วันที่ 20 ก.ค. 2565 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 13 (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) เป็นพิเศษ ญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย อภิปราย จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ข้อหาทุจริตถุงมือยาง ภาค 2 โดยระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะนายกรัฐมนตรี ทราบถึงการทุจริตที่เกิดขึ้นในคลังสินค้าเป็นอย่างดี และมีความสูญเสียกว่า 2 พ้นล้านบาท แต่กลับเพิกเฉยไม่ดำเนินการ ปัจจุบันยังไม่สามารถติดตามเงินที่สูญหายไปได้ รู้ดีว่าเกี่ยวข้องกับ จุรินทร์ แต่เกรงใจไม่ปลดออก เพราะหากปลดแล้วตำแหน่งนายกฯ ของตนอาจจะไม่มั่นคง 

ขณะที่ จุรินทร์ มีพฤติกรรมฉ้อฉล รู้เห็นเป็นใจกับการทุจริต เพราะผู้ทุจริตนั้นเป็นคนใกล้ชิดตน และตนได้แต่งตั้งขึ้นมา จึงไม่อายัดเงินให้ทันเวลา จนในที่สุดผู้ทุจริตได้นำเงินกระจายไปฟอกเงินยังจุดต่างๆ จนไม่อาจนำกลับไม่ได้ ประเสริฐ ยืนยันว่าการอภิปรายครั้งนี้เป็นข้อมูลใหม่ โดยจะแสดงให้เห็นเส้นทางการเงินของกระบวนการทุจริตดังกล่าว

ประเสริฐ ย้อนความว่า สืบเนื่องจากองค์การคลังสินค้า (อคส.) ได้ทำสัญญาขายถุงมือยาง 7 บริษัท ที่ถูกอุปโลกน์ขึ้นมา ด้วยคำสั่งซื้อจำนวนมาก อคส. จึงทำสัญญากับบริษัท การ์เดียน โกลฟส์ จำกัด ปัจจุบันบริษัทดังกล่าวได้รับเงินมัดจำไปแล้ว 2 พันล้านบาท แต่ อคส. ยังไม่ได้รับมอบถุงมือยางตามคำสั่งซื้อแต่อย่างใด สุชาติ เดชจักรเสนา ประธานกรรมการ อคส. มีความเกี่ยวข้องกับ จุรินทร์ และผู้กระทำความผิด สนับสนุนการทุจริตกันเป็นกระบวนการ หลังจาก ประเสริฐ ได้ยื่นคำร้องต่อ ป.ป.ช. เห็นว่ามีมูลจึงได้แจ้งข้อกล่าวหากับผู้เกี่ยวข้อง 22 ราย เมื่อปี 2564 แต่ จุรินทร์ กลับทอดเวลาปล่อยให้ สุชาติ ลอยนวล เพราะเกรงว่าภัยจะมาถึงตัว

“สิ่งที่ จุรินทร์ เคยพูดไว้ในสภาเมื่อ 18 ก.พ. 2563 ว่าใครก็ตามที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด ผมไม่มีเว้น แม้แต่ประธานบอร์ด” จากนั้น ประเสริฐ ได้เปิดคลิปหลักฐานคำพูดดังกล่าวของ จุรินทร์ ต่อที่ประชุมสภา “ป.ป.ช.ได้บันทึกความผิดประธานบอร์ด แต่ จุรินทร์ ยังให้ สุชาติ เป็นประธานบอร์ดไปจนหมดวาระตามกำหนด อย่างนี้ถือว่าโกหกกลางสภา”

