วันที่ 8 ก.ย. 2565 ที่ห้องประชุมกองทัพอากาศ กองบัญการกองทัพอากาศ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) นำประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ 6/2565 ซึ่งถือเป็นการประชุมครั้งสุดท้ายของงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 โดยมี พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) พล.ตร.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) และพล.ร.อ.ธีรกุล กาญจนะ รองผู้บัญชาการทหารเรือ (รองผบ.ทร.) เข้าร่วมแทน พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) เนื่องจากติดโควิด-19 

ทั้งนี้ก่อนการประชุม พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผบ.ทสส. ได้นำ ผบ.เหล่าทัพ และเสธ.ทหาร วางพานพุ่มถวายสักการะพระอนุสาวรีย์จอมพลสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอเจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ กรมหลวงพิษณุโลกประชานารถ ก่อนที่จะเข้าห้องประชุมในเวลาประมาณ 09.30 น. 

จากนั้นเวลา 12.30 น. พล.ท.ธีรพงศ์ ปัทมสิงห์ พล.ต.ที่รัก สร้อยนาค และพ.อ.ญ.ฉัตรรพี พูนศรี ในฐานะทีมโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย กล่าวว่า ได้มีการประชุมวางแผนการฝึกคอบร้าโกลด์ (Cobra Gold) ซึ่งเป็นการฝึกร่วม หรือผสมทางการทหารระดับพหุภาคีที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปีในประเทศไทย โดยกำหนดวัตถุประสงค์การฝึกภารกิจสำคัญ แนวความคิดการปฏิบัติ และแผนการฝึก รวมถึงการบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือ การพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (สทอภ.) ระหว่าง ผบ.ทสส. และปกรณ์ อาภาพันธุ์ ผอ.สทอภ. โดยเป็นการบูรณาการข้อมูลทางด้านเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศให้มีประโยชน์ ซึ่งสามารถใช้งานจากภาพถ่ายดาวเทียม เพื่อสนับสนุนการใช้งานในสภาวะปกติ และสภาวะฉุกเฉิน 

ขณะที่กองทัพบก ได้เสนอผลการปฏิบัติงานที่สำคัญในปีงบประมาณ 2565 ได้แก่ด้านกำลังพล การรับสมัครทหารกองเกินเข้ารับราชการเป็นทหารกองประจำการ รวมถึงด้านการข่าว สนับสนุนกองกำลังป้องกันชายแดน การสนับสนุนยุทโธปกรณ์ และการบูรณาการร่วมกันในกิจการด้านพลเรือน 

ด้านกองทัพเรือนั้น ได้สรุปผลการฝึกของกองทัพเรือ ประจำปี 2565 เพื่อให้สอดคล้องแนวคิด "รบอย่างไร ฝึกอย่างนั้น" และถ่ายทอดความรู้จากรุ่นสู่รุ่นภายใต้แนวคิด "พี่สอนน้อง ครูสอนศิษย์" รวมถึงการช่วยเหลือทางด้านบรรเทาสาธารณภัย และด้านมนุษยธรรม

กองทัพอากาศ ได้บูรณาการการใช้ยุทโธปกรณ์ระบบอากาศยานไร้คนขับ และระบบบัญชาการและควบคุม และการเชื่อมโยงข้อมูลทางยุทธวิธี เพื่อให้เกิดเป็นระบบเชื่อมโยงข้อมูลทางยุทธวิธีระดับกองทัพไทย (Royal Thai Armed Forces Link) และการบูรณาการด้านข่าวกรองที่ทันสมัย เข้าถึงง่าย สะดวกรวดเร็ว 

ในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาตินั้น ได้นำเสนอการพัฒนาบุคลากร เช่นการสร้างศูนย์ Digital Forensics, FBI Training Academy รวมถึงการพัฒนาประสิทธิภาพในการทำงาน เช่น การพัฒนาการรับแจ้งความออนไลน์ และระบบจัดการคดีอาชญากรรมทางคอมพิวเตอร์ ติดตั้งกล้องวงจรปิดครอบคลุมจุดล่อแหลม เพื่อสร้างความปลอดภัยให้ชุมชน และการพัฒนาระบบการบริหารจัดการ ทำแอปพลิเคชัน 'ทันใจ' เพื่อเป็นการสื่อสารระหว่างผู้บังคับบัญชาและผู้ใต้บังคับบัญชา 

