ไม่พบผลการค้นหา
'พะเยาว์ อัคฮาด' - 'พันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ' ส่งจดหมายเปิดผนึกถึง ผู้บัญชาการทหารบก เรียกร้องให้ยุติการจัดซื้ออาวุธ ตัดสวัสดิการที่สิ้นเปลืองงบประมาณ

นางพะเยาว์ อัคฮาด แม่ของน.ส.กมลเกด อัคฮาด หรือน้องเกด และนายพันธ์ศักดิ์ ศรีเทพ พ่อของนายสมาพันธ์ ศรีเทพ หรือน้องเฌอ สองผู้สูญเสียคนในครอบครัวจากการสลายการชุมนุมคนเสื้อแดง เมื่อปี 2553 ได้ร่วมกันส่งจดหมายเปิดผนึกถึงพล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เรื่อง​ ให้ยุติการซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ในช่วงวิกฤตโรคระบาด

โดยมีเนื้อหาดังนี้

ตามที่ขณะนี้ทั่วโลกกำลังประสบวิกฤตโรคระบาดจากไวรัสโควิด 19 ซึ่งแพร่กระจายเป็นวงกว้างทั่วโลก มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจำนวนมาก ประเทศไทยเป็นอีกประเทศที่มีการระบาดของไวรัสชนิดนี้โดยเริ่มระบาดในช่วงต้นปี ปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตหลายรายทำให้รัฐบาลประกาศนโยบายอันเป็นการจำกัดสิทธิหลายประการ

เช่น ห้ามประชาชนเดินทางหรือห้ามรวมตัวรวมกลุ่มอันอาจ สั่งผลกระทบทำให้เกิดการแพร่เชื้อ ซึ่งหลายมาตรการทำให้ประชาชนจำนวนมากต้องประสบภาวะไร้งานทำ ขาดแคลนอาหารและอุปกรณ์ป้องกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งโรงพยาบาลหลายแห่งประสบภาวะขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์และเวชภัณฑ์ในการรักษา ดังปรากฏในข่าวรายวันว่ามีคนฆ่าตัวตายอันเนื่องมาจากการขาดแคลนอาหาร ความสิ้นหวัง ไร้รายได้ ประชาชนจำนวนมากต้องรอรับการบริจาคอาหารจากผู้มีจิตเมตตา ประเทศตกอยู่ในภาวะวิกฤตอันยากจะเยียวยาทั้งในปัญหาเฉพาะหน้าและในระยะฟื้นฟูซึ่งต้องใช้เวลาอีกหลายปี

ขณะเดียวกันกองทัพบกซึ่งสังกัดกระทรวงกลาโหม กลับดำเนินการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์จำนวนมาก สวนทางกับภาวะที่ประเทศประสบปัญหา ทั้งที่ประเทศไม่ได้อยู่ในภาวะสงครามหรือมีภัยคุกคามอันถึงขนาดต้องตระเตรียมการรบแต่อย่างใด มิหนำซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ในหลายรายการที่จัดซื้อ ก็เป็นการใช้เงินภาษีของประชาชนอย่างสิ้นเปลือง ไม่สมเหตุสมผลในการจัดซื้อทั้งในแง่ราคาที่สูงเกินสมควรและความจำเป็นในการซื้อ ทำประหนึ่งว่าประเทศมีเงินมากมายมหาศาล ทั้งที่ประชาชนในประเทศยากแค้นแสนเข็ญ และกำลังประสบภาวะวิกฤติอย่างแสนสาหัส

ข้าพเจ้าในฐานะประชาชนมิอาจทนนิ่ง ดูพวกท่านผลาญงบประมาณแผ่นดิน โดยมิคำนึงถึงประชาชนในชาติ จึงขอยื่นข้อเรียกร้องต่อกองทัพดังนี้

​​1. ให้กองทัพงดเว้นการจัดซื้ออาวุธตามงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563 รวมทั้งงบผูกพันอันจะต้องจ่ายของกองทัพทั้งหมด รวมทั้งงดเว้นการซื้ออาวุธในปีงบประมาณถัดไปอีก 3 ปี และคืนเงินงบประมาณในปี 2563 คืนแก่รัฐเพื่อที่รัฐจะได้นำเงินดังกล่าวมาดำเนินการบรรเทาความทุกข์ยากของประชาชน จัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์และแก้ไขสถานการณ์อันเป็นวิกฤตขณะนี้ให้เบาบางไป ส่วนอาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพที่มีความจำเป็นต้องใช้ตามราชการอันสมควรและจำเป็น ให้กองทัพชี้แจงต่อสภาผู้แทนราษฎรถึงความจำเป็นอย่างแท้จริงและจัดซื้อให้น้อยที่สุดตามความจำเป็นนั้น ทั้งนี้ต้องคำนึงถึงฐานะทางเศรษฐกิจ สังคมและวิกฤตของประเทศเป็นที่ตั้ง

2. ให้กองทัพงดเว้นการให้สวัสดิการแก่บุคลากรของกองทัพจนเกินสมควร เช่น เงินประจำตำแหน่ง เงินเพิ่มสำรับรถประจำตำแหน่งของนายทหาร ค่าเบี้ยหวัดประชุมที่สูงเกินสมควร รวมทั้งสวัสดิการอื่นอันเกินจำเป็นโดยไม่คำนึงถึงสภาพเศรษฐกิจ สังคมและวิกฤตของประเทศ และให้บุคลากรของกองทัพงดเว้นการรับเงินอันทับซ้อนกัน ในการปฏิบัตรราชการทั้งในหน่วยงานเดียวกันและหลายหน่วยงาน

3. ให้กองทัพงดเว้นการกระทำใดๆ อันจะเป็นการผลาญงบประมาณแผ่นดินในช่วงวิกฤติ ไม่ปฏิบัติงานอันเป็นการล้นเกิน และใช้งบประมาณโดยอ้างวิกฤตอันเปล่าประโยชน์ รวมทั้งต้องไม่กระทำการใดอันเป็นการลิดรอนสิทธิเสรีภาพของประชาชน จนเกินกว่าเหตุหรือเกินกว่ากรณี

​​ด้วย 3 ข้อเรียกร้องนี้ ขอให้กองทัพรับไปปฏิบัติเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนต่อไป

อ่านเพิ่มเติม