จากนั้น ประเสริฐ ได้เปิดเผยเส้นทางการฟอกเงินจำนวน 2 พันล้านบาท หลังจาก บ.การ์เดียน โกลฟส์ฯ รับโอนเงินดังกล่าวมาแล้ว ผ่านไปกว่า 12 วัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จึงเพิ่งรับทราบเรื่องทุจริต แล้วผ่านไปกว่า 15 วัน จึงจะมีมติอายัดบัญชีเงิน ส่งผลให้ผู้ทุจริตฟอกเงินอย่างสะดวกสบาย โดยมีการถอนเงินสดไปจากธนาคารหลายแห่ง ส่วนใหญ่อยู่ใน จ.นครปฐม มีข้อสังเกตว่าธนาคารได้สำรองเงินจำนวนมากไว้อย่างผิดปกติเหมือนเตรียมไว้แล้ว การถอนเงินจำนวนมากอย่างมีพิรุธเช่นนี้ ธนาคารได้แจ้ง ปปง. หรือไม่ เช่นเดียวกับการโอนเงินให้นิติบุคคลหลายแห่งที่ส่อพิรุธ เพราะแต่ละแห่งมีลักษณะเหมือนไม่ได้ดำเนินธุรกิจ และไม่ได้เกี่ยวกับถุงมือยางเลย รวมถึงโอนไปยังบริษัทในประเทศเกาหลีใต้อีกด้วย ถือเป็นการโอนเงินข้ามประเทศ

“พล.อ.ประยุทธ์ ในฐานะรักษาการตามกฏหมายฟอกเงิน หัวหน้าผู้บริหารราชการแผ่นดิน และ จุรินทร์ จะต้องสั่งการโดยเร็ว เพื่อติดตามเส้นทางการเงินจำนวน 300 กว่าล้านบาท ว่าสะพัดกลับจากประเทศเกาหลีใต้ กลับมาลงกระเป๋าใครในประเทศไทย ผมสงสัยว่าเงินอาจจะบินกลับมาที่กระทรวงแถวๆ สนามบินน้ำ กระทรวงที่ติดอยู่กับแม่น้ำเจ้าพระยา”

นอกจากนี้ ประเสริฐ ยังเผยว่า นอกจากการฟอกเงินแล้ว ยังมีการสร้างหลักฐานเท็จ ออกหนังสือรับรองยอดเงินฝาก เพื่อเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท การ์เดียนฯ เป็นปฏิบัติการทุจริต รวบเงิน 857 ล้าน ใน 5 ชั่วโมง ม้วนเดียวจบ โอนเงินเข้าออก และให้ธนาคารสร้างหลักฐานหนังสือรับรองเงินฝาก แม้จะไม่มีการชำระค่าหุ้นอย่างแท้จริง โดยผู้ทุจริตได้นำเงินที่ได้มาไปใช้อย่างฟุ่มเฟือย ขณะที่ จุรินทร์ กลับจำกัดความผิดไว้ที่แพะคือเจ้าหน้าที่ 3 ท่าน เพื่อตัดตอนไม่ให้ไปถึง สุชาติ ประธานบอร์ด อคส. และตัว จุรินทร์ เอง

“วันนี้ จุรินทร์ อย่ามาแก้ตัวในสภาว่าไม่เกี่ยวข้องใดๆ กับกระบวนการโกงหรือฟอกเงิน ผมถือว่ากรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา ถ้าก่อนวันที่ 14 ก.ย. 2563 พล.อ.ประยุทธ์ และ จุรินทร์ ไม่แค่ย้ายอดีต ผอ.อคส. คนเก่า แต่ใช้อำนาจในมือยับยั้ง ความเสียหายก็ไม่เกิดขึ้น” ประเสริฐ กล่าว

ประเสริฐ กล่าวว่า เกือบ 2 ปี แล้ว ยังไม่ได้เงินกลับคืนมา ตนขอเรียกร้องให้ ป.ป.ช. สืบสวน พล.อ.ประยุทธ์ และ จุรินทร์ พร้อมดำเนินคดีกับฝ่ายการเมืองอีกครั้ง โดยตนจะนำข้อมูลใหม่ และเส้นทางการเงินที่อภิปรายในวันนี้ ไปมอบให้ ป.ป.ช. เพิ่มเติมด้วย เพราะการละเว้นไม่ยับยั้ง ปล่อยปละละเลยให้เกิดการฟอกเงิน ก็ถือเป็นการทุจริตแล้ว