รวมถึง พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผบ.ทสส. ยังได้ย้ำให้เหล่าทัพเฝ้าติดตามสถานการณ์ทางการเมือง และความมั่นคง รวมถึงขอบคุณเหล่าทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ได้ทุ่มเท เสียสละ ร่วมแรง ร่วมใจ ตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมาในการทำงานเพื่อประเทศชาติและประชาชน และขอให้ดำรงความร่วมมือระหว่างเหล่าทัพ และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อย่างแน่นแฟ้นและต่อเนื่องตลอดไป

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า การประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพในครั้งนี้อาจถือได้ว่าเป็นการประชุมส่งท้ายผู้บัญชาการเหล่าทัพที่จะเกษียณอายุราชการ คือ พล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ ผบ.ทอ. พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผบ.ทร. และพล.ตร.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.

อย่างไรก็ตาม มีรายงานอีกว่า เมื่อวันทีี่ 7 ก.ย. ที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ลงนามท้ายบัญชีรายชื่อแต่งตั้งโยกย้ายนายทหารชั้นนายพล ร่วมกับ รมช.กลาโหม ปลัดกลาโหม ผบ.ทสส. ผบ.ทบ ผบ.ทอ. และผบ.ทร. แล้ว หลังการประชุมบอร์ด 7 เสือกลาโหม เมื่อวันที่ 30 ส.ค. ที่ผ่านมา 

กองทัพสั่งจับตาภัยน้ำท่วม หวั่นซ้ำรอยปี 54 ปัดตอบม็อบชุมนุมเร้า 8 ปี

พล.ท.ธีรพงศ์ ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า พล.อ.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผบ.ทสส. ได้เน้นย้ำให้เหล่าทัพติดตาม และวิเคราะห์สถานการณ์ทางการเมือง และความมั่นคงระหว่างประเทศทั้งในระดับโลกและในระดับภูมิภาคที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อประเทศไทย โดยยึดกรอบการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลบนพื้นฐานของการรักษาสมดุลด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ

รวมถึงไม่ประมาท กับการเตรียมการบรรเทาสาธารณภัย เช่น น้ำท่วม ที่กังวลว่าจะเหมือนปี 2554 ซึ่งจากการศึกษาอาจเกิดจากลานินญ่า โดยก่อนเกิดภัยเป็นลักษณะที่ว่าติดตามสถานการณ์ ประเมิน และบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และจะมีการแจ้งเตือนไปยังประชาชนด้วยช่องทางต่างๆ เช่น การใช้วิทยุโทรทัศน์ หรือสื่อทางโซเชียล รวมถึงกำชับให้หน่วยทหารแจ้งเตือน และช่วยเหลือพี่น้องประชาชน ด้วยการใช้ยุทโธปกรณ์ต่างๆ เพื่อเปิดทางระบายน้ำ ขุดลอกวัชพืชไม่ให้กีดขวางทางน้ำ จากนั้นเมื่อเกิดภัยขึ้นมา จะระดมกำลังทหาร บูรณาการร่วมกับหน่วยงานราชการ ใช้ ทั้งเรือท้องแบน เครื่องผลักดันน้ำ เครื่องสูบน้ำ รวมไปถึงการฟื้นฟูด้วยการซ่อมถนน หรือขุดลอกอะไรก็ว่าไป แต่การแก้ปัญหาระยะยาวจะเป็นการขุดลอกคลอง และทำแก้มลิงเพื่อช่วยเหลือต่อไป ซึ่งทาง ผบ.ทสส. และผบ.ทุกเหล่าทัพ ให้ความสำคัญเร่งด่วน เพราะกระทบกับชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกรัฐมนตรีเตรียมการเปิดหน่วยทหารในพื้นที่ที่วิกฤต พล.ท.ธีรพงศ์ ถามย้อนไปว่า หมายถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมช่หรือไม่ ก่อนระบุว่า ในส่วนนี้พื้นที่ไหนที่กระทบหนักๆ ก็จะเปิดค่ายเพื่อให้ประชาชนสามารถอพยพเข้าไปอยู่ได้ เป็นที่พักพิงชั่วคราว ซึ่งจะพิจารณาเป็นพื้นที่ไป 

เมื่อถามถึงความเคลื่อนไหวของกองทัพต่อสถานการณ์ทางการเมือง เช่น วาระการดำรงตำแหน่ง 8 ปี ของ พล.อ.ประยุทธ์ หรือการชุมนุมของภาคประชาชน พล.ท. เพียงยิ้มรับ และไม่ได้กล่าวแต่อย่างใด