผู้ป่วยโควิด-19 เพื่อเร่งรักษาตามขั้นตอน 

ธนกร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจับตาควบคุมสถานการณ์ภายในเรือนจำ รักษาผู้ต้องขังที่ติดเชื้อให้ดีที่สุด และอำนวยความสะดวกในการขนย้ายผู้ต้องขังที่จะต้องย้ายเรือนจำด้วยความปลอดภัย โดยมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งค้นหาสาเหตุและถอดบทเรียนจากสถานการณ์ดังกล่าวเพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย พร้อมสั่งให้มีรายงานความคืบหน้าอย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย